การเปิดตัวของพรรคไทยศรีวิไลย์ แม้ไม่ดังตูมตามเหมือนบางพรรคการเมือง แต่เป็นพรรคการเมืองใหม่ที่ได้รับการกล่าวถึงอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมีชื่อของนายณัชพล สุพัฒนะ หรือ “มาร์ค พิทบูล” ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง และดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค
พรรคไทยศรีวิไลย์อาจเป็นพรรคการเมืองนอกสายตา แต่เป็นพรรคที่ถูกมองข้าม เพราะผู้ร่วมก่อตั้งเกือบทั้งหมด เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ไม่มีประวัติด่างพร้อยทางการเมือง ไม่เคยแสดงจุดยืนในการเลือกข้างการเมืองฝ่ายใด
แต่ประกาศชูธงปราบปรามทุจริตในทุกรูปแบบ ต่อต้านคนโกงและข้าราชการที่ประพฤติมิชอบ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้ว
อาจมีคำถามว่า มาร์ค พิทบูลและสมัครพรรคพวก ผู้ร่วมอุดมการณ์ก่อตั้งพรรคไทยศรีวิไลย์ จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองอย่างไร จะแก้ไขปัญหาของประเทศได้หรือไม่ จะทำตามนโยบายการปราบทุจริตตามที่ประกาศไว้ได้จริงหรือ ในเมื่อไม่มีฐานะทางการเมือง
ไม่มีฐานมวลชน ไม่มีกองทัพเป็นกองหนุน
แต่คงต้องตั้งคำถามเหมือนกัน พรรคการเมืองเก่าที่มีฐานการเมือง มีอดีต ส.ส.ในสังกัด มีฐานมวลชนสนับสนุน หรือเป็นรัฐบาลมีกองทัพค้ำอำนาจอยู่ก็ตาม ได้แสดงผลงานอะไรบ้าง ได้ปฏิรูปประเทศไปสู่ความสงบสุขหรือไม่
แก้ปัญหาเรื้อรังขนาดไหน ปราบทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจังหรือไม่
พรรคการเมืองเก่า รัฐบาลทหาร ผลัดเปลี่ยนเข้ามากุมอำนาจมาร่วมศตวรรษแล้ว แต่ไม่เคยนำพาประเทศให้หลุดพ้นวงจรอุบาทว์ทางการเมือง ไม่ได้สร้างผลงานอันน่าจดจำไปชั่วลูกชั่วหลาน ทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมืองเก่าๆ และหมดศรัทธารัฐบาลทหาร ไม่ต้องการให้กลับเข้ามาบริหารประเทศอีก
เพราะถ้ากลับมา ประเทศคงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง 4 ปีผ่านไปไม่มีอะไรที่ดีขึ้น
ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการนักการเมืองหน้าใหม่ อยากลองพรรคการเมืองใหม่ แต่พรรคการเมืองใหม่ส่วนใหญ่เลือกข้างไปแล้ว ไม่ประกาศตัวสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ให้กลับมาสืบทอดอำนาจ ก็เป็น “อีแอบ” ที่อำพรางตัวสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ หรือเป็นพรรคการเมืองใหม่ที่สนับสนุนประชาธิปไตยภายใต้ระบอบทักษิณ
แต่พรรคการเมืองใหม่ ประชาชนลองผิดลองถูกมาหลายครั้งแล้ว และมักเจอแต่นักการเมืองจอมปลอม สร้างจุดขายเหมือนเป็นคนเก่ง คนกล้า คนจริง คนที่มีอุดมการณ์สูงส่ง แต่สุดท้าย เป็นเพียงพวกแสวงหาตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น
ความผิดหวังจากการเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งมีความคิดมุมกลับ เมื่อเลือกคนดี คนเก่ง คนกล้าเข้ามาบริหารประเทศไม่ได้ จึงไม่คิดจะเลือกใครอีกแล้ว
เลือกตั้งเมื่อไหร่ เตรียมโหวตโน ไม่ลงคะแนนให้ใคร ไม่ว่าจะเป็นซ้ายหรือเป็นขวา เป็นเหลือง เป็นแดง หรือเป็นเขียว
ไม่เลือกทั้งพรรคการเมืองเก่าและใหม่ เพราะเกิดความรู้สึกว่า ใครจะมาใครจะไป ใครจะได้จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ประเทศคงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี
โหวตโนเป็นทางออกที่ดี ในยามที่การเลือกตั้งไม่ได้ทำให้ประชาชนเกิดความหวังและไม่มีคนดีให้เลือก แต่สำหรับคนที่ไม่โหวตโน แต่ยังไม่รู้จะเลือกใคร น่าจะหยิบพรรคไทยศรีวิไลย์ไปพิจารณา
และถ้าจะเลือกก็ถือเป็นการให้รางวัลผลงานการต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรมของผู้ร่วมก่อตั้งพรรคไทยศรีวิไลย์ โดยเฉพาะ “มาร์ค พิทบูล” ซึ่งแสดงบทบาทต่อต้านการทุจริตอย่างถึงพริกถึงขิง ประจานพฤติกรรมตำรวจอย่างไม่กลัวเป็นกลัวตาย
แม้ไม่มีอำนาจ ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ไม่มีกองทัพหนุนหลัง แต่มาร์ค พิทบูลสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนกับตำรวจทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ ซึ่งถ้ามีตำแหน่งทางการเมือง น่าจะเป็นหัวขบวนการปราบคอร์รัปชันและการเดินหน้าปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจัง ไม่เหลาะแหละเหมือนปัจจุบัน
ถ้าคิดจะเลือกพรรคการเมืองใหม่ ถ้าคิดจะให้รางวัลกับคนที่เสียสละต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม ลองพิจารณาพรรค “มาร์ค พิทบูล” ดู
กุมภาพันธ์ปีหน้า ถ้าได้เดินเข้าคูหากาบัตรลงคะแนนเลือกตั้งจริง จะโหวตโนคงไม่มีใครว่า
แต่ถ้าคิดจะเลือกพรรคการเมืองใหม่สักพรรคลงคะแนน ลองผิดลองถูกอีกสักครั้งกับพรรค “มาร์ค พิทบูล” ดีไหม