xs
xsm
sm
md
lg

ซีลสอนดำน้ำเตรียมพาหมูป่าออกจากถ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน360 - นายกฯสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร.10 พระบรมวงศานุวงศ์ ขอพระบารมีปกเกล้าฯ คุ้มครองเจ้าหน้าที่ให้ทำงานสำเร็จเรียบร้อย ย้ำทุกฝ่ายลุยต่อ นำ 13 คน ออกจากถ้ำโดยปลอดภัย ทำทุกทาง ไม่กำหนดเวลา กำชับเยียวยาเกษตรกรพื้นที่รับน้ำ ผบ.ทร.ระดมกำลังทหาร-อาสาฯ เร่งสูบน้ำเปิดทาง ด้านหน่วยซีล เตรียมความพร้อมร่างกาย-สอนดำน้ำ พาทีมหมูป่าออกจากถ้ำ ทัพภาค 3 เผยเริ่มสองภารกิจใหม่'กู้ภัย-ฟื้นฟู' ด้านมท.1 เตรียมออกคำสั่งให้ผวจ.เชียงรายทำภารกิจให้เสร็จสิ้น 'บิ๊กแป๊ะ' ลุยสำรวจหาโพรงทะลุถ้ำ ลดความเสี่ยงให้'หมูป่า'ดำน้ำกลับบ้าน

เมื่อเช้าวานนี้ (3 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม (วีดีโอคอนเฟอเรนซ์) กับนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยนายกฯ ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ได้พระราชทานกำลังใจ และสิ่งของพระราชทาน ตลอดจนขอพระบารมีปกเกล้าฯ คุ้มครองเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครให้ประสบความสำเร็จในการทำงานด้วยความเรียบร้อย อีกทั้งให้พิจารณาดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำ และปรับให้คืนสภาพเดิมโดยเร็ว

"ขั้นตอนต่อไปคือ การนำไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ดังนั้นช่วงนี้อย่าเพิ่งไปวุ่นวายกับเด็กมานัก จะมีเวลาที่จะให้แถลงข่าวพร้อมๆ กัน เรื่องฝนที่ตกลงมาในขณะนี้ ตนเชื่อว่าเราสามารถแก้ปัญหาได้ ก่อนที่น้ำจะมากจนเกินเหตุ ย้ำว่าต้องให้มีความปลอดภัย เราต้องช่วยเหลือให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ ตอนนี้เติมทั้งยา อาหาร น้ำดื่ม ตอนนี้เร่งดำเนินการทั้งพร่องน้ำ สูบน้ำ เบี่ยงทางน้ำ ทั้งด้านบนด้านล่าง เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายเด็กออกมาข้างนอกได้ แล้วนำไปที่โรงพยาบาล เพื่อให้ตรวจสอบสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เราต้องทำด้วยความรอบคอบอย่าไปกำหนดเวลา ตราบใดก็ตามที่เขายังปลอดภัยและแข็งแรงอยู่ เราก็สามารถดูแลได้ มีการติดต่อสื่อสารได้"

ขณะที่ ผวจ.เชียงราย ได้รายงานสรุปสถานการณ์ที่สำคัญว่า หน่วยซีลได้เข้าไปในถ้ำตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 ของวันที่ 2 ก.ค. เพื่อนำอาหาร น้ำ และยา เข้าไปดูแลผู้ประสบภัย ซึ่งในขณะนี้ก็ยังคงอยู่กับเด็กๆ และโค้ชในถ้ำ โดยมีสุขภาพแข็งแรงดี บางรายอาจมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย สำหรับภารกิจต่างๆ ยังคงดำเนินการต่อไป โดยจะมีการสูบน้ำออกจากถ้ำอย่างต่อเนื่อง ติดตั้งไฟฟ้า เพื่อให้แสงสว่างภายในถ้ำ และโทรศัพท์เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารได้ ทั้งนี้ ก่อนจบการประชุม นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชม และให้กำลังใจ ผวจ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และประชาชนทุกคน ขอให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จสมบูรณ์ รวมทั้งเน้นย้ำขอให้การทำงานครั้งนี้เป็นบทเรียนในการบรรเทาภัยพิบัติในอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ จะพาเด็กๆไปเที่ยวพัทยา ตามที่ได้เคยกล่าวไว้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ก็เคยพูดเอาไว้แล้ว เมื่อเขาพร้อมแล้วค่อยมาว่ากัน เดี๋ยวให้มท.เขาดำเนินการ"

**มท.1เร่งนำ13 หมูป่าออก ก่อนฝนตกซ้ำ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงนำทั้ง 13 คน ออกมาจากถ้ำ โดยจะใช้ช่องทางเดิม จึงต้องเร่งระบายน้ำ ออกจากถ้ำ เพื่อจะได้ไม่ต้องดำน้ำออกมา ส่วนที่คาดการณ์ว่า ช่วง 2-3 วันนี้ จะมีฝนตกลงมา ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องเร่งนำเด็กออกมาให้ได้ โดยใช้อุปกรณ์ดำน้ำเพราะถ้าน้ำสูงกว่านี้ จะทำให้ การทำงานลำบาก เราจึงต้องเร่งนำตัวเด็กออกมาจากถ้ำให้ได้ก่อน ลักษณะการช่วยเหลือต้องใช้ เจ้าหน้าที่ 2 คน ต่อเด็ก 1 คนเชื่อว่า นักดำน้ำได้มี การเตรียมแผนการไว้อยู่แล้วเพราะเขามีประสบการณ์

เมื่อถามว่าจะให้เด็กทั้ง 13 คน หลีกเลี่ยงการดำน้ำ ออกมาใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การดำน้ำไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่ไม่เคยดำน้ำ จะทำยากเพราะในถ้ำมีลักษณะเป็นช่องแคบ ดังนั้น จะต้องใช้อุปกรณ์ดำน้ำให้เป็น หากอุปกรณ์ดำน้ำหลุดช่วงใดอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อีกทั้งภายในถ้ำ ก็ค่อนข้างมืด ถามว่าเด็กพวกนี้เก่งไหม ตนคิดว่าเด็กพวกนี้เก่ง และเชื่อว่าทางหน่วยซีล จะช่วยเหลือเด็กออกมาได้โดยปลอดภัย ทราบว่าหน่วยซีลได้นำหมอเข้าไปในถ้ำด้วยอยู่แล้ว

นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การนำทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง จะต้องทำอย่างปลอดภัย และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด หลังจากนี้ จะนำน้ำ อาหาร และไฟฟ้า เข้าไปในจุดที่พบ เพื่อฟื้นฟูร่างกายของทั้ง 13 ชีวิต จนกว่าจะสามารถนำทุกคนออกมาได้อย่างปลอดภัย จากนั้นทีมแพทย์ จะเข้าไปดูแลเรื่องของสุขภาพ ยืนยันว่า ทุกอย่างเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว และต้องทำอย่างปลอดภัยที่สุด

ขณะที่ เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ได้เร่งนำหินคลุก เข้ามาถมและปรับสภาพพื้นผิวถนนอีกครั้งนี้ นอกจากนี้ กลุ่มเจ้าหน้าที่ทหาร ยังได้เข้ามาตรวจสอบและสั่งกำชับให้ตั้งแผงกั้นเพิ่มขึ้นบริเวณฝั่งตรงข้ามหน้าถ้ำ พร้อมเตรียมกำลังทหารกว่า 20 นาย มาปิดกั้นจุดนี้เพื่อกันสื่อมวลชนและประชาชนให้อยู่แต่ฝั่งตรงข้ามเพื่อความเป็นระเบียบในเวลาขนย้ายเด็กๆ ไปโรงพยาบาล

**ชดเชยชาวนาพื้นที่รับน้ำไร่ละ1,100 บาท
นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึง การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำออกจากถ้ำหลวง ว่า ได้รับรายงานจาก ผวจ.เชียงราย ว่ามีพื้นที่รับน้ำที่ผันออกมา ขณะนี้มีน้ำท่วมนาข้าว 3 ตำบล ได้รับความเสียหาย 1,600 กว่าไร่ คิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ และจะมีการสำรวจเพิ่มเติมอีก เพราะจะมีการระบายน้ำออกมาจำนวนมาก และยังจะระบายออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ จะช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรไร่ละ 1,100 บาท โดยใช้งบประมาณของจังหวัด ซึ่งมีวงเงินอยู่ 50 ล้านบาท และจะเยียวยาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมครม. เพื่อพิจารณา ให้นำเข้าคณะกรรมการระดับจังหวัดเท่านั้น

**ผบ.ทร.ดีใจ 13 ชีวิตปลอดภัย
พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. กล่าวว่า การนำตัวทั้ง 13 ชีวิต ออกมาจากถ้ำนั้น ทางผู้ว่าฯเชียงราย จะประชุมและหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือให้เด็กออกมาข้างนอกต่อไป ส่วนหน่วยงานที่เป็นนักดำน้ำ ก็พยายามลำเลียงอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมนำ พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน และหน่วยพยาบาลเวชศาสตร์ใต้น้ำ ของกองทัพเรือเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือแล้ว จึงขอให้รอฟังผล ซึ่งการเดินทางจากโถง 3 เข้าไปบริเวณที่เด็กอยู่นั้น ใช้เวลา 3 ชั่วโมง และกลับออกมาอีก 3 ชั่วโมง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลา

**เตรียมสอนทีมหมูป่าฯดำน้ำ
พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กล่าวว่า ในการนำเด็กๆ ออกมา เบื้องต้นจะต้องให้ร่างกายฟื้นฟูกำลังกลับมาก่อน จากนั้นจะพิจารณาถึงเส้นทางออก ซึ่งอาจจะหาทางออกอีกทางของถ้ำ เพราะทางที่เข้ามามีช่องแคบหลายช่องที่น้องๆ ไม่อาจจะผ่านได้ เนื่องจากมีน้ำท่วม

ทั้งนี้ หากร่างกายแข็งแรงดีแล้ว อาจจะมีการสอนให้ดำน้ำ โดยใช้เซลฟ์เฟซ หรือหน้ากากดำน้ำแบบสวมทั้งหน้า ก่อนจะพานำน้ำออกมา แต่เส้นทางนั้น ยังจะต้องหาทางอีกครั้งว่าจะใช้เส้นทางใด

*** ลุยภารกิจใหม่'กู้ภัย-ฟื้นฟู'
พลตรีศุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 แถลงผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ว่า ตอนนี้ภารกิจค้นหาเราสิ้นสุดแล้ว เรากำลังเริ่มอีกสองภารกิจคือภารกิจกู้ภัย และภารกิจฟื้นฟู ซึ่งทุกหน่วยงานก็เร่งดำเนินการแบบเต็มที่ เด็กๆ ทุกคนไม่โดดเดี่ยว มีหน่วยซีลอยู่เป็นเพื่อน 7 คน ซึ่งใน 7 คนนั้นมีแพทย์ 1 คน และเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาล 1 คน ส่วนการพร่องน้ำ เราก็ดำเนินการที่ถ้ำทรายทอง ทำการทลายพื้นที่ทั้งปีกซ้าย ปีกขวา มีการดูดน้ำออกชั่วโมงละ 1.6 ล้านลิตร ส่วนที่ถ้ำหลวงเราดูดน้ำออกชั่วโมงละ 1.8 แสนลิตร

นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวว่า การพร่องน้ำตอนนี้ก็คืบหน้าไปมาก แต่มีประชาชนเดือดร้อนแล้วกว่า 4 ตำบล เราก็ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรทั้งหมดต่อไป

***"ซีล"เตรียม13ชีวิตให้พร้อมออกจากถ้ำหลวง
แฟนเพจเฟซบุ๊ก Air Force Media by Kawin AFU เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์การช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย ทั้ง 13 ชีวิต ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังพบว่าปลอดภัยทั้งหมดและเจ้าหน้าที่ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อนำตัวออกมาให้ได้โดยเร็ว ว่า

“ทีมซีลกำลังเตรียมให้ทีมหมูป่าฯให้พร้อมต่อการนำตัวออกมาจากถ้ำหลวง ต้องเตรียมทั้งร่างกาย และวิธีการดำน้ำโดยใช้ขวดอากาศ ที่หนักที่สุดคือต้องดำยาว 200 เมตร”

*** เร่งสูบน้ำโถง 3 เปิดทางนำเด็กออกจากถ้ำ
ด้านเจ้าหน้าที่ทหาร กองพลทหารราบที่ 7 กองพลทหารราบที่ 4 กองพลทหารม้าที่ 1 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง กองกำลังนเรศวร มณฑลทหารบกที่ 37 มณฑลทหารบกที่ 34 จำนวนมาก ต่างพากันขนย้ายอุปกรณ์เดินสายไฟฟ้าจากบริเวณปากถ้ำ เข้าไปภายในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เพื่อนำไปติดตั้งระบบไฟฟ้าที่จะใช้กับเครื่องสูบน้ำออกจากถ้ำ ที่ท่วมขังในแอ่งที่อยู่ระหว่างโถงที่ 2-3 รวมถึงสูบน้ำจากแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่เลยห้องโถงที่ 3-สามแยกภายในถ้ำ เนื่องจากจุดดังกล่าวมีแอ่งนำกว้างระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนถึงสามแยก จึงต้องสูบน้ำออก เปิดทางเดิน เพื่อนำเด็กๆ และโค้ชจากทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ออกจากถ้ำ

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มีแผนจะติดตั้งระบบสูบน้ำจากปากถ้ำเข้าไปให้ได้ถึงระยะประมาณ 3,000 เมตร ไปจนถึงสามแยกก่อนจะเลี้ยวซ้ายไปทางพัทยาบีช และตลอดรายทางจะมีการโยงเชือกไว้ให้เด็กๆ สามารถเดินจับเชือกมาตามทางผ่านพัทยาบีช-สามแยก-ห้องโถงที่ 3 ได้

ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 15 และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ได้ช่วยกันลำเลียงขวดอากาศจากปากถ้ำเข้าไปภายในถ้ำประมาณ 70 ขวด เพื่อใช้เตรียมการขนย้ายออกจากถ้ำ นอกจากนี้ยังมีการเริ่มปรับปรุงเส้นทางจากปากถ้ำ-ถนนหน้าถ้ำ เพื่อให้สามารถขนย้ายได้โดยสะดวกอีกด้วย

*** 'บิ๊กแป๊ะ' ลุยสำรวจหาโพรงทะลุถ้ำ ลดความเสี่ยงให้'หมูป่า'ดำน้ำกลับบ้าน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่งอยู่ระหว่างนำทีมศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ที่มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุด ออกปฏิบัติภารกิจคู่ขนานสำรวจภูเขาเหนือถ้ำหลวงเพื่อหาโพรงที่จะสามารถทะลุเข้าไปภายในถ้ำ ได้สั่งการด่วนให้ทีมสำรวจชะลอการยุติภารกิจเอาไว้ก่อน

พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ทีมตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร กระจายกำลังค้นหาปล่องที่อยู่ใกล้กับ “ลานนมสาว” ซึ่งเป็นจุดที่พบตัวของทีมหมูป่า เพื่อเป็นแผนสำรองในการลงไปรับทั้ง 13 คนให้กลับขึ้นมา ในกรณีที่ไม่สามารถสูบน้ำออกจากถ้ำได้หมดภายในเร็ววันนี้ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงกับการให้เด็กต้องดำน้ำออกมา เพราะการดำนำภายในถ้ำหลวงเป็นระยะทางที่ยาวหลายกิโลเมตร ถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง แม้แต่กับมืออาชีพก็ตาม

***มท.1สั่งให้ผู้ว่าฯบัญชาการจนเสร็จสิ้น
พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่อง การย้าย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย ว่า ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น ผวจ.พะเยา แล้ว แต่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา ต่อไป

ทั้งนี้ การปฏิบัติหน้าที่ภายหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา กระทรวงมหาดไทย จะมีคำสั่งอีกครั้ง เพื่อให้ผู้ว่าฯ อยู่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยทีมหมูป่า ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จนกว่าภารกิจจะเรียบร้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น