ผู้จัดการรายวัน 360 - "ประวิตร" โยนให้เป็นหน้าที่ "จักรทิพย์" ประสานต่างประเทศนำตัว "พระจำนงค์" กลับมาดำเนินคดีในไทย ตร.ปัด‘บิ๊กแป๊ะ’บินประสานอินเตอร์โพลขอตัว ‘อดีตพระพรหมเมธี’ แค่รับเชิญไปดูอาวุธ เด้ง "ชัยยศ" ผกก.ตม. ช่วยราชการ ศปก.ตม.4 เซ่นปล่อยหนีไปลาว ขณะที่ขอนแก่นเด้งรับ'ปมเงินทอนวัด' ตั้งชุดสอบทั่วจังหวัดใน 30 วัน ด้านเครือข่ายฯ บุกกองปราบแจ้งความดำเนินคดี ผอ.พศ. ละเว้นปฏิบัติหน้าที่คดีเงินทอนวัด
วานนี้(13 มิย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจสากล ในการติดตามตัว อดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่หลบหนีไปประเทศเยอรมนีแล้วยื่นขอลี้ภัย ว่าทุกอย่างจบแล้ว ให้เขาดำเนินการไป ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ก็อยู่ที่เขา
ขณะที่แหล่งข่าวคนใกล้ชิด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยอ้างว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้บินไปฝรั่งเศสจริง แต่เป็นไปตามคำเชิญของตำรวจฝรั่งเศส เพื่อดูงานอาวุธ ไม่ได้ไปประสานขอความช่วยเหลือ จากตำรวจสากลที่เมืองลียง เพื่อที่จะติดตามขอตัวอดีตพระพรหมเมธี จากเยอรมัน แต่อย่างใด
*** เด้งแล้ว! ผกก.ตม.นครพนม
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ภาค 4 ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้ พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ ผกก.ตม.นครพนม ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองภาค 4 พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.ท.นิธิวัชร์ ดิลกพงศ์โยธิน รอง ผกก.ตม.นครพนม รักษาราชการแทน หลังจากที่ก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันคำสั่งย้ายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตำรวจ 2 นาย ที่เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ กรณีมีความบกพร่องทำให้ อดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ผู้ต้องหาตามหารจับคดีเงินทอนวัด พร้อมคนสนิทหลบหนีผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม ข้ามไปยังฝั่งลาว ก่อนที่จะหนีต่อไปขอลี้ภัยยังประเทศเยอรมนี
***ขอนแก่นเด้งรับตั้งทีมสอบเงินทอนวัด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวถึง กรณีที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดธาตุ พระอารามหลวง และพบพิรุธเกี่ยวกันการทุจริตเงินทอนวัด ว่า ทางจังหวัดขอนแก่นจะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปมทุจริตเงินทอนวัด ภายใน จ.ขอนแก่น ให้ได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน โดยแต่งตั้ง นายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น เป็นหัวหน้าชุดในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง นอกจากนี้จะทำหน้าหนังสือกราบนมัสการเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด ในการเข้ามาช่วยตรวจสอบคณะสงฆ์ เพื่อสนับสนุน ปปป.พร้อมดำเนินการตามระเบียบแบบแผนทางราชการที่จังหวัดสามารถดำเนินการได้
*** ร้องกองปรามเอาผิด "ผอ.พศ."
ที่กองปราบปราม นายวรากร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ทางกองปราบปรามดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีการทุจริตเงินทอนวัด ในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พศ. ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้เอาผิดกับพระสงฆ์ในคดีเงินทอนวัดจนมีการจับกุมพระสงฆ์จำนวนหลายรูป แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ที่ผ่านมายังคงมีข้าราชการของสำนักพุทธฯที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด แต่ยังไม่ถูกดำเนินคดีหลายราย ตนเองจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนขยายผลและดำเนินคดีให้ครบทุกคนที่เกี่ยวข้อง
วานนี้(13 มิย.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อประสานขอความช่วยเหลือจากตำรวจสากล ในการติดตามตัว อดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด ที่หลบหนีไปประเทศเยอรมนีแล้วยื่นขอลี้ภัย ว่าทุกอย่างจบแล้ว ให้เขาดำเนินการไป ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ก็อยู่ที่เขา
ขณะที่แหล่งข่าวคนใกล้ชิด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยอ้างว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้บินไปฝรั่งเศสจริง แต่เป็นไปตามคำเชิญของตำรวจฝรั่งเศส เพื่อดูงานอาวุธ ไม่ได้ไปประสานขอความช่วยเหลือ จากตำรวจสากลที่เมืองลียง เพื่อที่จะติดตามขอตัวอดีตพระพรหมเมธี จากเยอรมัน แต่อย่างใด
*** เด้งแล้ว! ผกก.ตม.นครพนม
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ภาค 4 ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้ พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ ผกก.ตม.นครพนม ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองภาค 4 พร้อมมอบหมายให้ พ.ต.ท.นิธิวัชร์ ดิลกพงศ์โยธิน รอง ผกก.ตม.นครพนม รักษาราชการแทน หลังจากที่ก่อนหน้านั้น พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันคำสั่งย้ายดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตำรวจ 2 นาย ที่เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ กรณีมีความบกพร่องทำให้ อดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ผู้ต้องหาตามหารจับคดีเงินทอนวัด พร้อมคนสนิทหลบหนีผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม ข้ามไปยังฝั่งลาว ก่อนที่จะหนีต่อไปขอลี้ภัยยังประเทศเยอรมนี
***ขอนแก่นเด้งรับตั้งทีมสอบเงินทอนวัด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวถึง กรณีที่กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ลงพื้นที่ตรวจสอบวัดธาตุ พระอารามหลวง และพบพิรุธเกี่ยวกันการทุจริตเงินทอนวัด ว่า ทางจังหวัดขอนแก่นจะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปมทุจริตเงินทอนวัด ภายใน จ.ขอนแก่น ให้ได้ข้อสรุปภายใน 30 วัน โดยแต่งตั้ง นายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น เป็นหัวหน้าชุดในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง นอกจากนี้จะทำหน้าหนังสือกราบนมัสการเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด ในการเข้ามาช่วยตรวจสอบคณะสงฆ์ เพื่อสนับสนุน ปปป.พร้อมดำเนินการตามระเบียบแบบแผนทางราชการที่จังหวัดสามารถดำเนินการได้
*** ร้องกองปรามเอาผิด "ผอ.พศ."
ที่กองปราบปราม นายวรากร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ทางกองปราบปรามดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีการทุจริตเงินทอนวัด ในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พศ. ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ให้เอาผิดกับพระสงฆ์ในคดีเงินทอนวัดจนมีการจับกุมพระสงฆ์จำนวนหลายรูป แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีเอาผิดกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ที่ผ่านมายังคงมีข้าราชการของสำนักพุทธฯที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด แต่ยังไม่ถูกดำเนินคดีหลายราย ตนเองจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนขยายผลและดำเนินคดีให้ครบทุกคนที่เกี่ยวข้อง