xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**กลเกมนายทุน!! บทบาท “ธนาธร”แห่งอนาคตใหม่ มูลเหตุสำคัญที่ทำให้ “สุริยะ”ต้องหวนสังเวียนการเมือง กับ “กลุ่มสามมิตร”ที่เป็นนั่งร้าน “พรรคทหาร” หวัง “ถ่วงดุล”จุดยืนของ “ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ”ที่ยังต้องตั้งรกรากทำมาหากินในประเทศไทยไปอีกนาน

งุนงงไม่น้อย .. กับการรีเทิร์นสู่สนามการเมืองอีกครั้งของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่กลับมาพร้อมการเปิดตัว “กลุ่มสามมิตร”ที่เขาเป็นแกนนำร่วมกับคู่หู อย่าง สมศักดิ์ เทพสุทิน .. เป็น “กลุ่มสามมิตร”ที่กำลังมีบทบาทแบบวางตาไม่ได้ ในการไล่ดูด-ตกเขียว อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย มาเข้าคอกใหม่ที่ชื่อ “พรรคพลังประชารัฐ” ..อันมีความชัดเจนว่าเป็น “พรรคสีเขียว”มีภารกิจชัดเจนในการสนับสนุน “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. คืนบัลลังก์ผู้นำประเทศอีกหน หลังเลือกตั้ง .. การพลิกขั้วแบบ 360 องศาของ “นักการเมือง”มีให้เห็นบ่อยๆ หากแต่ไม่น่าจะเป็นคนที่ชื่อ“สุริยะ” .. ที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นหม้อ เป็นถึง “เลขาธิการพรรคไทยรักไทย”เคียงข้าง ทักษิณ ชินวัตร สมัยเรืองอำนาจ .. ที่สำคัญหลัง “ทักษิณ”หมดวาสนาถูดยึดอำนาจปี 2549 “สุริยะ”ก็เลือกที่จะเฟดตัวออกจากการเมืองมาตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยมีเหตุผลสำคัญ เพื่อไม่ให้กระทบกับ “ธุรกิจของครอบครัว” .. และที่ผ่านมา “สุริยะ”ก็หงายการ์ด “ป่วยหนัก - เลิกเล่นการเมือง”มาโดยตลอด ..
แต่จู่ๆ เลือกกระโจนเข้ามาในจังหวะที่การเมืองกำลังเข้มข้น แถมยังมาตั้งป้อมสู้กับ “อดีตนายเก่า”แบบนี้ จึงมีเครื่องหมายคำถามตัวโตๆตามมา .. ปฏิเสธไม่ได้ว่าความเย้ายวนของ “การเมืองเรื่องของอำนาจ”อาจจะดึงดูด “คนเคยใหญ่”ที่ครั้งหนึ่งคุมผลประโยชน์มหาศาลในกระทรวงเกรดเอ อยู่บ้าง .. แต่หากอ่านเกมดีๆ แล้วก็จะพบว่า การที่ “สุริยะ”ต้องกลับมาเล่นการเมืองเต็มตัว ก็เข้าอิหรอบ “ทฤษฎีสมคบคิด”ไม่น้อย .. อาจจะฟังดูไม่น่าเชื่อ หากจะมองว่า “สุริยะ”เป็น “ตัวแทนทักษิณ”ที่เข้ามาร่วมจอยในซีก “พรรทหาร”แต่ก็อย่าดูเบาไป .. แต่ทฤษฎีที่ชัดๆ คงเป็นการเดินตามโมเดลของ “ตระกูลใหญ่ - มหาเศรษฐี”ของเมืองไทย ในการเลือกยืนกันละขั้วการเมือง .. เหมือนอย่างที่ครอบครัว “ปุณณกันต์” ผ่านบทบาทของพี่น้อง “บี - บรู๊ค” หรือกระทั่ง “เวชชาชีวะ”ที่มีทั้ง “อภิสิทธิ์” และ “สุรนันทน์ ”ที่อยู่ต่างพรรคต่างขั้ว .. การปรากฏตัวของ “เสี่ยเอก”ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับบทบาทหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีแนวทางในการต่อต้าน คสช. อย่างชัดเจน .. แล้วยังมีประเด็น “ไต่เส้น”ที่น่าห่วงว่า จะย้อนศรกลับไปกระทบธุรกิจของตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ”อีกด้วย .. ด้วยความหวาดหวั่นในบทบาทของ “คนเป็นหลาน”ตรงนี้เอง ที่อาจจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ “ผู้เป็นอา”จำเป็นต้องกลับมาสวมเสื้อ” นักการเมือง”อีกครั้ง เพื่อ “ถ่วงดุล”จุดยืนของ “ตระกูล จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ยังต้องตั้งรกรากทำมาหากินในประเทศไทยไปอีกนาน

**แอบสึกไปแล้วนะจ๊ะ!! “เสี่ยแป๊ะ”อดีตสมุนข้างกาย “สมเด็จช่วง”แอบสึกเงียบๆ เข้าตำรา “ผ้าเหลืองร้อน - กางเกงคับ”หลังถูกแฉว่าควงสีกาเที่ยวนอก แถมมีชนัก “คดีเงินทอนวัด”เหมือนพระดังๆ วัดอื่นด้วย ดัชนีตกสุดขีด จากปม “เบนซ์หรู”ที่ทำ “ผู้เป็นนาย”ไม่ถึงฝั่งฝัน หน่ายหน้าถึงขั้นออกปาก “ไม่ต้องมาหาอีก” จะมีก็แค่ “หลวงพี่น้ำฝน”น้องรักที่ยังพร้อมดูแล “ศิษย์พี่”เสมอ

ไปไม่ลา มาไม่ไหว้ .. รายของ “เจ้าคุณแป๊ะ”อดีต พระมหาศาสนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ที่เคยเป็น“พระอุปัฏฐาก” ประจำตัว “สมเด็จช่วง”สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ .. วันนี้กลายเป็น “เสี่ยแป๊ะ จีวรบิน” เข้าตำรา “ผ้าเหลืองร้อน - กางเกงคับ”ขานตามบัตรประชาชน “ธนกิจ สุภาโว”เป็นที่เรียบร้อยแล้ว .. หลังปรากฏภาพ “คนหน้าคล้าย”ใส่ชุดฆราวาส พร้อมออปชั่น สวมหมวก แว่นตา นาฬิกา ยิ้มเจื่อนๆ นั่งเซลฟี่ คู่กับสตรีนางหนึ่ง .. ก่อนมีการคอนเฟิร์มว่า “เสี่ยแป๊ะ”ไม่ได้กลับวัดมาครึ่งค่อนปีแล้ว โดยเชื่อว่าน่าจะ“สึกจากความเป็นพระ”ไปแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งมาให้ “สมภารวัด”ทราบตามระเบียบเท่านั้น .. สายข่าวแจ้งว่า ภาพที่ฮือฮากันอยู่ตอนนี้ เป็นภาพเมื่อหลายเดือนก่อน ขณะที่ “ท่านเจ้าคุณ”ยังไม่ลาสิกขา แค่หนีเที่ยว ควงสาวข้างกายไป โซ้ยลอดช่องที่ประเทศสิงคโปร์ .. ปรากฏว่า ภาพที่ว่าหลุดไปถึง “ผู้ใหญ่” ก็เลยมีการออกปากให้ลาสิกขาไปเสีย ตัว “เสี่ยแป๊ะ”เองก็รู้ทิศทางลมกรรโชก “ปฏิรูปสงฆ์” .. โดยเฉพาะตัวเองที่มีชื่อเป็นผู้ดูแล งบบูรณะปฏิสังขรณ์วัด” มูลค่า 28 ล้านบาท ที่เข้าข่าย “เงินทอนวัด”จาก สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ที่ “ตำรวจ ปปป.”เคยเข้าไปตรวจสอบถึงวัดปากน้ำมาแล้ว เมื่อปีกลาย ยังไม่รวมโครงการ “หมู่บ้านศีลห้า”ที่มีชื่อเป็นกรรมการอยู่ด้วย ..
ไม่เท่านั้นยังมี “เบื้องลึก”อีกว่า ระยะหลัง “อดีตเจ้าคุณแป๊ะ”ดัชนีร่วงหนักจาก “สมุนคู่ใจ”กลายไปเป็น “บริวารเป็นพิษ” ในสายตา “ผู้เป็นนาย”ไปซะได้ .. ก็ด้วยเป็นผู้นำ “เบนซ์หรู”มาประดับบารมี “สมเด็จช่วง”ที่เป็นปมสำคัญ ทำให้พลาดเก้าอี้ “ประมุขสงฆ์” ในโค้งสุดท้าย .. ถึงขนาดที่ว่า “สมเด็จช่วง”เอ่ยปากขับไสกันซึ่งหน้า “ไม่ต้องมาหาอีก”เลยทีเดียว ครั้นจะไปพึ่งใบบุญสำนักอื่น ก็ไม่มีใครเอา .. ก็ติดที่สมัย “เคยใหญ่” เป็นเลขาฯ ผู้ปฏิบัติหน้าที่พระสังฆราช ก่อวีรกรรมงามหน้าไว้เยอะ ประเภทบารมีไม่สร้าง มีแต่ “โจทก์” รอเช็กบิลเพียบ .. จะมีก็แต่น้องรักอย่าง “หลวงพี่น้ำฝน” พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ แห่งวัดไผ่ล้อม นครปฐม ที่ยังพร้อมทดแทนบุญคุณ “ศิษย์พี่”อยู่เสมอ .. แต่เมื่อประเมิน “หุ้นสงฆ์”ทั่วราชอาณาจักรวันนี้ ระดับ รองสมเด็จ –เจ้าคุณชั้นเทพ - ชั้นพรหม ยังเอาตัวไม่รอด แล้ว “ศิษย์น้อง”ที่ติดยศแค่ “พระครู” แถมพกคดีเก่าไว้เต็มกระบุงจะไปเหลืออะไร “ศิษย์พี่”ชิ่งไปก่อน ส่วน “ศิษย์น้อง”อีกไม่นาน คงตามๆ กันไป

** รวยจนปิดไม่มิด!! “ป.ป.ช.โซเชียล” แฉ “คุณหนูตั๊น”ควบจักรยานคันละ 4 แสน แต่มีหน้าไปยื่นขอเงินกองทุนยุติธรรมช่วยประกันตัว รู้ทั้งรู้ว่าไม่เข้าข่าย “คนจน - คนยากไร้”ตามวัตถุประสงค์ ใครก็ดูออกว่าเป็นแค่ “ลูกไม้”ยื้อคดี กลายเป็นปม “ไม่ค่อยฉลาด”ที่จะตามหลอน “ว่าที่นายกฯหญิง” ไปอีกนาน

รวยซะให้เข็ด .. ความรวยของ “คุณหนูตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร เซเลปคนดังแห่ง กปปส. ทายาททุนใหญ่เบอร์ต้นของประเทศ มันปิดไม่มิดจริงๆ .. ล่าสุดเจอ “ป.ป.ช.โซเชียล” เพจ CSI LA นำภาพที่ “สาวตั๊น”โพสต์ขณะไปปั่นจักรยานออกกำลังกาย ที่สนามสกายเลน สุวรรณภูมิ มาชำแหละความอู้ฟู่ของคุณเธอ .. กับจักรยานคู่ใจ ที่ส่องแล้วพบว่า เป็นยี่ห้อ PINARELLO แบรนด์ระดับไฮเอนด์ รุ่น DOGMA F10 ที่เช็กจากเวบไซต์ อย่างเป็นทางการ พบว่า ราคาสูงถึงคันละ 12,099 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตีเป็นเงินไทย ก็ตกราว 4 แสนบาท .. ไม่แปลกหรอกที่ระดับ “ลูกเศรษฐีใหญ่”จะใช้จักรยานราคาเว่อร์วังขนาดนี้ หรือใส่ชุดยูนิฟอร์ม ที่ราคาแพงระยับไม่แพ้กัน .. แต่แปลกตรงที่ “คุณหนูตั๊น”ดันไปยื่นคำขอรับความช่วยเหลือหลักทรัพย์ในการประกันตัวจาก “กองทุนยุติธรรม”ในคดีกบฎ เมื่อครั้งเป็นแกนนำ กปปส. นี่สิ .. เห็นว่าทาง กระทรวงยุติธรรม กำหนดดีเดย์พิสูจน์ฐานะยากจนของคุณเธอ ในวันนี้ (21 มิ.ย.) พอดิบพอดีเสียด้วย ..
ซึ่ง "รองฯกุ๊กไก่" ธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ดูแลงานในส่วนนี้ ก็เคยออกมาบอกว่า กำลังเรียกหลักฐานทางการเงินของ “ไฮโซตั๊น”มาพิจารณา “ตามหน้าที่” .. แต่ก็ได้ “ปฏิเสธกลายๆ”ไปนิ่มๆ แล้วว่า“กองทุนยุติธรรม”มีเจตนารมณ์ในการ “ลดความเหลื่อมล้ำ”ในการเข้าถึงความยุติธรรม เน้นช่วยเหลือ “ผู้ยากไร้”เป็นอันดับแรก .. เป็นกองทุนที่มีไว้สำหรับ “คนจน - ผู้ยากไร้”ที่ไม่มีเงินประกันในระหว่างสู้คดี ก็มีเงินตรงนี้ช่วยไว้ ทำให้สามารถทำมาหากินในระหว่างขึ้นโรงขึ้นศาล .. ที่ผ่านมาก็เคยมีกรณี “คนมีฐานะ”ขอรับความช่วยเหลือบ่อยๆ แต่ทุกเคส มักไม่ยอมส่งเอกสารทางการเงิน เรื่องก็ตีตกไป คล้ายกับว่าเป็น “เทคนิคทางกฎหมาย”เพื่อยื้อเวลากระบวนการยุติธรรมเท่านั้น .. แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า “อดีตแกนนำ กปปส.” ที่ถือธงนำเรื่องความยุติธรรม-ลดความเหลื่อมล้ำ แล้วยังถึงขนาดประกาศว่าจะเป็น “นายกฯหญิง”กลับมาเลือกใช้ “ลูกเล่น”ในการขอรับความช่วยเหลือ “เศษเงิน”ช่วยประกันตัวเองจากทางราชการแบบนี้ .. ไม่ต้องลุ้นให้เมื่อยตุ้ม อย่างไรเสีย กระทรวงยุติธรรม ก็คงไม่บ้าจี้เอาเงินช่วยเหลือคนจน ไปอุ้ม “ลูกเศรษฐี” ให้โดนด่าขรมเมืองหรอก .. แต่คอยดูเถอะ “ลูกเล่นไม่ค่อยฉลาด”แบบนี้จะตามหลอน “สาวตั๊น”ไปอีกนาน เหมือนเมื่อครั้งหวังใช้ “ทางลัด” ติดยศตำรวจ ที่มีคนจับได้เสียก่อนนั่นแหละ .. อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องให้ถูกด่า เสียผู้เสียคนซะเปล่าๆ

ช.ชฎา

- สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ- ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
สมเด็จช่วง - อดีตเจ้าคุณแป๊ะ (พระมหาศาสนมุนี) - "หลวงพี่น้ำฝน" (พระครูปลัดสิทธิวัฒน์)
จิตภัสร์ กฤดากร , ธวัชชัย ไทยเขียว


กำลังโหลดความคิดเห็น