ชง 5 หมื่นล้าน ครม. สัญจรพัฒนา 4 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง กลุ่ม 2 "นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร และ อุทัยธานี" เฉพาะ 2 พันล้าน ดัน121 โครงการ ชูเป็นพื้นที่“ห่วงโซ่ข้าว ท่องเที่ยวธรรมชาติ และวัฒนธรรม”เผยดัน “อ.ตาคลี”5หมื่นไร่ เป็น “ไบโอฮับ”พัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ มูลค่ารวม 1.33 แสนล้าน ขอก้อนแรก 1.1 พันล้าน วางระบบท่อน้ำ 2 เส้นทาง ระยะ 30 กม. ชูพัฒนาคมนาคมเชื่อม 2 มรดกโลก “ป่าห้วยขาแข้ง - อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร”ผุดถนนเชื่อม “เหนือ - อีสาน” เส้น “นครสวรรค์ - ชัยภูมิ”153กม.
รายงานจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมเสนอวาระการประชุมครม. สัญจร กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ในพื้นที่ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิจิตร และอุทัยธานี ระหว่างวันที่ 11 - 12 มิ.ย.นี้ โดยการประชุมที่ จ.นครสวรรค์ ในวันที่ 12 มิ.ย. เตรียมเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ใน 6 ด้าน ได้แก่ 1. ส่งเสริมการวิจัย และการเกษตรโครงการเขตเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy)หรือ ไบโอฮับ ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะนครสวรรค์และกำแพงเพชร 2. พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 3. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 4. พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 5. พัฒนาคุณภาพชีวิต และ 6. เขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำเพื่อป้องกันอุทกภัย
โดยแผนพัฒนา จ.นครสวรรค์ เน้นอุตสาหกรรม (ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง) การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ธรรมชาติ และเชิงสุขภาพ จ.กำแพงเพชร จะพัฒนาเป็นเมืองการเกษตร อุตสาหกรรมแปรรูป การท่องเที่ยวมรดกโลก และธรรมชาติ จ.พิจิตร เพิ่มเส้นทางคมนาคม และการท่องเที่ยวนิเวศ ประเพณี และ จ.อุทัยธานี เน้นพัฒนาการเกษตร และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงธรรมชาติ และเชิงเกษตร
ทั้งนี้ ตาม “แผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด”กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 จะถูกกำหนดให้เป็น “ศูนย์กลางธุรกิจข้าว” สินค้าเกษตรปลอดภัย การท่องเที่ยวธรรมชาติ และวัฒนธรรมล้ำค่าระดับประเทศ ได้แก่ 1. ผลผลิตข้าวและสินค้าเกษตร ที่ปลอดภัย มีคุณภาพตามมาตรฐาน 2. ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากข้าวและสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 3. ธุรกิจข้าว และสินค้าเกษตรปลอดภัย 4. การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ
ส่วนแผนที่จะเสนอ การลงทุน ประกอบไปด้วย การก่อสร้างทางรถไฟสายนครสวรรค์ - กำแพงเพชร -ตาก- แม่สอด, ก่อสร้างเพิ่มทางจราจรทางหลวงหมายเลข 115 ช่วง กำแพงเพชร - พิจิตร, ก่อสร้างเส้นทางใหม่ (แยกวังกระชายหันคา - เมืองอุทัยธานี) ตัดกับทางหลวงหมายเลข 1, พัฒนาสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ตามข้อเสนอของงานวิจัย ที่ดำเนินการเมื่อปี 57, ยกระดับธุรกิจ SMEs เป็นธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อรองรับ AEC
ขณะที่ การปรับปรุงถนนเส้นทางหมายเลข 11 จาก 2 เลน เป็น 4 เลน มี 3 โครงการ ประกอบด้วย 1. ขยายเส้นทางหลวงหมายเลข 11 เป็น 4 เลน (เชื่อมรอยต่อ จ.พิจิตร - ช่องแค - ตาคลี อินทร์บุรี) ระยะทาง 101.75 กม. 2. โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเครือข่ายคมนาคมทางหลวง หมายเลข 11 ตอน หนองกลับ - เขาทราย ระยะทาง 14.750 กม. 3. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเครือข่ายคมนาคม ทางหลวงหมายเลข 11 ตอนควบคุม 0302 ตอนเขาทราย - สากเหล็ก ช่วงระหว่าง กม. 132+211-173+000 ระยะทาง 36.800 กม.
แผนพัฒนากลุ่มจ.ภาคเหนือตอนล่าง 2
นอกจากนี้ ทิศทางการพัฒนาของกลุ่มจว.ภาคเหนือตอนล่าง 2 ประกอบด้วย
1. ขยายฐานเศรษฐกิจของกลุ่มให้หลากหลาย สร้างมูลค่าเพิ่มผลิตผลเกษตร พัฒนาเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาสู่ภาคอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง และการพัฒนาระบบ Logistic โดยใช้ จ.นครสวรรค์ เป็นศูนย์กลาง มุ่งเน้นการเป็นศูนย์ผลิตและค้าข้าว รวมถึงให้ภาคเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมเป็นฐานสร้างรายได้ โดยการเพิ่มผลิตภาพการผลิตและธุรกรรมการค้าข้าว ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวคุณภาพสูง พัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวแปรรูปเพื่อตอบสนองตลาดเฉพาะ พัฒนาระบบ Logistic โดยนครสวรรค์เป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าพืชผลเกษตรและการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ
2. เพิ่มรายได้จากการพัฒนา และสร้างสินค้าการท่องเที่ยว มุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสการขยายตัวทางการค้า การลงทุน และยกระดับการท่องเที่ยวให้เป็นแหล่งสร้างรายได้ของกลุ่มจังหวัดอย่างมั่นคง โดยเชื่อมโยงการท่องเที่ยวภายในกลุ่มจังหวัด และระหว่างกลุ่มจังหวัด จัดทำแผนการพัฒนาและใช้ประโยชน์ทรัพยากรการท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกของพื้นที่ ทั้งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และเขตอนุรักษ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง สนับสนุนชุมชนที่อยู่ใกล้แหล่งมรดกโลกมีส่วนร่วมในการพัฒนา ตลอดจนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการท่องเที่ยว ฟื้นฟูบึงบอระเพ็ดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์พันธุ์ปลาที่หายากของท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชาวแพริมแม่น้ำ
3. แก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ ให้สอดคล้องกับกรอบการพัฒนาลุ่มน้ำหลักของประเทศ เพื่อป้องกัน และแก้ปัญหาภัยธรรมชาติ โดยการพัฒนาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำให้ทั่วถึงเป็นระบบเชื่อมต่อกับการจัดการลุ่มน้ำหลักของภาคที่อยู่ในพื้นที่กลุ่ม ให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการเกษตร อุตสาหกรรม และการอุปโภคบริโภค ป้องกันหรือบรรเทาปัญหาน้ำท่วมหรือภัยแล้ง เพิ่มสมรรถนะแหล่งกักเก็บน้ำและเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำใหม่โดยสร้างแก้มลิงในพื้นที่เหมาะสม สร้างฝายระบายน้ำและพนังกั้นน้ำในลำน้ำสายหลัก และเพิ่มสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า
4.พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และคุณภาพชีวิตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาระดับความรู้ความสามารถของ ประชาชนและกำลังแรงงานในกลุ่มจังหวัดให้สูงขึ้น โดยเร่งพัฒนาทักษะฝีมือของบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาด รวมถึงการส่งเสริมให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง
ผลักดัน121 โครงการมูลค่า 2 พันล้าน
สำหรับงบประมาณโครงการตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด 4 ปี กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 กว่า 121 โครงการ ประกอบไปด้วย “โครงการภายใต้ห่วงโซ่คุณค่าข้าวและสินค้าเกษตร”90 โครงการ งบ 1,714,488,000 บาท โดยแบ่งเป็น 1. พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร 15 โครงการ งบ 430,000,000 บาท 2. ปรับปรุงถนนเพื่อการคมนาคมขนส่งพืชผลทางการเกษตร 34 โครงการ งบ 942,255,000 บาท 3. ส่งเสริมการผลิต ลดต้นทุน แปรรูปสินค้า 28 โครงการ งบ 269,053,000บาท และ 4. โครงการด้านการตลาด เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ 13 โครงการ งบ 73,180,00 บาท
"โครงการภายใต้ห่วงโซ่คุณค่าการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และวัฒนธรรม" 31 โครงการ งบ 160,580,000 บาท โดยแบ่งเป็น 1. โครงการด้านถนนเพื่อสนับสนุนการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว 2 โครงการ งบ 19,000,000 บาท 2. โครงการด้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นตามมาตรฐานของกรมการท่องเที่ยว 14 โครงการ งบ 91,580,000 บาท 3. โครงการด้านเพิ่มศักยภาพ และพัฒนาผู้ประกอบการ 15 โครงการ งบ 48,000,000 บาท
ขณะที่งบลงทุนประกอบไปด้วย การพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน พัฒนาแหล่งน้ำ 15 โครงการ วงเงิน 430,000,000 บาท , การเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน การแปรรูปพัฒนาตลาด การผลิต/การตลาด 41 โครงการ วงเงิน 342,233,000 บาท, การพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน ด้านการท่องเที่ยว/ทรัพยากรธรรมชาติ - ถนน 2 โครงการ วงเงิน 19,000,000 บาท, การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยว - แหล่งท่องเที่ยว 14 โครงการ วงเงิน 91,580,000 บาท, พัฒนาตลาดศักยภาพบุคลากรการท่องเที่ยว - เพิ่มศักยภาพ 15 โครงการ วงเงิน 48,000,000 บาท
แผน 5 หมื่นล.พัฒนา 4 จ.ภาคเหนือตอนล่าง
มีรายงานด้วยว่า ในส่วนของโครงการที่เสนอโดยเอกชน ใช้งบฯ กว่า 5 หมื่นล้านบาท ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ที่ทาง คณะกรรมการ กรอ. 4 จังหวัด จะเสนอครม. ยังประกอบไปด้วย โครงการศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ , โครงการวางระบบท่อน้ำเพื่อสนับสนุนการปลูกพืชสำหรับอุตสาหกรรมชีวภาพ, ศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมการบริหารจัดการแม่น้ำสะแกกรัง อุทัยธานี, ก่อสร้างท่อระบายน้ำบ้านวังทับยาบึงสีไฟ จ.พิจิตร, ขุดลอกตะกอนดินอ่างเก็บน้ำทับเวลา อุทัยธานี, ขุดขยายอ่างเก็บน้ำหุบอีเก้ง อุทัยธานี, ก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ด้านตะวันออก, โครงการขยายถนนจาก 2 เลน เป็น 4 เลน ระยะทาง 83 กม. จากเกรียงไกรกลาง จ.นครสวรรค์ ถึง จ.ชัยภูมิ เพื่อเชื่อมโยงภาคเหนือ-อีสาน รวม 153 กม. เชื่อมนครสวรรค์ เข้ากับภาคกลาง, ขยายทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 115 เชื่อมต่อ กำแพงเพชร-พิจิตร และ พิจิตร-พิษณุโลก รวม 48 กม. ปรับปรุงสนามบินตาก และ สนามบินเกษตร จ.นครสวรรค์, สร้างเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน่าน, พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ จ.พิจิตร
ทางภาคเอกชน เสนอผ่านกระทรวงอุตฯ มีโครงการนวัตกรรมทางด้านการเกษตรอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bioeconomy)หรือ ไบโอฮับ มูลค่า 1.33 แสนล้านบาท ในพื้นที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ กว่า 5 หมื่นไร่ โดยได้เสนอโครงการรจัดการน้ำวางระบบท่อน้ำ 2 เส้นทาง ระยะทาง 30 กม. งบฯกว่า 1,100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โครงการการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การป้องกันภัยแล้ง น้ำท่วม โครงการพัฒนาการท่องเที่ยว และโครงการที่สำคัญ คือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการพัฒนาระบบโครงข่ายถนน โครงข่ายระบบรางรถไฟ และโครงข่ายระบบโลจิสติกส์ 3 โครงการ ต้องเร่งรัด คือ โครงการที่จอดรถบรรทุกในการขนถ่ายสินค้า (ทรักเทอร์มินอล คอนเทนเนอร์ยาร์ด ทรักเรสต์แอเรีย) รองรับการขนส่ง และกระจายสินค้า รองรับโครงการรถไฟรางคู่จากลพบุรี - ปากน้ำโพ
"โครงการเชื่อมโยงรถไฟไปแม่สอด ผ่านกำแพงเพชร และสุโขทัย เข้าสู่ จ.ตาก, โครงการสร้างเขื่อนทดน้ำในแม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา ของกรมเจ้าท่า ในพื้นที่จ.พิจิตร และนครสวรรค์, โครงการพัฒนาบึงขุมทรัพย์ของ จ.อุทัยธานี แหล่งน้ำทางการเกษตร, โครงการพัฒนาเส้นทางเชื่อม 2 มรดกโลก ห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี กับ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร เชื่อมไปทางอุทยานแห่งชาติคลองลาน และอุทยานแห่งชาติอื่นๆ"