xs
xsm
sm
md
lg

"หน่วยซีล"ใกล้เป้าหมาย ผ่านโถงที่ 3จวนถึง"พัทยาบีช" "พระสังฆราช"ทรงอำนวยพร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานหลอดไฟ LED สนับสนุนการทำงานของหน่วยซีล ยังความปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง "สมเด็จพระสังฆราช" ทรงอำนวยพรให้ 13 ชีวิตติดถ้ำปลอดภัย ขณะที่ผู้ว่าฯ เชียงราย ระบุการดูดน้ำออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ได้ผลดี ล่าสุดหน่วยซีลเข้าถึงโถงที่ 3 เหลืออีกเพียง 500 เมตร ก็ถึง "พัทยาบีช" ที่เป็นจุดหมายแล้ว นายกฯ ชื่นชมความร่วมมือทุกฝ่าย ขอบคุณที่เสียสละ เชื่อภารกิจค้นหาเยาวชน จะสำเร็จด้วยดี พร้อมแนะสื่อใช้แผนที่ชุดเดียวกับเจ้าหน้าที่ ป้องกันความสับสน

วานนี้ (1 ก.ค.) นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมปฏิบัติการถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน พร้อมด้วยพล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (หน่วยซีล) และ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินการช่วยชีวิต ทีมนักฟุตบอลหมูป่าอคาเดมี โดยนายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงติดตามข่าวนี้อยู่โดยตลอดตั้งแต่ต้น พระองค์ได้พระราชทานหลอดไฟ LED ที่สามารถชาร์จไฟได้ โดยหน่วยซีล จะนำไปแขวนในถ้ำ เพื่อให้สว่างถึง พัทยาบีช เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการทำงาน ยังความปลาบปลื้ม มาสู่ผู้ปฏิบัติงานเป็นล้นพ้น

สำหรับแผนการดำเนินการ 4 แผนในการค้นหานั้น แผนที่ 1 คือ เข้าด้านหน้า ออกด้านหน้า นั่นคือ ทีมนักฟุตบอลเข้าด้านหน้าถ้ำ ก็จะนำออกด้านหน้าถ้ำ แต่ปัญหาคือมีน้ำท่วมหน้าถ้ำ จึงได้มีการดูดน้ำออก ขณะที่หน่วยซีล สามารถเข้าไปได้ถึงโถงที่ 3 โดยจะใช้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยซีล วางอุปกรณ์พร้อมติดตั้งไกด์ล็อต และขวดอากาศไว้ทุก 25 เมตร เพื่อให้ทั้งซีล และทีมนักฟุตบอล ได้หายใจ

แผนที่ 2 จะเข้าทางอื่น คณะทำงานได้สำรวจหมดแล้ว ประมาณสิบกว่าโพรง แต่โพรงที่มีความเป็นไปได้สูงอยู่ 2 โพรง ก็จะดำเนินการต่อ โดยได้ขนอุปกรณ์ เครื่องจักรหนัก ใช้อากาศยานขนเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามแผน ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.61 ผลการดำเนินการมีความคืบหน้าพอสมควร

แผนที่ 3 จะเข้าทางปลายถ้ำ ทั้งการระบายน้ำ และเจาะบาดาล ซึ่งจากการเจาะบาดาลพร่องน้ำ พบว่าน้ำในถ้ำลดไปพอสมควร สามารถดูดน้ำออกไปได้จำนวนมาก

แผนที่ 4 การสแกนภูเขา มีปัญหา คือ อุปกรณ์มีมูลค่าสูง มีขนาดใหญ่ และหนักมาก ผู้เสนอยังไม่ได้เสนอแผนในการขนย้ายไปติดตั้งในพื้นที่

นอกจากนี้ ได้วางแผนว่า หากพบเด็ก ๆแล้ว จะดูแลรักษาพยาบาลอย่างไร ส่งต่อโรงพยาบาลไหน รวมทั้งการดูแลครอบครัว ซึ่งทุกหน่วยงานได้วางแผนดำเนินการอยู่

หน่วยซีลใกล้ถึงจุดหมาย"พัทยาบีช"

ด้าน พล.ร.ต.อาภากร ผบ.หน่วยซีล กล่าวว่า ขณะนี้หน่วยซีลได้เข้าไปถึงโถงสามแยก จากสามแยก มุ่งหน้าจะไปพัทยาบีช การทำงานยากลำบากเนื่องจากในถ้ำมืดและมีน้ำมาก เข้าไปได้ประมาณ 3 กม. มีการผูกเชือกนำ และติดขวดอากาศไว้ทุก 25 เมตร เพื่อจะไปให้ถึงตัวทีมนักฟุตบอล ที่พลัดหลง ที่คาดว่า น่าจะอยู่ที่พัทยาบีช ซึ่งจะต้องดำน้ำเข้าไป หากพบเด็กก็ต้องวางแผนว่า จะนำออกมาอย่างไร โดยอุปสรรคสำคัญ คือ น้ำจำนวนมาก และกระแสน้ำวน ซึ่งทางผบ.ทร. ให้ความสำคัญกับภารกิจนี้อย่างเต็มที่ พร้อมจะนำขวดอากาศมาสนับสนุนอีก 200 ขวด โดยมีกองทัพอากาศลำเลียงมาให้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่า หากยังไม่พบเด็กๆ ก็จะไม่กลับ

ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 กล่าวว่า จะมีการปรับระบบการจราจรใหม่ทั้งหมด โดยจะเดินรถทางเดียว ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานปฏิบัติตามด้วย

นายธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 1 เปิดเผยว่า จะมีการปรับแผนการช่วยเหลือ หากมีการพบเด็กและช่วยเหลือออกมาจากถ้ำได้ ก็จะใช้เฮลิคอปเตอร์นพไปยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งจะขนย้ายทั้ง 13 คนได้อย่างรวดเร็ว ภายใน 15 นาที เปรียบเทียบกับการเดินทางด้วยรถยนต์ต้องใช้เวลา 1 ชั่วโมง และจากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น คาดว่าทั้ง 13 คน น่าจะอ่อนแรง เพราะขาดอาหาร และน้ำ หรือหาก ได้รับก็ไม่เพียงพอ เกลือแร่ในร่างกายคงไม่สมดุล แต่หากมีการบาดแผลตามร่างกาย จะทำแผลที่โรงพยาบาลสนามก่อน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 21.20น. ว่า หน่วยซีล ที่ปฏิบัติการค้นหา ได้ผ่านโถง 3 แล้ว เหลืออีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึง”พัทยาบีช” ซึ่งเป็นจุดเป้าหมายที่คาดว่า ทั้ง 13 ชีวิต จะติดค้างอยู่ที่นั้น

'สมเด็จพระสังฆราช'ทรงอำนวยพร

วานนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานพระเมตตาธรรมปรารภ กรณีเหตุการณ์ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ความว่า

"ในยามที่เพื่อนร่วมชาติจำนวน 13 คน กำลังตกอยู่ในภาวะคับขัน ณ ถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร พลเรือน อาสาสมัครทุกฝ่าย ร่วมกับประชาชนจิตอาสา พร้อมด้วยชาวต่างประเทศ ผู้มีมิตรจิตมิตรใจ ระดมกันเข้าช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง แสดงถึงพลังสามัคคีแห่งคนไทย และน้ำใจมิตรในยามวิกฤต เป็นที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

เมื่อวันศุกร์ ที่ 29 มิถุนายน2561 สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงอาราธนาพระสงฆ์ ให้นำพุทธศักราชแผ่เมตตาด้วยการเจริญกรณียเมตตสูตร ด้วยทรงห่วงใยเป็นอย่างยิ่ง อาตมภาพขอถวายอนุโมทนา และขออนุโมทนา อีกทั้งเชิญชวนชาวไทย จงร่วมกันเจริญกรณียเมตตสูตร และศึกษาความหมายแห่งพระสูตรนั้นให้กระจ่างใจ เพื่อประมวลเป็นกำลังจิตอันถึงพร้อมด้วยเมตตาธรรมไม่มีประมาณ เพื่อยังความสวัสดีของทุกชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวเถิด

ขออำนวยพร ให้ผู้ประสบเหตุ และผู้ปฏิบัติหน้าที่เข้าช่วยเหลือทุกคนจงเจริญสวัสดิภาพ ประสบผลสำเร็จในภารกิจที่มุ่งหมายทุกประการ เทอญ."

เชื่อภารกิจค้นหาจะสำเร็จด้วยดี

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการค้นหาเยาวชน และโค้ชทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ว่า "ถึงขณะนี้เราได้เห็นความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนไทยทุกคน ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ และทั่วประเทศ ขอบคุณจิตอาสา พระภิกษุ ครูนักเรียน ที่แสดงออกถึงความห่วงใย และกำลังใจต่อกลุ่มเยาวชนและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนัก รวมทั้งขอบคุณชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่โดยรอบ ที่เสียสละพื้นที่ให้ระบายน้ำ โดยจะให้กระทรวงมหาดไทยดูแลต่อไป"

นอกจากนี้ ในนามของกอ.รมน. ขอบคุณทุกฝ่ายที่ระดมสรรพกำลังเข้ามาช่วยกันทั้งการไฟฟ้า ชลประทาน ทหารบก ทหารอากาศ ทหารเรือ ตำรวจ นักบิน พลเรือน และอาสาสมัครคนไทยและต่างประเทศด้วย

"นายกฯ เชื่อว่าความร่วมมือร่วมใจนี้จะทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงได้อย่างแน่นอน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทั้งคนไทยและต่างประเทศ รวมทั้งครอบครัวของเยาวชนทุกคนมีกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อฝ่าฟันช่วงเวลาเช่นนี้ไปให้ได้" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ได้มีการเปิดบัญชีทางแอปพลิเคชันไลน์ โดยใช้ชื่อ "ข่าวจริงประเทศไทย" หรือ @realnewsthailand โดยเป็นความพยายามที่จะทำให้ข้อมูลข่าวสารที่สับสนในปัจจุบันกระจ่างขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นการเจาะจงเพียงข่าวการค้นหาโค้ชและเด็กทั้ง 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เท่านั้น แต่ยังรวมถึงข่าวลือต่างๆ ในสังคม ก็สามารถเข้าไปค้นข้อมูลได้ในไลน์ ดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นายกฯ ได้สั่งการให้กรมประชาสัมพันธ์ร่วมกับฝ่ายปกครอง ช่วยกันจัดระเบียบข้อมูลข่าวสารด้วย หากมีข้อมูลอัพเดต ก็ต้องรีบชี้แจงให้สื่อมวลชน ให้เร็วที่สุด

รมช.กลาโหมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน

ช่วงบ่ายวานนี้ (1 ก.ค.) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ บริเวณถ้ำหลวง และตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์สนาม ที่ให้การช่วยเหลือดูแลทั้งสุขภาพกาย และจิตใจของญาติเด็กๆ ทั้งหมด พร้อมให้คำยืนยันว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมได้ฝากความหวังดี และเป็นกำลังใจให้กับทั้งเจ้าหน้าที่ และญาติๆ ทุกคน

พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่าในปฏิบัติการช่วยเหลือครั้งนี้ มีการใช้กำลังจากทั้งกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยต่างๆ ที่ปฏิบัติงานกันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีหยุด โดยเฉพาะทางหน่วยชีลที่ยังคงดำน้ำเข้าไปเป็นหน่วยหน้าภายในถ้ำร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ ที่ขันอาสามาจากหลายประเทศ

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ยังคงปักหลักในพื้นที่ เพื่อร่วมวางแผนการค้นหาทีมนักฟุตบอลทั้ง 13 ชีวิต และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชลประทาน ในการปฏิบัติงานด้านสูบน้ำ และงานสำรวจภูมิประเทศ และธรณีวิทยา ซึ่งขณะนี้ มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำของกรมชลประทานไปแล้วทั้งสิ้น 32 เครื่อง เครื่องปั่นไฟ 2 เครื่อง และกำลังปฏิบัติการสูบน้ำออกจากถ้ำอย่างต่อเนื่อง

ด้านนายนภดล นิยมค้า ผู้ผลิตท่อสูบน้ำรายใหญ่ ใน จ.เพชรบุรี ได้นำเครื่องสูบน้ำเทอร์โบเจต 4 หัว ขนาด 12 แรงม้า จำนวน 12 ตัว ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้า เข้าไปติดตั้งเพื่อสูบน้ำภายในถ้ำหลวง เสริมกับทีมสูบน้ำที่เข้าไปก่อนหน้านี้ โดยเครื่องสูบดังกล่าว ตนได้ทำการรื้อด่วนจ ากไร่นา และได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิชัยพัฒนาในการเคลื่อนย้ายมาถ้ำหลวง ซึ่งเครื่องสูบน้ำเทอร์โบเจต เป็นเครื่องที่มีแรงที่สุดในประเทศไทย โดยเครื่องนี้ประกอบพร้อมใช้ในเวลารวดเร็ว เพียง 15 นาทีเท่านั้น

หวังดาวเทียมสหรัฐฯสแกนหา13ชีวิต

รศ.ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล กูรู และผู้คร่ำหวอดด้านวิทยาศาสตร์เมืองไทย กล่าวถึงประเด็นที่ สหรัฐอเมริกา ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือในการต้นหา 13 ชีวิต ว่า เบื้องต้นเท่าที่ติดตามข่าวมา จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการปฏิบัติการใดๆว่า ได้มีการปฏิบัติการอะไรไปบ้างแล้ว เนื่องจากทั้งหมดเป็นความลับ

แต่มีประเด็นหนึ่งน่าสนใจ ก็คือ เป็นไปได้หรือไม่ว่า ทางสหรัฐฯ อาจจะใช้ดาวเทียมทางทหาร มาช่วยในการปฏิบัติการครั้งนี้ก็เป็นได้ เพราะเทคโนโลยีชั้นสูงนี้ สหรัฐฯ เคยนำมาใช้แล้วในการปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการก่อการร้าย ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำลึกในหลายๆ ประเทศ ก่อนหน้านี้ โดยหลักการคือ การใช้ดาวเทียมทางการทหารสแกนหาความร้อนจากร่างกายมนุษย์ที่อยู่ในถ้ำ

อย่างไรก็ตาม หากมีการนำดาวเทียมทางการทหาร มาช่วยในภารกิจนี้จริงๆ ก็ต้องรอเวลา รอจังหวะให้ดาวเทียมนี้โคจรมาอยู่ในจุดที่เหมาะสมในการลงมือปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย จึงจะสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ เรื่องที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ส่วนกองทัพสหรัฐฯ จะนำเทคโนโลยีดังกล่าว มาใช้ในปฏิบัติการครั้งนี้หรือไม่ คงต้องรอติดตามกันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น