นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง ปัญหาการทำไพรมารีโหวต ว่า หากบอกว่าอย่าทำไพรมารีเลย แล้วจะตอบสังคมอย่างไร ที่บอกให้ประชาชนมีส่วนร่วม ปัญหาทั้งหมดนี้ เหมือนแม่น้ำ 5 สายไม่ทำให้ทุกอย่างสอดคล้องกับสิ่งที่พูดไว้ แต่กลับมาสร้างอุปสรรคกันเอง เช่นการไม่ปลดล็อก ก็ทำให้การทำไพรมารียากยิ่งขึ้น และการที่ไม่รู้ว่าแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างไร ก็ไม่สามารถทำไพรมารีได้ ซึ่งเรื่องแบ่งเขตเป็นตัวปัญหา มาจากตัวล็อกที่คสช.ทำเอาไว้หลายชั้นคือ
1. เมื่อทำกิจกรรมทางการเมืองไม่ได้ กกต.จะแบ่งเขตเลือกตั้งต้องไปปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งเขาก็ตีความว่าการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเป็นกิจรรมทางการเมือง แม้ กกต. จะบอกว่าแบ่งไว้หลายแบบ แต่เขาเดินหน้าไม่ได้
2. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จงใจให้ กม.เลือกตั้งส.ส. แม้ประกาศแล้ว ก็ยังไม่ให้ใช้บังคับ เลื่อนไปอีก 90 วัน กลายเป็นว่า ถึงกกต.ทำเรื่องแบ่งเขตเสร็จ ก็ยังไม่สามารถประกาศเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้ เพราะต้องรอ กม.เลือกตั้งบังคับใช้ก่อน และกลับมาพันกับ กม.พรรคการเมือง ถ้ายังไม่สามารถแบ่งเขตเลือกตั้งได้ การจัดตั้งสาขา ถ้าไม่ใช่พวกที่ทำพิธีกรรมตามกฎหมาย ก็ยังไม่ได้ เพราะแต่ละสาขาต้องมีสมาชิก 500 คน เมื่อสาขาตั้งไมได้ คนที่จะทำไพรมารี ควรจะเป็นสาขา ในกรณีตัวแทนพรรคประจำจังหวัด คือ กรณีที่ไม่มีสาขา จึงย้อนกลับไปว่า สิ่งที่ทำมาทั้งหมดกลายเป็นส่งเสริม อยากสลาย อยากได้เปรียบ อยากคุมให้การเมืองเป็นแบบเก่าๆ ก็ทำตามกม. เป็นพิธีกรรมไป
ส่วนที่มีการขอให้ใช้ มาตรา 44 ยกเลิกการทำไพรมารีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่นิยมเรื่อง มาตรา 44 และไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเป็นรูปแบบที่เหมาะสมหรือไม่ คำสั่ง คสช.ต้องแก้ด้วยคำสั่ง คสช. ฉะนั้นเรื่องปลดล็อกก็ใช้ได้ เพราะใช้ มาตรา 44 สร้างไว้ แต่หาก มาตรา 44 ไปใช้กับกม. จะมีปัญหา เพราะกม.อยู่ในขั้นตอนการทูลเกล้าฯ เป็นห้วงเวลาของการใช้พระราชอำนาจ ยังไม่มีใครบอกได้ว่า กม.จะตราออกมาอย่างนี้ เพราะพระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจ อาจจะยับยั้ง หรือเห็นชอบก็ตาม เมื่อยังไม่เป็นกม. แล้วจะใช้ มาตารา 44 ถ้ากม.ออกมา กลายเป็นว่ากม.ออกมาทีหลังมาตรา 44 ก็ต้องแก้คำสั่งอีก นี่คือความสบสนที่เกิดขึ้น
ฉะนั้น ในมุมของตนที่จะไปแตะต้องเรื่องกฎหมายในขณะนี้ ทำได้ยาก ถ้าจะทำได้คือ เรื่องปฏิบัติ เช่นตอนนี้ทำอย่างไรให้พรรคหาสมาชิกได้ ทำกิจกรรมได้ เพื่อให้ระบบของพรรคมีความพร้อมมากที่สุด หรือปลดล็อก เพื่อให้ กกต.ทำงานได้ ทั้งนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า ถ้าให้เดินหน้าทำไพรมารี ประชาธิปัตย์ เราทำเต็มที่
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวถึงการทำไพรมารีโหวต ว่า ขอย้ำว่า กรธ.ไม่ได้ออกแบบเรื่องนี้ เป็นสนช. และเมื่อมีแล้วก็ต้องเดินตาม ซึ่งทาง กกต. ก็ต้องทำผังกำหนดเวลาออกมาว่าเริ่มเมื่อไร แล้วสิ้นสุดลงเมื่อไร จากนั้นก็ต้องไปดูว่าในแต่ละขั้นตอน เริ่มอย่างช้าที่สุดเท่าไร ตรงนี้ต้องให้ กกต.เป็นคนพูด และให้กกต.เป็นคนทำผังให้ดู ว่าอย่างน้อยจะไปสู่การเลือกตั้งต้องใช้เวลาเท่าใด สิ้นสุดลงเมื่อใด ต้องมีความชัดเจน
"เมื่อกฎหมายมี เราก็ต้องปฏิบัติตาม จะไปยกเลิกอะไร ก็ต้องไปพูดคุยกัน เพราะตรงนี้ย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่เราต้องเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เมื่อพบว่ามีปัญหาอะไรก็ต้องคุยกัน การเมืองถึงจะเดินไปข้างหน้าได้ เราต้องเห็นดีเห็นงามด้วยกัน ดังนั้นผัง กกต.ควรออกมาให้เร็ว เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกันให้เกิดความชัดเจน ว่าทั้งหมดต้องใช้เวลาเท่าไร แล้วให้ทุกฝ่ายรวมถึงรัฐบาลได้มาตัดสินใจด้วย" นายมีชัย กล่าว
1. เมื่อทำกิจกรรมทางการเมืองไม่ได้ กกต.จะแบ่งเขตเลือกตั้งต้องไปปรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งเขาก็ตีความว่าการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเป็นกิจรรมทางการเมือง แม้ กกต. จะบอกว่าแบ่งไว้หลายแบบ แต่เขาเดินหน้าไม่ได้
2. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จงใจให้ กม.เลือกตั้งส.ส. แม้ประกาศแล้ว ก็ยังไม่ให้ใช้บังคับ เลื่อนไปอีก 90 วัน กลายเป็นว่า ถึงกกต.ทำเรื่องแบ่งเขตเสร็จ ก็ยังไม่สามารถประกาศเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้ เพราะต้องรอ กม.เลือกตั้งบังคับใช้ก่อน และกลับมาพันกับ กม.พรรคการเมือง ถ้ายังไม่สามารถแบ่งเขตเลือกตั้งได้ การจัดตั้งสาขา ถ้าไม่ใช่พวกที่ทำพิธีกรรมตามกฎหมาย ก็ยังไม่ได้ เพราะแต่ละสาขาต้องมีสมาชิก 500 คน เมื่อสาขาตั้งไมได้ คนที่จะทำไพรมารี ควรจะเป็นสาขา ในกรณีตัวแทนพรรคประจำจังหวัด คือ กรณีที่ไม่มีสาขา จึงย้อนกลับไปว่า สิ่งที่ทำมาทั้งหมดกลายเป็นส่งเสริม อยากสลาย อยากได้เปรียบ อยากคุมให้การเมืองเป็นแบบเก่าๆ ก็ทำตามกม. เป็นพิธีกรรมไป
ส่วนที่มีการขอให้ใช้ มาตรา 44 ยกเลิกการทำไพรมารีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่นิยมเรื่อง มาตรา 44 และไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเป็นรูปแบบที่เหมาะสมหรือไม่ คำสั่ง คสช.ต้องแก้ด้วยคำสั่ง คสช. ฉะนั้นเรื่องปลดล็อกก็ใช้ได้ เพราะใช้ มาตรา 44 สร้างไว้ แต่หาก มาตรา 44 ไปใช้กับกม. จะมีปัญหา เพราะกม.อยู่ในขั้นตอนการทูลเกล้าฯ เป็นห้วงเวลาของการใช้พระราชอำนาจ ยังไม่มีใครบอกได้ว่า กม.จะตราออกมาอย่างนี้ เพราะพระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจ อาจจะยับยั้ง หรือเห็นชอบก็ตาม เมื่อยังไม่เป็นกม. แล้วจะใช้ มาตารา 44 ถ้ากม.ออกมา กลายเป็นว่ากม.ออกมาทีหลังมาตรา 44 ก็ต้องแก้คำสั่งอีก นี่คือความสบสนที่เกิดขึ้น
ฉะนั้น ในมุมของตนที่จะไปแตะต้องเรื่องกฎหมายในขณะนี้ ทำได้ยาก ถ้าจะทำได้คือ เรื่องปฏิบัติ เช่นตอนนี้ทำอย่างไรให้พรรคหาสมาชิกได้ ทำกิจกรรมได้ เพื่อให้ระบบของพรรคมีความพร้อมมากที่สุด หรือปลดล็อก เพื่อให้ กกต.ทำงานได้ ทั้งนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่า ถ้าให้เดินหน้าทำไพรมารี ประชาธิปัตย์ เราทำเต็มที่
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวถึงการทำไพรมารีโหวต ว่า ขอย้ำว่า กรธ.ไม่ได้ออกแบบเรื่องนี้ เป็นสนช. และเมื่อมีแล้วก็ต้องเดินตาม ซึ่งทาง กกต. ก็ต้องทำผังกำหนดเวลาออกมาว่าเริ่มเมื่อไร แล้วสิ้นสุดลงเมื่อไร จากนั้นก็ต้องไปดูว่าในแต่ละขั้นตอน เริ่มอย่างช้าที่สุดเท่าไร ตรงนี้ต้องให้ กกต.เป็นคนพูด และให้กกต.เป็นคนทำผังให้ดู ว่าอย่างน้อยจะไปสู่การเลือกตั้งต้องใช้เวลาเท่าใด สิ้นสุดลงเมื่อใด ต้องมีความชัดเจน
"เมื่อกฎหมายมี เราก็ต้องปฏิบัติตาม จะไปยกเลิกอะไร ก็ต้องไปพูดคุยกัน เพราะตรงนี้ย่อมมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่เราต้องเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เมื่อพบว่ามีปัญหาอะไรก็ต้องคุยกัน การเมืองถึงจะเดินไปข้างหน้าได้ เราต้องเห็นดีเห็นงามด้วยกัน ดังนั้นผัง กกต.ควรออกมาให้เร็ว เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มาพูดคุยกันให้เกิดความชัดเจน ว่าทั้งหมดต้องใช้เวลาเท่าไร แล้วให้ทุกฝ่ายรวมถึงรัฐบาลได้มาตัดสินใจด้วย" นายมีชัย กล่าว