ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ทอปบูตยิ้มร่า!! “ประชาธิปัตย์”สหบาทา “นคร” ตอกอนาคตเท้าแหย่คุกไม่ต่าง “อ้ายปึ้ง”ที่รับใช้ “ทักษิณ”จนภัยถึงตัว “เสี่ยเต้น”ผสมโรง ปชป. บ่อนทำลายประชาธิปไตย บรรยากาศ “นักเลือกตั้ง”สาดโคลน “ข้าชั่ว เอ็งก็เลว” แบบนี้ เข้าทาง “ขุนทหาร”อยู่บนภูดู “คนอะไร”กัดกัน แถมอุ่นใจ “ดีลผสมพันธุ์เฉพาะกิจ”ที่ร่ำลือกันว่า “2 ค่ายการเมือง”อาจหันมาจับมือกัน ตัดท่ออำนาจ “ทอปบูต”คงไม่มีทางเกิด
เจอกันในชั้นศาล .. หลัง นคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความขอโทษ ขอโพย พร้อมอวย ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯหนีคุก ในโอกาสอายุครบ 69 ปี แผล่บๆ .. บางช่วงบางตอนอ้างว่าเคยร่วม “เบื้องหลังถ่ายทำ” โค่นล้มรัฐบาลระบบทักษิณ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพี่ชาย ปี 2549 มาจนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2557 .. เนื้อหาไล่เปิดโปง “ทฤษีสมคบคิด” ที่ว่า ก็สาดซัดสังกัดเก่า “ประชาธิปัตย์” ราวกับเผาบ้านตัวเอง .. โจมตีว่าพรรคสมคบกับเครือข่ายเผด็จการเพื่อล้มประชาธิปไตย จนทำให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนไม่พอใจ และเรียงหน้ากันออกมาสหบาทา “นคร” อย่างต่อเนื่อง .. ทั้งทีมกฎหมายอย่าง วิรัตน์ กัลยาศิริ – ราเมศ รัตนเชวง หรือผู้แทนบ้านเดียวกันอย่าง หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ที่มีบทบาทสำคัญในการชำแหละขบวนการการโกงกินจำนำข้าวของรัฐบาลปู ถึงขั้นสาปส่งว่า “ไม่มีใครคบ” .. แล้ว “นคร” ยังมาเจอสอนมวยแบบ “พี่สอนน้อง” จาก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกด้วย .. ไม่ใช่แค่วิพากษ์บทบาทของ “นคร” ส.ส.รุ่นหลัง ที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวเท่านั้น ยังยก “วิบากกรรม” ของอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยด่าทักษิณ แล้วกลืนน้ำลายไปซุกอกทักษิณ .. อย่าง “อ้ายปึ้ง”สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่ได้ดิบได้ดีจนเป็นรองนายกฯ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ แต่สุดท้ายเป็น “จำเลย” ใกล้ติดคุกในคดีที่ทำเพื่อ “นายแม้ว”อยู่รอมร่อ .. แล้วดูท่า “นคร”อาจจะไม่ได้ลาภยศอย่างรุ่นพี่ แต่คุกตารางอาจมาก่อนกาล เมื่อทางพรรคประชาธิปัตย์เอาจริง ..
ทุกเสียงต่างสร้อยตอนท้ายไว้ว่า คงต้องติดตามกันในศาล ตามคิวที่วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ทางค่ายสีฟ้า เตรียมไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบ .. ซึ่งทาง “นคร” เองก็ประกาศพร้อมเปิดหลักฐาน เรื่องที่อ้างขึ้นมา ในชั้นศาล เท่านั้น .. ขณะที่ “เสี่ยเต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ที่กำลังเสียหลักโดน “แรมโบ้อีสาน” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำเสื้อแดงโคราชกระชากหน้ากาก “แก๊งสู้แล้วรวย” .. ก็ได้ทีกันมาใช้ประเด็นที่ “นคร” เปิดขึ้นมา หากินกลบเกลื่อนไปพลาง ขึ้นขนาดยกย่อง “นคร” ราวกับ “วีรบุรุษประชาธิปไตย” .. รวมไปถึง “คนเพื่อไทย” อีกหลายหน่อที่ใช้เป็นประเด็นโจมตี สาดโคลนไปยังคู่อริ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะบ่อนทำลายประชาธิปไตย .. กลายเป็นสงครามปิงปองของ “นักเลือกตั้ง” สาดโคลนไปมา ที่ไม่ทันไรก็เละเทะ ในทำนอง “ข้าก็ชั่ว เอ็งก็เลว” กันไปทั้ง 2 ฝ่าย .. รูปการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องบอกว่าเข้าทาง “ขุนทหาร”โดยแท้ ทั้งในแง่ภาพของ “นักการเมือง” ที่พร้อมจะทะเลาะกันได้ทุกเมื่อ .. อีกทั้งยังความขัดแย้งราวกับหว่างเขาควายของ “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์” ก็นำความอุ่นใจมาให้ว่า “ดีลผสมพันธุ์เฉพาะกิจ”ที่ร่ำลือกันว่า 2 ค่ายการเมืองอาจหันมาจับมือกัน ตัดท่ออำนาจ “ท๊อปบูต”คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้
**ตะกุกตะกักทุกขั้นตอน!! เส้นทาง “ว่าที่ กกต.”วิบากไม่เลิก “ผู้หวังดี”ทักเลือกประธาน กกต.ในขณะยังได้ไม่ครบ 7 เสือ อาจขัดกฎหมาย แม้ “วิษณุ – พรเพชร”จะฟันธง ไปต่อได้ไร้ปัญหา แต่ “บิ๊ก คสช. สาย สนช.”ก็ยังร้อนใจไล่เช็กผู้รู้ สรุปทุกเสียงต่างห่วงเกิดข้อครหา อาจทำให้งานฉลองเก้าอี้ “ประธาน กกต.”อาจต้องเลื่อนออกไปก่อนชั่วคราว
จิ้งจกทักยังต้องฟัง .. แล้วความเห็นของ เจษฏ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษากรรมร่างรัฐธรรมนูญ และ อดีต กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่ฟังกันบ้างหรือ .. กับการที่ “อ.เจษฎ์” ร้องทักว่าการประชุม “5 ว่าที่ กกต.” ที่มีวาระสำคัญเลือก “ประธาน กกต.” ในวันนี้ (31 ก.ค.) อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ใน “มาตรา 12” เสียเอง .. เหตุเพราะยังสรรหา กกต.ได้ไม่ครบ 7 คน ตามที่กฎหมายกำหนด แล้วจะให้ 5 คนที่ได้มาก่อนเลือกประธาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อาจมีปัญหาได้ .. แต่ดูเหมือน “ผู้ที่เกี่ยวข้อง”จะไม่ค่อยฟัง ด้วยมีความเห็นมาตั้งแต่ก่อน สนช.โหวตรับรอง 5 ว่าที่ กกต. ตีตกไป 2 ราย แล้วว่า แค่ 5 คนก็ทำงานได้ .. ทั้ง วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รวมทั้ง พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ก็เห็นสอดคล้องต้องกัน ที่น่าตลกก็คืออ้างอิง “มาตรา 12” เหมือนกันเสียด้วย .. สาระมีอยู่ว่า “..ในกรณีที่ผู้ซึ่งวุฒิสภาให้ความเห็นชอบยังได้ ไม่ครบจำนวนที่ต้องสรรหาหรือคัดเลือก แต่เมื่อรวมกับกรรมการซึ่งยังดำรงตำแหน่งอยู่ ถ้ามี มีจำนวนถึงห้าคน ก็ให้ดำเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้..” ..
ในมุมมองของ “อ.เจษฎ์”เห็นว่า เจตนารมณ์ของกฎหมาย หมายถึงกรณีที่ กกต.ได้รับแต่งตั้งไปแล้ว มีเหตุให้บางคนต้องหลุดจากตำแหน่ง เหลือแค่ 5 หน่อ ก็ยัง “ทำงานได้” .. ไม่ได้หมายถึงกรณีการเลือกและแต่งตั้งใหม่ ซึ่งสวนทางกับ “วิษณุ – พรเพชร”ที่มองว่าเดินหน้าต่อได้ ราวกับอ่านกฎหมายคนละฉบับ .. ไม่ใช่แค่ “อ.เจษฎ์” เท่านั้นที่แสดงความเป็นห่วงประเด็นนี้ ยังมี “ปรมาจารย์กฎหมายประเทศไทย” อีกหลายคนที่เห็นไปในทิศทางเดียวกัน .. หากแต่ออกมาเปิดปากตรงๆ ไม่ได้ ด้วยไม่อยากทำให้เป็นประเด็น เพราะจับทาง “รัฐบาลทหาร” ลำบาก ว่าจะเลือกเดินทางไหน .. แล้วยังมี “บิ๊ก คสช.”เองก็เป็นห่วงเช่นกัน ด้วยลึกๆ แล้วเห็นว่า ไม่น่าจะเดินต่อได้ ถึงกับไล่โทร ปรึกษาผู้รู้-ผู้เกี่ยวข้องไปทั่ว เพื่อความแน่ใจ .. โดย “บิ๊ก คสช.” คนนั้น ไม่ได้อยู่ในฝ่ายบริหาร เป็น “น้องชายพี่ใหญ่”แต่คอยคุมงานในฝ่ายนิติบัญญัติ ได้ร่วมเป็นกรรมธิการตรวจสอบคุณสมบัติ 7 ผู้เข้ารอบสุดท้าย ในชั้น สนช. เสียด้วย .. แต่รู้ว่าทัดทานไม่ได้ ก็เลยไม่เอ่ยเอื้อนให้เปลืองน้ำลาย มีแต่บ่นพึมพัม ลอดไรฟันออกมาว่า “พี่ใหญ่เขาจะเอาให้ได้” .. ล่าสุดแว่วว่า มีความเห็นจาก “ผู้หวังดี”ที่บอกว่า การเลือกประธาน กกต.ในวันนี้ ไม่เข้ากับ มาตรา 12 แล้วยังอาจขัดต่อ มาตรา 8 ในกฎหมายฉบับเดียวกันที่ว่า “คณะกรรมการการเลือกตั้งประกอบด้วยกรรมการจำนวน 7 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา...” เสียด้วย .. ตามความเห็นแย้ง ที่ประดังออกมา ก็ต้องดูว่าที่สุดแล้ว 5 ว่าที่ กกต.จะนำพาไม่ดึงดันทำให้เกิดข้อครหาอีก หรือจะเชื่อ “พรเพชร” ที่มั่นอกมั่นใจว่า ไปต่อได้ไร้ปัญหา .. อาจทำให้งานฉลองของ “เต็งจ๋า”อย่าง ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ว่าที่ กกต. จากสายศาล ที่ว่ากันว่า นอนมาในตำแหน่ง “หัวโต๊ะ กกต.” .. กระทั่ง “เต็ง 2” จากสายสรรหา อย่าง ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย หรือ “ตาอยู่”อย่างรายของ “ทูตปุ๊” อิทธิพร บุญประคอง อาจต้องเลื่อนไปชั่วคราว.
ช.ชฎา
-----------------
- นคร มาฉิม - ทักษิณ ชินวัตร- สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล- วิรัตน์ กัลยาศิริ-วรงค์ เดชกิจวิกรม
เจษฏ์ โทณะวณิก - พรเพชร วิชิตชลชัย - วิษณุ เครืองาม -- ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี --ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย
**ทอปบูตยิ้มร่า!! “ประชาธิปัตย์”สหบาทา “นคร” ตอกอนาคตเท้าแหย่คุกไม่ต่าง “อ้ายปึ้ง”ที่รับใช้ “ทักษิณ”จนภัยถึงตัว “เสี่ยเต้น”ผสมโรง ปชป. บ่อนทำลายประชาธิปไตย บรรยากาศ “นักเลือกตั้ง”สาดโคลน “ข้าชั่ว เอ็งก็เลว” แบบนี้ เข้าทาง “ขุนทหาร”อยู่บนภูดู “คนอะไร”กัดกัน แถมอุ่นใจ “ดีลผสมพันธุ์เฉพาะกิจ”ที่ร่ำลือกันว่า “2 ค่ายการเมือง”อาจหันมาจับมือกัน ตัดท่ออำนาจ “ทอปบูต”คงไม่มีทางเกิด
เจอกันในชั้นศาล .. หลัง นคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความขอโทษ ขอโพย พร้อมอวย ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกฯหนีคุก ในโอกาสอายุครบ 69 ปี แผล่บๆ .. บางช่วงบางตอนอ้างว่าเคยร่วม “เบื้องหลังถ่ายทำ” โค่นล้มรัฐบาลระบบทักษิณ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพี่ชาย ปี 2549 มาจนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2557 .. เนื้อหาไล่เปิดโปง “ทฤษีสมคบคิด” ที่ว่า ก็สาดซัดสังกัดเก่า “ประชาธิปัตย์” ราวกับเผาบ้านตัวเอง .. โจมตีว่าพรรคสมคบกับเครือข่ายเผด็จการเพื่อล้มประชาธิปไตย จนทำให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนไม่พอใจ และเรียงหน้ากันออกมาสหบาทา “นคร” อย่างต่อเนื่อง .. ทั้งทีมกฎหมายอย่าง วิรัตน์ กัลยาศิริ – ราเมศ รัตนเชวง หรือผู้แทนบ้านเดียวกันอย่าง หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ที่มีบทบาทสำคัญในการชำแหละขบวนการการโกงกินจำนำข้าวของรัฐบาลปู ถึงขั้นสาปส่งว่า “ไม่มีใครคบ” .. แล้ว “นคร” ยังมาเจอสอนมวยแบบ “พี่สอนน้อง” จาก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อีกด้วย .. ไม่ใช่แค่วิพากษ์บทบาทของ “นคร” ส.ส.รุ่นหลัง ที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัวเท่านั้น ยังยก “วิบากกรรม” ของอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยด่าทักษิณ แล้วกลืนน้ำลายไปซุกอกทักษิณ .. อย่าง “อ้ายปึ้ง”สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่ได้ดิบได้ดีจนเป็นรองนายกฯ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ แต่สุดท้ายเป็น “จำเลย” ใกล้ติดคุกในคดีที่ทำเพื่อ “นายแม้ว”อยู่รอมร่อ .. แล้วดูท่า “นคร”อาจจะไม่ได้ลาภยศอย่างรุ่นพี่ แต่คุกตารางอาจมาก่อนกาล เมื่อทางพรรคประชาธิปัตย์เอาจริง ..
ทุกเสียงต่างสร้อยตอนท้ายไว้ว่า คงต้องติดตามกันในศาล ตามคิวที่วันนี้ (31 ก.ค.) ที่ทางค่ายสีฟ้า เตรียมไปแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบ .. ซึ่งทาง “นคร” เองก็ประกาศพร้อมเปิดหลักฐาน เรื่องที่อ้างขึ้นมา ในชั้นศาล เท่านั้น .. ขณะที่ “เสี่ยเต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ที่กำลังเสียหลักโดน “แรมโบ้อีสาน” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำเสื้อแดงโคราชกระชากหน้ากาก “แก๊งสู้แล้วรวย” .. ก็ได้ทีกันมาใช้ประเด็นที่ “นคร” เปิดขึ้นมา หากินกลบเกลื่อนไปพลาง ขึ้นขนาดยกย่อง “นคร” ราวกับ “วีรบุรุษประชาธิปไตย” .. รวมไปถึง “คนเพื่อไทย” อีกหลายหน่อที่ใช้เป็นประเด็นโจมตี สาดโคลนไปยังคู่อริ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะบ่อนทำลายประชาธิปไตย .. กลายเป็นสงครามปิงปองของ “นักเลือกตั้ง” สาดโคลนไปมา ที่ไม่ทันไรก็เละเทะ ในทำนอง “ข้าก็ชั่ว เอ็งก็เลว” กันไปทั้ง 2 ฝ่าย .. รูปการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องบอกว่าเข้าทาง “ขุนทหาร”โดยแท้ ทั้งในแง่ภาพของ “นักการเมือง” ที่พร้อมจะทะเลาะกันได้ทุกเมื่อ .. อีกทั้งยังความขัดแย้งราวกับหว่างเขาควายของ “เพื่อไทย - ประชาธิปัตย์” ก็นำความอุ่นใจมาให้ว่า “ดีลผสมพันธุ์เฉพาะกิจ”ที่ร่ำลือกันว่า 2 ค่ายการเมืองอาจหันมาจับมือกัน ตัดท่ออำนาจ “ท๊อปบูต”คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้
**ตะกุกตะกักทุกขั้นตอน!! เส้นทาง “ว่าที่ กกต.”วิบากไม่เลิก “ผู้หวังดี”ทักเลือกประธาน กกต.ในขณะยังได้ไม่ครบ 7 เสือ อาจขัดกฎหมาย แม้ “วิษณุ – พรเพชร”จะฟันธง ไปต่อได้ไร้ปัญหา แต่ “บิ๊ก คสช. สาย สนช.”ก็ยังร้อนใจไล่เช็กผู้รู้ สรุปทุกเสียงต่างห่วงเกิดข้อครหา อาจทำให้งานฉลองเก้าอี้ “ประธาน กกต.”อาจต้องเลื่อนออกไปก่อนชั่วคราว
จิ้งจกทักยังต้องฟัง .. แล้วความเห็นของ เจษฏ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษากรรมร่างรัฐธรรมนูญ และ อดีต กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ยังไม่ฟังกันบ้างหรือ .. กับการที่ “อ.เจษฎ์” ร้องทักว่าการประชุม “5 ว่าที่ กกต.” ที่มีวาระสำคัญเลือก “ประธาน กกต.” ในวันนี้ (31 ก.ค.) อาจเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.ใน “มาตรา 12” เสียเอง .. เหตุเพราะยังสรรหา กกต.ได้ไม่ครบ 7 คน ตามที่กฎหมายกำหนด แล้วจะให้ 5 คนที่ได้มาก่อนเลือกประธาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ อาจมีปัญหาได้ .. แต่ดูเหมือน “ผู้ที่เกี่ยวข้อง”จะไม่ค่อยฟัง ด้วยมีความเห็นมาตั้งแต่ก่อน สนช.โหวตรับรอง 5 ว่าที่ กกต. ตีตกไป 2 ราย แล้วว่า แค่ 5 คนก็ทำงานได้ .. ทั้ง วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รวมทั้ง พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ก็เห็นสอดคล้องต้องกัน ที่น่าตลกก็คืออ้างอิง “มาตรา 12” เหมือนกันเสียด้วย .. สาระมีอยู่ว่า “..ในกรณีที่ผู้ซึ่งวุฒิสภาให้ความเห็นชอบยังได้ ไม่ครบจำนวนที่ต้องสรรหาหรือคัดเลือก แต่เมื่อรวมกับกรรมการซึ่งยังดำรงตำแหน่งอยู่ ถ้ามี มีจำนวนถึงห้าคน ก็ให้ดำเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้..” ..
ในมุมมองของ “อ.เจษฎ์”เห็นว่า เจตนารมณ์ของกฎหมาย หมายถึงกรณีที่ กกต.ได้รับแต่งตั้งไปแล้ว มีเหตุให้บางคนต้องหลุดจากตำแหน่ง เหลือแค่ 5 หน่อ ก็ยัง “ทำงานได้” .. ไม่ได้หมายถึงกรณีการเลือกและแต่งตั้งใหม่ ซึ่งสวนทางกับ “วิษณุ – พรเพชร”ที่มองว่าเดินหน้าต่อได้ ราวกับอ่านกฎหมายคนละฉบับ .. ไม่ใช่แค่ “อ.เจษฎ์” เท่านั้นที่แสดงความเป็นห่วงประเด็นนี้ ยังมี “ปรมาจารย์กฎหมายประเทศไทย” อีกหลายคนที่เห็นไปในทิศทางเดียวกัน .. หากแต่ออกมาเปิดปากตรงๆ ไม่ได้ ด้วยไม่อยากทำให้เป็นประเด็น เพราะจับทาง “รัฐบาลทหาร” ลำบาก ว่าจะเลือกเดินทางไหน .. แล้วยังมี “บิ๊ก คสช.”เองก็เป็นห่วงเช่นกัน ด้วยลึกๆ แล้วเห็นว่า ไม่น่าจะเดินต่อได้ ถึงกับไล่โทร ปรึกษาผู้รู้-ผู้เกี่ยวข้องไปทั่ว เพื่อความแน่ใจ .. โดย “บิ๊ก คสช.” คนนั้น ไม่ได้อยู่ในฝ่ายบริหาร เป็น “น้องชายพี่ใหญ่”แต่คอยคุมงานในฝ่ายนิติบัญญัติ ได้ร่วมเป็นกรรมธิการตรวจสอบคุณสมบัติ 7 ผู้เข้ารอบสุดท้าย ในชั้น สนช. เสียด้วย .. แต่รู้ว่าทัดทานไม่ได้ ก็เลยไม่เอ่ยเอื้อนให้เปลืองน้ำลาย มีแต่บ่นพึมพัม ลอดไรฟันออกมาว่า “พี่ใหญ่เขาจะเอาให้ได้” .. ล่าสุดแว่วว่า มีความเห็นจาก “ผู้หวังดี”ที่บอกว่า การเลือกประธาน กกต.ในวันนี้ ไม่เข้ากับ มาตรา 12 แล้วยังอาจขัดต่อ มาตรา 8 ในกฎหมายฉบับเดียวกันที่ว่า “คณะกรรมการการเลือกตั้งประกอบด้วยกรรมการจำนวน 7 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา...” เสียด้วย .. ตามความเห็นแย้ง ที่ประดังออกมา ก็ต้องดูว่าที่สุดแล้ว 5 ว่าที่ กกต.จะนำพาไม่ดึงดันทำให้เกิดข้อครหาอีก หรือจะเชื่อ “พรเพชร” ที่มั่นอกมั่นใจว่า ไปต่อได้ไร้ปัญหา .. อาจทำให้งานฉลองของ “เต็งจ๋า”อย่าง ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ว่าที่ กกต. จากสายศาล ที่ว่ากันว่า นอนมาในตำแหน่ง “หัวโต๊ะ กกต.” .. กระทั่ง “เต็ง 2” จากสายสรรหา อย่าง ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย หรือ “ตาอยู่”อย่างรายของ “ทูตปุ๊” อิทธิพร บุญประคอง อาจต้องเลื่อนไปชั่วคราว.
ช.ชฎา
-----------------
- นคร มาฉิม - ทักษิณ ชินวัตร- สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล- วิรัตน์ กัลยาศิริ-วรงค์ เดชกิจวิกรม
เจษฏ์ โทณะวณิก - พรเพชร วิชิตชลชัย - วิษณุ เครืองาม -- ฉัตรไชย จันทร์พรายศรี --ธวัชชัย เทอดเผ่าไทย