ผู้จัดการรายวัน360-เจ้าแม่ "เมจิกสกิน" ควงสามีรายงานตัวศาลอาญา และรับทราบคำสั่งปล่อยตัว หลังฟ้องไม่ทันภายใน 48 วัน เหตุให้ตำรวจสอบเพิ่มสรรพคุณเกินจริง เผยยังได้ขอรับเงินประกันคืนคนละ 1 ล้านด้วย ด้านอัยการแจงไม่ใช่การยุติคดี แต่สั่งสอบเพิ่มเติม ก่อนนัดฟังการสั่งคดี 12 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางวรรณภา พวงสน อายุ 34 ปี หัวหน้าทีม และเจ้าของบริษัท เมจิก สกิน จำกัด และนายกร พวงสน อายุ 37 ปี สามี ผู้ดูแลการเงิน สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาล หลังครบกำหนดฝากขัง 4 ผัด รวม 48 วัน เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จึงต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 11มิ.ย.
สำหรับคดีนี้ เป็นคดีที่พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. ส่งสำนวนการสอบสวน 2 ลัง พยานเอกสารหลักฐาน 6,932 แผ่น ที่มีผู้เสียหายรวม 145 คน มูลค่าความเสียหาย 113 ล้านบาทเศษ พร้อมความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหารวม 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท เมจิกสกิน จำกัด โดยนายกร พวงสน ผู้ต้องหาที่ 1 , นายกร พวงสน ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2 , นางวรรณภา พวงสน ผู้ต้องหาที่ 3 , น.ส.ตรีชฎา หรือส้ม ใจสบาย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 , บริษัท ฮานิวโคเรีย จำกัด ผู้ต้องหาที่ 5 และ น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ อายุ 33 ปี ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 6 ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560, พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558
โดยผู้ต้องหาที่ 1-4 ถูกกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ผลิตเพื่อจำหน่ายเครื่องสำอางปลอม รับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันรับจ้างผลิตเครื่องสำอางโดยไม่แจ้งรายละเอียดเครื่องสำอางตามที่จดแจ้ง , เป็นผู้รับจ้างผลิตฉลากที่มีข้อมูลซึ่งอาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดในสาระสำคัญที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง และรับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา อัยการได้เลื่อนการสั่งคดีนี้ออกไป เป็นวันที่ 12 ก.ค.2561 เนื่องจากต้องให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นตรวจหาสารประกอบและสรรพคุณที่ชี้ให้อัยการเห็นว่าเครื่องสำอางดังกล่าวนั้น มีการอวดอ้างเกินจริงอย่างไร เพราะเป็นสาระสำคัญทางคดี โดยนายกร และนางวรรณภา ที่ได้ประกันตัวในชั้นฝากขัง เมื่อครบกำหนดฝากขังผัดที่ 4 อัยการสั่งคดียังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องทำหนังสือแจ้งไปยังศาล เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปก่อน และนัดผู้ต้องหาทั้งหมดให้มาฟังการสั่งคดี วันที่ 12 ก.ค.นี้
สำหรับ น.ส.ตรีชฎา และ น.ส.ปาจรีย์ ได้รับการประกันตัวไป ในชั้นพนักงานสอบสวน จะต้องมาฟังการสั่งคดีในวันเดียวกัน ส่วนนายกรและนางวรรณภา เมื่อพ้นอำนาจควบคุมตัวฝากขังชั้นศาลแล้ว ถ้าอัยการสั่งฟ้อง ก็จะแจ้งพนักงานสอบสวนให้ตามตัวมาฟ้องต่อไป ทั้งนี้ ไม่ใช่อัยการสั่งไม่ฟ้องและไม่ใช่คดีขาดอายุความฟ้อง แต่เป็นการควบคุมครบระยะเวลาตามกฎหมาย โดยที่การพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไปก่อนตามที่กฎหมายกำหนด อัยการยังไม่ได้ยุติคดี แต่เป็นการสั่งสอบเพิ่มเติมเพื่อความรอบคอบ
ภายหลังจากที่นางวรรณภาและนายกร สามีภรรยาเดินทางมารายงานตัวและรับเงินประกันตัวคืนจากศาล หลังครบฝากขังผัด 4 แล้ว ก็ได้เดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางวรรณภา พวงสน อายุ 34 ปี หัวหน้าทีม และเจ้าของบริษัท เมจิก สกิน จำกัด และนายกร พวงสน อายุ 37 ปี สามี ผู้ดูแลการเงิน สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาล หลังครบกำหนดฝากขัง 4 ผัด รวม 48 วัน เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ จึงต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 11มิ.ย.
สำหรับคดีนี้ เป็นคดีที่พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. ส่งสำนวนการสอบสวน 2 ลัง พยานเอกสารหลักฐาน 6,932 แผ่น ที่มีผู้เสียหายรวม 145 คน มูลค่าความเสียหาย 113 ล้านบาทเศษ พร้อมความเห็นสมควรฟ้องผู้ต้องหารวม 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท เมจิกสกิน จำกัด โดยนายกร พวงสน ผู้ต้องหาที่ 1 , นายกร พวงสน ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 2 , นางวรรณภา พวงสน ผู้ต้องหาที่ 3 , น.ส.ตรีชฎา หรือส้ม ใจสบาย อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 , บริษัท ฮานิวโคเรีย จำกัด ผู้ต้องหาที่ 5 และ น.ส.ปาจรีย์ วงศ์สมบูรณ์ อายุ 33 ปี ในฐานะส่วนตัว ผู้ต้องหาที่ 6 ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560, พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558
โดยผู้ต้องหาที่ 1-4 ถูกกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกง , ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่บิดเบือน หรือข้อมูลที่เป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ผลิตเพื่อจำหน่ายเครื่องสำอางปลอม รับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-6 แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันรับจ้างผลิตเครื่องสำอางโดยไม่แจ้งรายละเอียดเครื่องสำอางตามที่จดแจ้ง , เป็นผู้รับจ้างผลิตฉลากที่มีข้อมูลซึ่งอาจก่อให้เกิดการเข้าใจผิดในสาระสำคัญที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง และรับจ้างผลิตเครื่องสำอางปลอม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา อัยการได้เลื่อนการสั่งคดีนี้ออกไป เป็นวันที่ 12 ก.ค.2561 เนื่องจากต้องให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นตรวจหาสารประกอบและสรรพคุณที่ชี้ให้อัยการเห็นว่าเครื่องสำอางดังกล่าวนั้น มีการอวดอ้างเกินจริงอย่างไร เพราะเป็นสาระสำคัญทางคดี โดยนายกร และนางวรรณภา ที่ได้ประกันตัวในชั้นฝากขัง เมื่อครบกำหนดฝากขังผัดที่ 4 อัยการสั่งคดียังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องทำหนังสือแจ้งไปยังศาล เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปก่อน และนัดผู้ต้องหาทั้งหมดให้มาฟังการสั่งคดี วันที่ 12 ก.ค.นี้
สำหรับ น.ส.ตรีชฎา และ น.ส.ปาจรีย์ ได้รับการประกันตัวไป ในชั้นพนักงานสอบสวน จะต้องมาฟังการสั่งคดีในวันเดียวกัน ส่วนนายกรและนางวรรณภา เมื่อพ้นอำนาจควบคุมตัวฝากขังชั้นศาลแล้ว ถ้าอัยการสั่งฟ้อง ก็จะแจ้งพนักงานสอบสวนให้ตามตัวมาฟ้องต่อไป ทั้งนี้ ไม่ใช่อัยการสั่งไม่ฟ้องและไม่ใช่คดีขาดอายุความฟ้อง แต่เป็นการควบคุมครบระยะเวลาตามกฎหมาย โดยที่การพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไปก่อนตามที่กฎหมายกำหนด อัยการยังไม่ได้ยุติคดี แต่เป็นการสั่งสอบเพิ่มเติมเพื่อความรอบคอบ
ภายหลังจากที่นางวรรณภาและนายกร สามีภรรยาเดินทางมารายงานตัวและรับเงินประกันตัวคืนจากศาล หลังครบฝากขังผัด 4 แล้ว ก็ได้เดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ