อัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ได้ยื่นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฟ้องผู้ต้องหาคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรชุดที่สองรวม 5 คน โดยมีนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยติดร่างแหร่วมขบวนการทุจริตไปด้วย
นายอริสมันต์เพิ่งได้รับการประกันตัวออกจากคุกเมื่อประมาณกลางเดือนมีนาคม 2561 ในคดีบุกล้มเวทีประชุมผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552 โดยถูกตัดสินจำคุก 4 ปี พร้อมกับแกนนำคนเสื้อแดงรวม 13 คน
คดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร มีนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหัวโจก และถูกอัยการยื่นฟ้องรวมกับพวก 9 คนไปแล้วก่อนหน้า
คดีล้มการประชุมผู้นำอาเซียนที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2552 เป็นเพียง 1 ในวิบากกรรมของนายอริสมันต์ แกนนำคนเสื้อแดง ซึ่งเป็น 1 ในนักสู้แล้วรวย เพราะยังมีคดีนับไม่ถ้วน ที่รอคิวส่งตัวนายอริสมันต์กลับเข้าคุกยาว
ไม่ว่าการนำมวลชนคนเสื้อแดงบุกทำเนียบรัฐบาล ในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คดีก่อการร้าย ปลุกระดมคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองเมื่อปี 2553 คดีหมิ่นประมาทนายอภิสิทธิ์ซึ่งศาลฎีกาตัดสินจำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
หลายคดีสิ้นสุดแล้ว ด้วยคำตัดสินโทษจำคุกมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่คดี แต่อีกหลายคดีอยู่ระหว่างรอคำพิพากษา และเป็นคดีร้ายแรงโทษหนัก ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิด
ชีวิตที่เหลือของนายอริสมันต์ อาจติดแหงกยาวอยู่ในคุก ชดใช้ความผิดที่ก่อไว้ในยุคที่ระบอบทักษิณเรืองอำนาจ และชดเชยความร่ำรวยที่ได้มาจากการเป็นลูกสมุนรับใช้นายทักษิณ
ฐานะของนายอริสมันต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดหูผิดตา นับตั้งแต่อาสาเป็นหัวโจกเสื้อแดงฝีปากร้าย โดยครอบครัวยกระดับเป็นเศรษฐี มีบ้านหรู มีเงินไหลมาเทมา แต่เงินจำนวนหลายสิบล้าน กลับไม่มีที่มาที่ไป ไม่สามารถชี้แจงสังคมได้ว่า เงินมาจากไหน จนถูกอายัดทรัพย์
ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภรรยานายอริสมันต์ เพิ่งถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อายัดทรัพย์จำนวน 42.81 ล้านบาท
ป.ป.ช.ตรวจสอบพบว่า ระหว่างรับตำแหน่งการเมือง เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีเงินเข้าออกในบัญชีจำนวนมาก แต่ไม่อาจชี้แจงการได้มาของทรัพย์สินได้ จึงสั่งอายัดทรัพย์ และจะยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินในขั้นตอนต่อไป
ความร่ำรวยผิดปกติ และการมีเงินไหลเข้าออกในบัญชีจำนวนมาก ระหว่างที่เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย คงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกรณีนางระพิพรรณเท่านั้น แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่รับบทสมุนคนใกล้ชิดนายทักษิณ และทำหน้าที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นๆ คงร่ำรวยผิดปกติเหมือนกัน
เพราะเป็นตัวผ่านท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยกัน
เพียงแต่ ป.ป.ช.ยังไม่สามารถตรวจสอบพบความร่ำรวยที่ไม่ปกติของแกนนำคนเสื้อแดงคนอื่นๆ เท่านั้น โดยสังคมได้แต่รอคอยและเฝ้าหวังว่า
แกนนำคนเสื้อแดงที่สู้แล้วรวย ยอมก้มหัวเป็นลูกสมุนรับใช้นายทักษิณแล้วกลายเป็นเศรษฐี จะไม่สามารถลอยนวลจากกรรมที่ก่อไว้ และสักวันหนึ่งต้องชดใช้ เช่นเดียวกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งยังถูกจองจำอยู่ในคุก หรือนายอริสมันต์ซึ่งรอวันกลับไปเป็นเพื่อนกับนายจตุพรในคุก
บทบาทการเป็นแกนนำคนเสื้อแดงที่กร้าว ปากกล้า พูดจาจาบจ้าง และได้รับการตบรางวัลจากนายทักษิณ ทั้งความมั่งคั่งหรือตำแหน่งรัฐมนตรี ใช้ชีวิตเสวยสุขมาหลายปี แต่วันนี้ ทุกคนกำลังเข้าคิวรอชดใช้ความชั่วร้ายที่ก่อไว้กับแผ่นดิน
อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นักร้องชื่อก้อง ที่ผันตัวเป็นลูกสมุนคนสำคัญของนายทักษิณ กำลังเป็นอีกหนึ่งในหัวโจกเสื้อแดงที่มีคิวเข้าคุกจ่ออยู่
ถ้า “ทักษิณ” ยังอยู่ และกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ แกนนำคนเสื้อแดงคงไม่ต้องหวั่นไหวในความผิด ไม่ต้องกลัวกฎหมาย ไม่ต้องตระหนักถึงเวรกรรม
แต่เมื่อ “ทักษิณ” ยังต้องหนีกระเจิดกระเจิง ไปคุยอวดเก่งในต่างประเทศ ใครล่ะจะช่วยคุ้มหัวให้หัวโจกคนเสื้อแดงที่มีคิวติดคุกยาวเหยียด