ผู้จัดการรายวัน 360-ตลาดหุ้นไทยทรุดหนัก ต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือน ปิดที่ 1,679.68 จุด ติดลบ 25.14 จุด มูลค่าซื้อขายรวม 5.12 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติทิ้งต่อ 2.8 พันล้าน ทำให้ยอดขายตั้งแต่ต้นปีทะลุ 1.65 แสนล้านแล้ว เผยเหตุนักลงทุนกังวลผลกระทบจากสงครามกีดกันการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ บวกกับกลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตจนฉุดกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน ด้านบมจ.ปตท. ลดแผนการลงทุนในธุรกิจน้ำมัน-ท่อส่งก๊าซฯ หั่นงบปี 61 จาก 2.4 แสนล้าน เหลือ 2.2 แสนล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (18 มิ.ย.) ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชียที่ต่างปรับตัวลดลงถ้วนหน้า เนื่องจากนักลงทุนกังวลสงครามกีดกันทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ บวกกับมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน ฉุดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่า 1,700 จุด และทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือน
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวแตะระดับต่ำสุดที่ 1,679.48 จุด สูงสุดที่ 1,695.44 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,679.68 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้า 25.14 จุด หรือคิดเป็น 1.47% มูลค่าการซื้อขายรวม 51,882.68 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ที่ 16.96 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ยังคงขายสุทธิต่อเนื่องอีก 2,806.84 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,829.39 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 355.00 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 4,991.24 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศตั้งแต่ต้นปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 165,620.10 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิด 49.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.00% มูลค่าการซื้อขายรวม 7,732.74 ล้านบาท บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ปิดที่ 55.25 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 5.56% มูลค่าซื้อขาย 2,805.89 ล้านบาท และบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ปิดที่ 422.00 บาท ลดลง 12.00 บาท หรือ 2.76% มูลค่าการซื้อขาย 2,528.32 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับลดลงเช่นเดียวกัน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนีนิกเคอิ ปิดที่ 22,680.33 จุด ลดลง 171.42 จุด หรือ 0.75% ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต ปิดที่ 2,376.24 จุด ลดลง 27.80 จุด หรือ 1.16% ส่วนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง ปิดทำการ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย จากปัจจัยลบกรณีที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีแนวโน้มเพิ่มกำลังการผลิตอีกวันละ 2.5 ล้านบาร์เรล ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย ประกอบกับกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,700 จุด
ส่วนแนวโน้มในวันนี้ (19 มิ.ย.) ตลาดหุ้นอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มูลค่าการซื้อขายไม่คึกคักมากนัก โดยปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามประเด็นหลัก คือ เรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ รวมถึงประเทศคู่ค้าอื่นอย่างใกล้ชิด โดยให้แนวรับที่ 1,675 จุด และแนวต้าน 1,700 จุด
ด้านนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2561 ได้อนุมัติให้ปรับลดแผนการลงทุนปี 61 จาก 246,613 ล้านบาท เป็น 221,294 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับลดแผนการดำเนินงานการลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้การจัดทำงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับการดำเนินงานและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วานนี้ (18 มิ.ย.) ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน สอดคล้องกับตลาดหุ้นเอเชียที่ต่างปรับตัวลดลงถ้วนหน้า เนื่องจากนักลงทุนกังวลสงครามกีดกันทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ บวกกับมีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน ฉุดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในระดับต่ำกว่า 1,700 จุด และทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 9 เดือน
โดยดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวแตะระดับต่ำสุดที่ 1,679.48 จุด สูงสุดที่ 1,695.44 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,679.68 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้า 25.14 จุด หรือคิดเป็น 1.47% มูลค่าการซื้อขายรวม 51,882.68 ล้านบาท และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) ที่ 16.96 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศ ยังคงขายสุทธิต่อเนื่องอีก 2,806.84 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,829.39 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 355.00 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 4,991.24 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศตั้งแต่ต้นปี 2561 เพิ่มขึ้นเป็น 165,620.10 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิด 49.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 2.00% มูลค่าการซื้อขายรวม 7,732.74 ล้านบาท บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) ปิดที่ 55.25 บาท ลดลง 3.25 บาท หรือ 5.56% มูลค่าซื้อขาย 2,805.89 ล้านบาท และบมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ปิดที่ 422.00 บาท ลดลง 12.00 บาท หรือ 2.76% มูลค่าการซื้อขาย 2,528.32 ล้านบาท
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียต่างปรับลดลงเช่นเดียวกัน โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนีนิกเคอิ ปิดที่ 22,680.33 จุด ลดลง 171.42 จุด หรือ 0.75% ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนีคอมโพสิต ปิดที่ 2,376.24 จุด ลดลง 27.80 จุด หรือ 1.16% ส่วนตลาดหุ้นจีนและฮ่องกง ปิดทำการ
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชีย จากปัจจัยลบกรณีที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีแนวโน้มเพิ่มกำลังการผลิตอีกวันละ 2.5 ล้านบาร์เรล ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย ประกอบกับกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,700 จุด
ส่วนแนวโน้มในวันนี้ (19 มิ.ย.) ตลาดหุ้นอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ มูลค่าการซื้อขายไม่คึกคักมากนัก โดยปัจจัยที่นักลงทุนต้องติดตามประเด็นหลัก คือ เรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ รวมถึงประเทศคู่ค้าอื่นอย่างใกล้ชิด โดยให้แนวรับที่ 1,675 จุด และแนวต้าน 1,700 จุด
ด้านนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2561 ได้อนุมัติให้ปรับลดแผนการลงทุนปี 61 จาก 246,613 ล้านบาท เป็น 221,294 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการปรับลดแผนการดำเนินงานการลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้การจัดทำงบประมาณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับการดำเนินงานและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป