ผู้จัดการรายวัน360-"บิ๊กฉัตร"โยนตำรวจสางปม อดีตปลัดพม. กินยาพิษฆ่าตัวตาย ย้ำยังเดินหน้าสอบทุจริตต่อ ด้าน ผอ.รพ.ปทุมธานี เผยอาการเมีย "พุฒิพัฒน์" พ้นวิกฤต แต่ยังต้องอยู่ ไอ.ซี.ยู. "บิ๊กโย่ง"ระบุผลสอบ 26 บิ๊กพม. โกงคนจนเสร็จแล้ว คาดสรุปผลวันนี้ ลั่นอยากรู้เหมือนกันใครหัก "พุฒิพัฒน์"
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดพม. ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ โดยกินยาฆ่าตัวตาย พร้อมหญิงสาวคนสนิท ภายในบ้านพักย่านปทุมธานี ว่า กระทรวงพม. ยังไม่ได้รายงานรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวมาให้ทราบ แต่จากการสอบถามได้รับแจ้งว่าการสอบสวนการทุจริตเงินผู้ยากไร้ ยังคงเดินหน้าต่อไปตามขั้นตอนปกติ ไม่มีการกลั่นแกล้งใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตที่ระบุว่า น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ อดีตข้าราชการพม. กินยาพร้อมกับนายพุฒิพัฒน์ แต่รอดชีวิต จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร หรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องนี้ และทราบว่า พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ก็ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่ส่วนตัวคิดว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นการคาดการณ์กันไปเองมากกว่า
ส่วนจะต้องมีการสอบสวนหาสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรมหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการสอบสวน ในส่วนของกระทรวงพม. ยังดำเนินงานตามระบบของตัวเองต่อไป ไม่มีการกดดัน หรือต้องทำอะไรเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการตรวจสอบเรื่องการทุจริตภายในกระทรวง ซึ่งยังมีเรื่องของปัญหาการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวแจกจ่ายประชาชนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า พม. ยังสอบสวนอยู่ และการทุจริตทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้กำชับไปแล้วว่า ให้สอบสวนตามขั้นตอน และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เพราะบางกรณีเป็นการกล่าวหากัน บางกรณีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ทุกอย่างยังต้องสอบสวนไปตามปกติ โดยที่ไม่มีอะไรต้องกังวล
นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี กล่าวถึงอาการของน.ส.วาสนา ที่กินยาบางชนิด หวังฆ่าตัวตาย พร้อมนายพุฒิพัฒน์ จนต้องส่งล้างท้องเร่งด่วนที่โรงพยาบาลปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้อาการโดยรวมของผู้ป่วย ถือว่าพ้นภาวะวิกฤตแล้ว แต่แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการโดยรวมทั้งสุขภาพทางร่างกายและจิตใจอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ ผู้ป่วยสามารถพูดคุยกับญาติได้บ้างแล้ว แต่ทางแพทย์ยังต้องให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู.ต่อไป ส่วนเรื่องการออกจากโรงพยาบาล ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อใด
ด้านพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. กล่าวถึงการสอบสวนวินัยร้ายแรง ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ภายหลังจาก นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีต ปลัด พม. ฆ่าตัวตายว่า นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบวินัย ได้ดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมสรุปสำนวน กว่า 300 หน้า ให้เรียบร้อย และส่งมาให้ตน ภายในวันนี้ (3 ก.ค) จากนั้นตนจะต้องส่งให้ฝ่ายกฎหมายตีความเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง และหากมีประเด็นสงสัยใดๆ ก็เป็นอำนาจที่จะสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม แต่หากเห็นว่าครบถ้วนหมดแล้ว ก็จะส่งเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง พม. กลางเดือนก.ค.นี้ เพื่อดำเนินการตามบทสรุปความผิดของแต่ละบุคคลต่อไป โดยกรณีนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 26 ราย ซึ่งต้องดำเนินการให้รอบคอบ
เมื่อถามว่า ยังต้องพิจารณาโทษของนายพุฒิพัฒน์ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วหรือไม่ พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ในสรุปผลการสอบสวน น่าจะยังมีกรณีของนายพุฒิพัฒน์ อยู่ เพราะเหตุเพิ่งเกิด แต่จะต้องส่งให้ อ.ก.พ.กระทรวงพิจารณา หรือไม่ ต้องสอบถามจากฝ่ายกฎหมายก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่อ้างถึงคำพูดของ นายพุฒิพัฒน์ว่า “ผมสั่งให้หยุดแล้ว แต่เขาไม่ฟังผม” นั้น พล.อ.อนันตพร ยอมรับว่า ก็รู้สึกทำให้สงสัยเหมือนกันว่า บุคคลดังกล่าวหมายถึงใคร แต่ก็ไม่รู้จะขยายผลอย่างไร จึงต้องรอดูสำนวนการสอบสวนของตำรวจว่า พอมีอะไรให้ตีความหรือดำเนินการต่อไปได้บ้าง
วันเดียวกันนี้ ที่วัดพรหมวงศาราม ศาลา 4 ซอยประชาสงเคราะห์ 27 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การฌาปนกิจศพ นายพุฒิพัฒน์ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางบิดา มารดา และญาติพี่น้อง ที่มาร่วมงาน รวมถึงผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคคลากรของกระทรวง พม. ที่เคยร่วมงานกับนายพุฒิพัฒน์ กว่า 400 คน ทั้งนี้ ทางญาติของนายพุฒิพัฒน์ ไม่ให้สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดพม. ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ โดยกินยาฆ่าตัวตาย พร้อมหญิงสาวคนสนิท ภายในบ้านพักย่านปทุมธานี ว่า กระทรวงพม. ยังไม่ได้รายงานรายละเอียดในเรื่องดังกล่าวมาให้ทราบ แต่จากการสอบถามได้รับแจ้งว่าการสอบสวนการทุจริตเงินผู้ยากไร้ ยังคงเดินหน้าต่อไปตามขั้นตอนปกติ ไม่มีการกลั่นแกล้งใดๆ
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตที่ระบุว่า น.ส.วาสนา ตะเภาพงศ์ อดีตข้าราชการพม. กินยาพร้อมกับนายพุฒิพัฒน์ แต่รอดชีวิต จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร หรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องนี้ และทราบว่า พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ก็ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน แต่ส่วนตัวคิดว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นการคาดการณ์กันไปเองมากกว่า
ส่วนจะต้องมีการสอบสวนหาสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรือฆาตกรรมหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการสอบสวน ในส่วนของกระทรวงพม. ยังดำเนินงานตามระบบของตัวเองต่อไป ไม่มีการกดดัน หรือต้องทำอะไรเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการตรวจสอบเรื่องการทุจริตภายในกระทรวง ซึ่งยังมีเรื่องของปัญหาการจัดซื้อผ้าห่มกันหนาวแจกจ่ายประชาชนของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า พม. ยังสอบสวนอยู่ และการทุจริตทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้กำชับไปแล้วว่า ให้สอบสวนตามขั้นตอน และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เพราะบางกรณีเป็นการกล่าวหากัน บางกรณีเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ทุกอย่างยังต้องสอบสวนไปตามปกติ โดยที่ไม่มีอะไรต้องกังวล
นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี กล่าวถึงอาการของน.ส.วาสนา ที่กินยาบางชนิด หวังฆ่าตัวตาย พร้อมนายพุฒิพัฒน์ จนต้องส่งล้างท้องเร่งด่วนที่โรงพยาบาลปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้อาการโดยรวมของผู้ป่วย ถือว่าพ้นภาวะวิกฤตแล้ว แต่แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการโดยรวมทั้งสุขภาพทางร่างกายและจิตใจอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ ผู้ป่วยสามารถพูดคุยกับญาติได้บ้างแล้ว แต่ทางแพทย์ยังต้องให้ผู้ป่วยพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอ.ซี.ยู.ต่อไป ส่วนเรื่องการออกจากโรงพยาบาล ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อใด
ด้านพล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. กล่าวถึงการสอบสวนวินัยร้ายแรง ข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ภายหลังจาก นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีต ปลัด พม. ฆ่าตัวตายว่า นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบวินัย ได้ดำเนินการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว เตรียมสรุปสำนวน กว่า 300 หน้า ให้เรียบร้อย และส่งมาให้ตน ภายในวันนี้ (3 ก.ค) จากนั้นตนจะต้องส่งให้ฝ่ายกฎหมายตีความเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง และหากมีประเด็นสงสัยใดๆ ก็เป็นอำนาจที่จะสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม แต่หากเห็นว่าครบถ้วนหมดแล้ว ก็จะส่งเรื่องเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกระทรวง พม. กลางเดือนก.ค.นี้ เพื่อดำเนินการตามบทสรุปความผิดของแต่ละบุคคลต่อไป โดยกรณีนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 26 ราย ซึ่งต้องดำเนินการให้รอบคอบ
เมื่อถามว่า ยังต้องพิจารณาโทษของนายพุฒิพัฒน์ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วหรือไม่ พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ในสรุปผลการสอบสวน น่าจะยังมีกรณีของนายพุฒิพัฒน์ อยู่ เพราะเหตุเพิ่งเกิด แต่จะต้องส่งให้ อ.ก.พ.กระทรวงพิจารณา หรือไม่ ต้องสอบถามจากฝ่ายกฎหมายก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่อ้างถึงคำพูดของ นายพุฒิพัฒน์ว่า “ผมสั่งให้หยุดแล้ว แต่เขาไม่ฟังผม” นั้น พล.อ.อนันตพร ยอมรับว่า ก็รู้สึกทำให้สงสัยเหมือนกันว่า บุคคลดังกล่าวหมายถึงใคร แต่ก็ไม่รู้จะขยายผลอย่างไร จึงต้องรอดูสำนวนการสอบสวนของตำรวจว่า พอมีอะไรให้ตีความหรือดำเนินการต่อไปได้บ้าง
วันเดียวกันนี้ ที่วัดพรหมวงศาราม ศาลา 4 ซอยประชาสงเคราะห์ 27 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การฌาปนกิจศพ นายพุฒิพัฒน์ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ท่ามกลางบิดา มารดา และญาติพี่น้อง ที่มาร่วมงาน รวมถึงผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคคลากรของกระทรวง พม. ที่เคยร่วมงานกับนายพุฒิพัฒน์ กว่า 400 คน ทั้งนี้ ทางญาติของนายพุฒิพัฒน์ ไม่ให้สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น