การเมืองต้องลดระดับความคึก การดูดสูบ ตกเขียวต้องผ่อนแรงชั่วคราวขณะที่คนทั้งประเทศใจจดจ่อกับการเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ไทยและประเทศต่างๆ ค้นหา 13 ชีวิตของทีมหมูป่าในโพรงวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน แต่ใช่ว่าจะพยายามรุกคืบแข่งกับเวลา
ผลของการดูดนักซื้อเสียงที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะชนะศึกกาเบอร์ จะเป็นเครื่องชี้วัดว่ากลุ่มผู้กุมอำนาจรัฐขณะนี้มั่นใจเพียงพอที่จะกำหนดวันเลือกตั้ง ยิ่งผู้เป็นฐานอำนาจตัวจริงชื่นชมกับกลุ่มแกนนำพลังดูดด้วยแล้ว ก็มั่นใจว่าคุณท่านมีโอกาสได้ไปต่อ
เมื่อประเมินจำนวนนักแสวงโชคทางการเมืองในกลุ่มพลังดูดแล้วมีเกือบ 100 ชีวิต สะท้อนให้เห็นถึงพลังดูดรุนแรง ส่วนใหญ่ดูดไปจากพรรคเหลี่ยม ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก การเมืองย่อมมีหักหลัง ค่าตัว ขายให้แก่ผู้ประมูลสูงสุด พวกมีเกรดมีอำนาจต่อรอง
พวกที่พอมีราคาก็ยังยึกยักอยากโก่งค่าตัว อ้างว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ ขอดูก่อน!
การระดมพลังดูดไม่เกรงใจพรรคเดิมทำให้เกิดแรงกระเพื่อม จนสมุนเหลี่ยมพูดแดกดัน “รับเงินหมา กาให้เพื่อไทย” หัวหน้าเหลี่ยมส่งเสียงเย้ยจากแดนไกลเตือนว่าพวกอพยพสอบตกแน่เพราะคนเลือกพรรค ไม่เลือกผู้สมัครที่ย้ายคอก จริงหรือไม่รอวันพิสูจน์
กลุ่มพลังดูดไม่ใส่ใจ มองว่าเป็นความได้เปรียบที่ได้ตีกินชิงตัวนักเลือกตั้งหน้าเดิมตามแบบ “โตแล้วเรียนลัด” ไม่ต้องสร้างคนหน้าใหม่ไร้ฐานคะแนน ลงทุนแล้วผลตอบแทนต่ำ ไม่แน่นอน โอกาสสอบตกมีอยู่สูง เอาพวกที่ชาวบ้านรู้จักรอคืนหมาหอนดีกว่าเยอะ
เป็นทางลัดเข้าสู่อำนาจรัฐอีกครั้ง ของกลุ่มผู้ไม่อยากเสี่ยงลงจากหลังเสือ!
เรื่องพรรค์นี้มันบ่แน่หรอกนาย! การเมืองน้ำเน่าดินแดนสยามเมืองยิ้มแห้งๆ ของหมู่เฮาไม่มีกฎตายตัว วางแผนล่วงหน้าระยะยาวไม่ได้ ว่ากันเดือนต่อเดือน ตามอารมณ์ของชาวบ้านซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาวะของการดำรงชีพ นั่นเป็นตัวชี้ “ขาขึ้น” หรือ “ขาลง”
ยิ่งเป็นช่วงจังหวะ “ขาลอย” ด้วยแล้ว ไปทางไหนก็ได้ตามอารมณ์แปรปรวน!
ถ้ามีศึกกาเบอร์จริงในปีหน้า จะไม่ใช่การเลือกตั้งธรรมดา แต่เป็นศึกล้างแค้น ล้างตา นำไปสู่การล้างบางโดยฝ่ายชนะ เดิมพันสูง ใครได้กุมอำนาจก็จะกดอีกฝ่ายให้เสียท่า เป็นไก่รองบ่อน จะหวังให้ชาวบ้านฐานเสียงชุมนุมเดินขบวนขับไล่ก็ไม่ง่ายเหมือนเดิม
มีกฎหมายควบคุมการชุมนุมกดหัวชาวบ้าน ห้ามเคลื่อนไหวนอกเกมโดยไม่ได้รับการเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะหวังยอมอนุมัติง่ายๆ ไม่ฟังรัฐบาล คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นต้องอาศัยลิ้นเปื้อนน้ำลายพิษในสภา ถล่มผลงานของรัฐบาลถ้าคุมเกมไม่อยู่
ก่อนถึงวาระนั้น ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญคือการปลดล็อกและเงื่อนไขผ่อนปรน ฝ่ายกุมอำนาจมีเรื่องเยอะ ห้ามหาเสียงโดยการโจมตีรัฐบาล ซึ่งเป็นกฎที่ผิดธรรมชาติของสัตว์การเมือง เพราะการเมืองถ้าไม่โจมตีฝ่ายตรงข้าม ก็ไม่ใช่การแข่งขัน แต่ซูเอี๋ยกัน
การฮั้วทางการเมืองย่อมไม่ใช่เรื่องดี รัฐบาลที่ไร้การตรวจสอบอย่างเต็มที่โดยฝ่ายค้านย่อมเปิดช่องให้เกิดการทุจริต ประพฤติมิชอบ ถ้าองค์กรอิสระไม่ได้เป็นที่พึ่งพาของประชาชน ดูผลงานขององค์กรอย่าง ป.ป.ช.ในเรื่องสำคัญในอดีตก็เห็นชัดว่าเป็นอย่างไร
เริ่มต้นอย่างนี้ ถ้ามีการเลือกตั้งจริง จะหวังให้บ้านเมืองดีขึ้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่จะเป็นคนหน้าเดิม ถ้าผู้นำรัฐบาลก็คนหน้าเดิมด้วยแล้ว มีอำนาจน้อยลง จะเป็นเบี้ยล่างของนักเลือกตั้งซื้อเสียงซึ่งจะเรียกร้องเอานั่นนี่โน่น โกยกินไม่รู้จักอิ่ม
ไม่มีอำนาจมาตรา 44 มีฐานเสียงในสภาก็จริงแต่จะโดนซักอย่างหนัก แบบไม่เกรงใจโดยฝ่ายค้านและฝ่ายแค้น จะอยู่ไม่เป็นสุข สภาผู้แทนอาจถูกแปรสภาพเป็นตลาดน้ำลาย ย้อนดูประวัติศาสตร์ รัฐบาลจอมพลถนอม-ประภาสโดนแบบนี้มาแล้ว
ผลสุดท้ายต้องรัฐประหารตัวเอง สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ ล้างบางนักการเมือง ผลสุดท้ายอำนาจเผด็จการอยู่ได้ไม่นาน เกิดวันมหาวิปโยค แต่ประเทศไทยเหมือนมีเวรกรรม ผ่านไปกว่า 40 ปี ประชาธิปไตยไม่ยั่งยืน เป็นการลองผิดลองถูกระบบเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้ นึกว่าจะมีปรากฏการณ์ใหม่ มีระบบไพรมารี คัดสรรนักเลือกตั้งก่อนเข้าสู่สนามสุดท้าย แต่ทำท่าว่าจะไปไม่รอด นักซื้อเสียงไปลำบาก การดูดไม่ได้รับประกันว่าจะได้ผู้ชนะ ดังนั้นจึงมีข่าวว่าระบบนี้ต้องยกเลิกไปก่อน คนกาเบอร์ยังไม่พร้อมด้วย
“เงินไม่มา กาไม่เป็น” หรือ “เงินไม่มา ขาไม่เดิน” ยังเป็นมนตราขลังเช่นเดิม!
เมื่อจะมีเลือกตั้ง ไม่มีการปฏิรูป สภาพการเมืองจะแย่ยิ่งกว่าเดิม ซ้ำเติมโดยสภาวะเศรษฐกิจตายซากในระดับรากหญ้า ความคับแค้น แร้นแค้นในการสร้างรายได้ มีแรงกดดันจากภาระหนี้สิน นโยบายประชานิยมถมไม่เต็มบรรเทาไม่ได้อย่างยั่งยืน
ถ้าหัวหน้ารัฐบาลยังพูดจาขวานผ่าซาก กระโชกโฮกฮาก ไร้มธุรสวาจา เหมือนที่เป็นอยู่ฝ่ายค้านก็ไม่ยั้งปากไว้ไมตรีเช่นกัน ศึกน้ำลายจะมันแซ่บแค่ไหน มีคนอยากดูแน่
ศึกการค้าระหว่างมหาอำนาจ รุมกินโต๊ะสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออก การค้าระหว่างประเทศ สยามเมืองยิ้มแห้งๆ ยังต้องกู้สร้างหนี้ ถ้าไม่บริหารความเสี่ยง เผชิญความผันผวน อาจเกิดวิกฤตจากผลกระทบ แม้มีคำรับประกันว่ายังเอาอยู่ก็ตาม
ช่วงนี้คุณท่านผู้นำพยายามกู้คะแนนความนิยม ดูเหมือนจะมีแนวโน้มด้านบวกเมื่อสหรัฐฯ อวยยอมยกไทยให้อยู่เทียร์ 2 ด้านสิทธิมนุษยชน เปิดช่องให้คุยโอ่ได้บ้าง หลังจากความเอือมระอาเพราะเศรษฐกิจรากหญ้าไม่ยอมฟื้น ให้ลืมตาอ้าปากได้
การยอมรับสภาพประเทศไทยโดยผู้นำอังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นเพราะผลประโยชน์ส่วนหนึ่งและคำมั่นซ้ำๆ ที่ว่าจะมีเลือกตั้งแน่นอนปีหน้า ทำให้ผ่อนแรงกดดันไปได้ จุดสำคัญคือคนในประเทศที่ยังไม่เห็นสัญญาณว่าสถานการณ์จะดีขึ้นได้อย่างไร
มีแต่คนเชื่อว่า ต่อให้คนหน้าเดิมได้อยู่ ก็จะยังมีปัญหามากกว่าเดิม!