ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
ผู้อำนวยการหลักสูตร Ph.D. และ M.Sc. (Business Analytics and Data Science)
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
https://www.facebook.com/BusinessAnalyticsNIDA
ผู้อำนวยการหลักสูตร Ph.D. และ M.Sc. (Business Analytics and Data Science)
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
https://www.facebook.com/BusinessAnalyticsNIDA
ข่าวพ่อฆ่าตัวตายเพราะฟังคำพิพากษาที่ศาลชั้นตนยกฟ้องฆาตกรที่ฆ่าลูกชายตายนั้นช่างเจ็บปวดรวดร้าวนัก ทราบจากข่าวว่ามารดาของน้องที่ถูกแทงตายแถวห้วยขวางนั้นก็พยายามฆ่าตัวตายเช่นกันที่ศาลอาญารัชดา ชั้นแปด แต่มีคนเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน
แต่เมื่อฟังน้าสาวที่เป็นน้องสาวของแม่ของน้องผู้ชายที่ถูกแทงตายแล้วคร่ำครวญกรีดร้องตีอกชกหัวอยู่ที่พื้นเมื่อมาเห็นศพพี่ชายแล้วยิ่งโศกสลดใจเจ็บปวดรวดร้าวที่สุด ต้นธารกระบวนการยุติธรรมไทยเลวร้ายที่สุด หรือแท้จริงเป็นกระบวนการอยุติธรรมในสังคมไทย
กล้องวงจรปิดทุกตัวของทุกหน่วยงานเสียพร้อมกันหมด เหอ!!!! ไม่ว่าจะกล้องของกรุงเทพมหานครหรือของการเคหะแห่งชาติต่างก็เสียพร้อมกันหมด ทำไมมันเสียง่ายดายขนาดนี้ ไฟแดงยังเสียน้อยกว่านี้มาก แล้วจะมีกล้องเหล่านี้ให้เปลืองงบประมาณแผ่นดินไปเพื่ออะไร ถ้าเกิดคดีแล้วกล้องเสียไปหมดทุกตัวเช่นนี้ ควรย้ายเจ้าหน้าที่ราชการที่ดูแลอุปกรณ์เหล่านี้ออกไปหรือไม่ ข้อหาบกพร่องในหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อทางราชการ คือทำให้กระบวนการยุติธรรม กลายเป็นกระบวนการอยุติธรรม หลักฐานถูกทำลายสิ้น
การปฎิรูปตำรวจสำคัญที่สุด และไม่ว่าจะสีไหนก็อยากเห็นการปฏิรูปตำรวจทั้งสิ้น ผมเคยลงพื้นที่เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกหลังรัฐประหารใหม่ ๆ เข้าไปหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งแรกที่จังหวัดอุดรธานี แถววัดป่าบ้านตาด บางคนนี่ไปเผาศาลากลางจังหวัดมาก็มี เข้าไปที่หมู่บ้านริมแม่น้ำตาปี ที่สุราษฎร์ธานี พี่น้อง กปปส. ทั้งนั้น ไปที่ร้านพันธมิตร ที่ชลบุรี เสื้อเหลืองล้วน ๆ งานวิจัยนั้นชื่อ สีสะท้อนสี ทำให้ได้เข้าใจว่าคนไทยคิดต่อกันอย่างไรบ้างแน่นอนว่าแต่ละสีคิดไม่เหมือนกัน และมองกันและกันในทางตรงกันข้ามแทบทั้งนั้น แต่มีประเด็นหนึ่งที่ทุกสี ทุกกลุ่มการเมืองเห็นต้องตรงกัน และด่ากราดใส่ไม่แตกต่างกันเลยคือ ตำรวจ ทุกสี ทุกกลุ่มการเมืองต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจ
การปฏิรูปตำรวจเป็นงานที่หากทำได้สำเร็จจริง ทำให้ต้นธารกระบวนการยุติธรรมใสสะอาด เป็นที่พึ่งพาได้ของประชาชน จะได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างล้นหลาม มหานครนิวยอร์กนั้นเคยเต็มไปด้วยมาเฟียและอาชญากรรมเมื่อปฏิรูปตำรวจได้สำเร็จ นักการเมืองคนที่ทำได้สำเร็จก็จะได้รับคะแนนนิยมล้นหลาม การปฏิรูปตำรวจในประเทศไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตำรวจน้ำดีอย่างพลตำรวจเอกวสิษฐ เดชกุญชร ผู้ล่วงลับก็พยายามทำมาตลอดแต่ไม่เคยสำเร็จ
ปัญหาใหญ่คือผู้มีอำนาจรัฐไม่กล้าขัดแย้งกันเองเกรงใจกัน ผมทราบมาว่าตำรวจเองเฉพาะตัวใหญ่ ๆ ไม่อยากให้มีการปฏิรูปตำรวจ มีการล็อบบี้และทำให้การปฏิรูปตำรวจไม่สำเร็จมาตลอดในสี่ปีที่ผ่านมาโดยอดีต ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผบ.ตร. ตัวจริง และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ชั่วช้าสุดจะบรรยาย
เมื่อเกิดการฆ่าตัวตายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว น่าจะเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ว่ากระบวนการยุติธรรมไทยนั้นมีปัญหา ฝ่ายตุลาการหรือฝ่ายศาลท่านก็ออกมาแถลงแล้ว ว่าสำนวนทำมาอ่อนมาก หาหลักฐานอะไรไม่ได้เลย ต้องยกประโยชน์ให้จำเลยกรณีที่เด็กถูกฆ่าตายแล้วพ่อกระโดดตึกศาลอาญารัชดาช้นแปด ฆ่าตัวตาย เพราะไม่ได้รับความยุติธรรม กล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุเสีย เห็นแต่ปากซอย หาพยานบุคคลไม่ได้เลย สำนวนอ่อนมากเป็นอย่างยิ่ง ผู้ตายและพ่อแม่ของผู้ตายก็เป็นคนธรรมดา ๆ ชาวบ้านอย่างเรา ๆ ไม่มีปัญญาพอจะไปวิ่งเต้นหรือไม่มีชื่อเสียงเงินทองพอที่จะทำให้ตำรวจจะสนใจทำคดีนี้ให้ดี อำนวยให้เกิดความยุติธรรม
ใครทำสำนวนมาอ่อน คำตอบคือตำรวจ
ใครส่งฟ้องทั้ง ๆ ที่สำนวนอ่อนปวกเปียก คำตอบคืออัยการ
ศาลท่านก็ทำได้แค่ตัดสินใจตามสำนวน ไม่มีใครตำหนิอะไรศาลท่านเลย ระบบศาลไทยไม่ใช่ศาลไคฟงที่จะสืบสวน สอบสวนได้เอง ท่านทำไม่ได้แบบนั้น มันเป็นระบบกล่าวหา ไม่ใช่ระบบไต่สวน คนละรูปแบบของกระบวนการยุติธรรม การแยกส่วนแบ่งหน้าที่กันตรงนี้ ทำเพื่อให้เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุล
ปัญหาคือตำรวจไทยนั้นมีอำนาจมากเกินไป ปราบปราม ป้องกัน จับกุม สืบสวน และสอบสวน อยู่ด้วยกันทั้งนั้น ยังไม่รวมหน้าที่อื่น ๆ เช่น ตำรวจป่าไม้ ตำรวจรถไฟ ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว และอื่น ๆ อีกมาก ที่ไม่สมควรเป็นภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียด้วยซ้ำ
Absolute power corrupts absolutely อำนาจสมบูรณ์แบบทำให้ทุจริตใช้อำนาจไปในทางที่ผิดอย่างสมบูรณ์ ตำรวจไทยก็เป็นเช่นนั้น
สิ่งที่คนออกมาตำหนิคือ ต้นธารกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ตำรวจถึงอัยการ ที่เหลวแหลกเละเทะ ทำให้ศาลเองก็ทำงานได้ลำบาก ไม่มีใครหมิ่นศาลหรือละเมิดอำนาจศาลเลยครับผม อยากให้ลองพิจารณาให้ดี
สิ่งที่สังคมควรถามหาคือการปฏิรูปตำรวจอันเป็นต้นธารกระบวนการยุติธรรม
สิ่งที่สังคมควรถามหาคือการปฏิรูปอัยการอันเป็นท่อธารลำดับถัดไปของกระบวนการยุติธรรม
ยุติธรรมไม่มีสามัคคีไม่เกิด บ้านเมืองไปต่อไม่ได้หากปราศจากหลักนิติรัฐ (Rule of law)
ถ้าถามว่าควรจะปฏิรูปตำรวจอย่างไร
ผมขอนำบทความที่ผมเคยเขียนไว้มาให้อ่านกันอีกรอบครับชื่อว่า มองตำรวจสหรัฐอเมริกา มาแก้ปัญหาตำรวจไทย
วันนี้เรามาคุยกันเรื่องเบา ๆ ดีกว่า คือเรื่องการปฏิรูปตำรวจไทย ผมขอเล่าเรื่องเบาๆ ที่ได้ประสบพบเจอกับตนเอง คือการถูกตำรวจเรียกเก็บเงินค่าอำนวยความสะดวกค่าน้ำร้อนน้ำชา และขอนำไปเปรียบเทียบกับประสบการณ์ที่ได้พบเจอกับตำรวจในสหรัฐอเมริกา รัฐนิวยอร์ก ในขณะที่ไปศึกษาและทำงานที่นั่น โดยขอยืมชื่อหนังสือ มองอเมริกามาแก้ปัญหาไทย ของพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตโต) ที่เคารพยิ่งมาเป็นชื่อบทความนี้
เมื่อแปดปีก่อน ผมต้องไปขนเฟอร์นิเจอร์ไม้สักอายุเป็นร้อยปีมาจากบ้านย่าเต็มบรรจุเต็มรถหกล้อ ซึ่งพรรคพวกกันเอามาให้ใช้และมาช่วยขับรถและขนให้ด้วย รถวิ่งมาจากแถวหัวลำโพงจนถึงหน้าสวนจตุจักร บริเวณถนนพหลโยธินขาออก หน้าสถานีขนส่งหมอชิตเก่า แล้วทันใดนั้นก็มีจ่าแก่ ๆ มาโบกรถหกล้อที่ขนเฟอร์นิเจอร์ไม้สักโบราณมาเต็มรถ ผมเดินลงมาจากรถเพื่อมาเจรจา ตำรวจท่านเริ่มยัดเยียดข้อหาทันทีว่า นี่คุณบรรทุกไม้เถื่อน ผิดกฎหมายไม่ได้ตีตรา รู้ไหมว่าเป็นความผิดอาญา ผมก็เลยตอบกลับไปว่า จ่าลองดูสิ ของโบราณ เฟอร์นิเจอร์ไม้สักอายุเป็นร้อยปี มันมีมาก่อนจะมีการตีตราไม้อีกมั้ง แล้วนี่ไม้แปรรูปจนเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้ว ไม่ใช่ท่อนไม้สัก ไม่ใช่ซุง ไม่ใช่แม้แต่ไม้กระดานแผ่น จะให้เอาตราที่ไหน มาตี ผมขนของปู่ย่า ตายาย เป็นร้อย ๆ ปี ของมรดก มา พอเถียง จ่าทำหน้าเสีย และเริ่มยัดเยียดข้อหาใหม่ให้ผม โดยพูดว่า โอเค ถ้าอย่างนั้นคุณบรรทุกสูงเกิน เป็นอันตราย ผมก็เลยตอบกลับไปว่า ตรงไหน ผมเอาเชือกมัดแน่นหนามาก และความสูงของที่บรรทุกไม่เกินขอบไม้ของรถหกล้อ ไม่น่าจะสูงเกิน จะบอกไม่ปลอดภัยก็ไม่ได้ เพราะผมปิดประตู ทั้งยังเอาเชือกมัดแน่นมากป้องกันการร่วงหล่น จ่าอย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า จ่าแก่ ๆ ไม่ยอมลดละ ไม่รู้หละ คุณบรรทุกน้ำหนักเกิน 28 ตัน ผมเลยเถียงว่า เฟอร์นิเจอร์ไม้เปล่าๆ ไม่มีอะไรเลย ตู้เตียง เก้าอี้ทั้งนั้น โปร่งๆ ทั้งหมด ไม่มีทางเกิน 28 ตัน จะให้ผมไปชั่งน้ำหนัก ก็ยังได้ ขนกันเองเมื่อเช้านี้ ไม่กี่คน อย่างไรก็ไม่เกินน้ำหนักบรรทุก จ่าต้องการอะไรแน่?
ในระหว่างที่เจรจากันหลายสิบนาทีกลางแดดเปรี้ยงยามเที่ยงวัน ทำให้รถติดยาวมาก และรถคันหลังไปไม่ได้ ต่างกดแตรกันสนั่นถนน เพื่อนผมอีกคนลงมาจัดการ แล้วไล่ผมขึ้นรถ เพราะรู้ว่าผมไม่ยอมจ่าแน่ ๆ ผมมาทราบในภายหลัง (และโกรธมาก) ว่าจ่านั้นต้องการค่าผ่านทางแค่ร้อยเดียว แล้วก็ปล่อยไป ทั้งที่เราไม่ได้ผิดอะไรเลย เพื่อนผมให้เงินจ่าไปเพราะเกรงใจรถที่ติดข้างหลังยาวถึงสะพานควาย!
หลังจากนั้นไม่นานผมก็ไปศึกษาต่อที่นิวยอร์ก ซิตี้ สหรัฐอเมริกา ผมชอบปั่นจักรยาน เลยไปซื้อจักรยานมือสองราคาไม่แพงมาปั่นเป็นการออกกำลังกาย แต่ผมไม่รู้กฎหมายที่นั่นว่าห้ามปั่นจักรยานบนทางเท้า ผมปั่นจักรยานบนทางเดิน (ซึ่งกว้างแสนกว้าง และไม่มีคนเดินสักเท่าไหร่) สักพักรถ NYPD ก็เปิดหวอไซเรน ไล่ตามผม ผมก็งงๆ ตำรวจบอกว่ารู้ไหมว่าคุณทำผิดกฎหมาย กะเหรี่ยงไทยแลนด์แบบเราก็ตอบไปตามตรงว่าไม่รู้ เพิ่งมาอเมริกาอาทิตย์แรก ตำรวจก็ขอพาสปอร์ตซึ่งไม่ได้พกมา ก็บอกเขาตามตรงว่าไม่ได้พกมา ตำรวจบอกว่ายูไม่มีพาสปอร์ตแล้วอยู่ที่ไหน ก็บอกที่อยู่ตำรวจไป แล้วตำรวจก็บอกว่างั้นไอจะตามยูไปที่อพาร์ทเมนท์ ให้ยูหยิบพาสปอร์ตลงมา ผมก็ทำตามตำรวจบอก
พอไปถึงหน้าอพาร์ทเมนท์ ตำรวจก็ได้พาสปอร์ตผมไป เปิดคอมพิวเตอร์ในรถตำรวจ คีย์เลขพาสปอร์ตเข้าไป แล้วพิมพ์ใบเสียค่าปรับมาเป็นจำนวน 50 เหรียญ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทำตามความเคยชิน หยิบเงิน 50 เหรียญ ยื่นให้ทันที ตำรวจเอามือปัดมือผมลงจนธนบัตร 50 เหรียญ ร่วงหล่นลงบนถนน พร้อมกับบอกด้วยความโกรธว่า นี่คุณทำผิดกฎหมายอีกนะ คุณกำลัง bribe (ให้สินบน) เจ้าหน้าที่ ถ้าใครมาเห็นว่าไอรับเงินจากยู ไอจะโดนไล่ออกทันที
ผมยืนงงแล้วถามว่าผมต้องทำอย่างไร เขาอธิบายว่าที่นิวยอร์กนั้นตำรวจห้ามเปรียบเทียบปรับเอง ถือว่าเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ ผมต้องไปที่ศาลเท่านั้น ตำรวจให้ใบจ่ายค่าปรับมาอีกอาทิตย์ผมไปศาลตามนัด คิวหน้าศาลยาวเหยียดเป็นกิโลเมตรอยู่ริมถนน คนมารอจ่ายค่าปรับมากมาย อากาศหนาวมากติดลบ 15 องศาเซลเซียส สุดท้ายพอได้เจอเจ้าหน้าที่ศาล ศาลบอกว่าเป็นความผิดลหุโทษ และเป็นความผิดครั้งแรก ทั้งยูก็เพิ่งมาจากไทยแลนด์ ศาลไม่คิดค่าปรับและสอนว่าอย่าทำอีกนะ
ผมเดินลงมาจากศาลด้วยความงง ๆ ยิ่งคิดยิ่งพิศวง แต่กลับพึงพอใจมาก ๆ ว่า การมายืนรอตากลมหนาวกว่าครึ่งวัน แต่ได้รับความยุติธรรม ไม่ถูกตำรวจรังแก ไม่ถูกตำรวจเรียกสินบาทคาดสินบนนั้น เป็นเรื่องที่ผมพอใจมาก
การแบ่งแยกอำนาจกัน ให้เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุล เป็นสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาในการปฏิรูปตำรวจไทย หากตำรวจมีอำนาจตั้งแต่ สืบสวน สอบสวน ปราบปราม จับกุม เปรียบเทียบปรับ ทำเองได้ตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่มีการแบ่งแยกอำนาจแล้ว เกรงเหลือเกินว่าจะเกิดการลุแก่อำนาจ เพราะ Absolute power tends to corrupt absolutely นั่นเอง ดังนั้นถ้าตำรวจไทยจะไม่สามารถจับเงินและเปรียบเทียบปรับเลยได้จะเป็นการดีมาก ชาวบ้านจะถูกรีดไถลดน้อยลง ในทางธุรกิจ เขาก็ให้แยก จัดซื้อ พัสดุ การเงิน และการบัญชี ออกจากกันให้หมด เพื่อให้เกิดระบบการควบคุมภายใน (Internal control) ที่ดีป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบ แล้วทำไมเราจะไม่ปฏิรูปตำรวจแบบนี้บ้าง แยกอำนาจออกไป ตรวจสอบถ่วงดุล ป้องกันการลุแก่อำนาจ ไม่ให้จับเงินเลย แล้วยกอำนาจในการเปรียบเทียบปรับไปอยู่ที่กรมราชฑัณฑ์ หรืออยู่ที่ศาลได้ ก็จะเป็นการดีไม่น้อย ก็ขอฝากให้มองตำรวจสหรัฐอเมริกา มาแก้ปัญหาตำรวจไทย ไว้เป็นเรื่องเบา ๆ อ่านเพลิน ๆ
ผมมีความเชื่อมั่นมากว่าหากมีการแยกอำนาจการสอบสวนทำสำนวนคดีออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว การอำนวยความยุติธรรมในประเทศไทยจะเกิดขึ้นได้ กระบวนการยุติธรรมจะดีขึ้น
ปฏิรูปตำรวจเพื่อหยุดความเจ็บปวดจากกระบวนการอยุติธรรมในประเทศไทยเถิดครับท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่าได้เกรงใจใครแม้กระทั่งพี่น้องหรือพรรคพวกของท่านบางคนเลย ท่านต้องลงมือและต้องกล้าเปลี่ยนแปลง แล้วท่านจะได้ใจประชาชน และจะอยู่ในตำแหน่งได้นานแสนนานหากปฏิรูปตำรวจและทำได้สำเร็จจริงแม้เพียงสักเรื่องเดียว ปฏิรูปให้สำเร็จเพียงประเด็นเดียวที่ประชาชนทุกกลุ่มการเมืองอยากเห็น อยากทำให้สำเร็จ ท่านจะได้รับความนิยมอีกมากมายและจะอยู่ในตำแหน่งได้อย่างมั่นคง ชอบธรรม