ผู้จัดการรายวัน360-ตำรวจกองปราบจับสึก "เจ้าคุณปิง" พระเลขานุการส่วนตัว "อดีตพระพรหมสิทธิ" คดีเสพเมถุน ด้าน ผบ.ทสส. เผยตำรวจยังไม่แจ้งข้อหา "ร.ท.ฐิติทัตน์" เอี่ยวเงินทอนวัด ไม่หวั่นข้อครหา ทหารช่วยเหลือทหาร ชี้ยึดตามระเบียบ "บิ๊กแป๊ะ" บินถึงเยอรมนี รอรับตัว "พระพรหมเมธี"กลับ คาดถึงไทยเช้า 6 มิ.ย.นี้ ส่วนผู้ช่วยเหลือพาหลบหนี ตำรวจจ่อออกหมายจับ 5 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (4 มิ.ย.) ตำรวจกองปราบปราม ได้นิมนต์พระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือเจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และพระเลขานุการส่วนตัวอดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม เนื่องจากเป็นพระสงฆ์ที่ใกล้ชิดกับอดีตพระพรหมสิทธิ โดยตำรวจใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 2 ชม. และไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ
จากนั้น มีรายงานว่า ตำรวจกองปราบปราม ได้นิมนต์พระวิสุทธิศาสนวิเทศ กลับไปยังวัดสระเกศฯ เพื่อทำพิธีลาสิกขา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังเข้าตรวจค้นวัดสระเกศฯ และพบหลักฐานเป็นสื่อลามกอนาจาร ที่เกี่ยวข้องกับพระรูปนี้ ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด ตำรวจยังไม่พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่าพระวิสุทธิศาสนวิเทศมีความเกี่ยวข้อง
พล.อ.ธารไชยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบ ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ว่า ในชั้นต้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าในสิ่งที่เกิดขึ้น มีข้อมูลอย่างไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากทางตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพียงแต่เชิญ ร.ท.ฐิติทัตน์ ไปสอบสวน ยังไม่ได้มีการกล่าวหาโทษแต่อย่างใด
"เรายินดีให้ความร่วมมือ หาก ร.ท.ฐิติทัตน์ มีความผิด หรือทางตำรวจได้ชี้ประเด็นมาว่าผิดอย่างไร เราก็จะดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว พร้อมให้การสนับสนุน ซึ่งเบื้องต้นเขามารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาแล้ว และสั่งสำรองราชการไว้ก่อน หมายถึง ไม่ให้เขาใช้ตำแหน่งหน้าที่เดิมไปมีบทบาท หรือมีอิทธิพลเหนือหลักฐานต่างๆ แต่ยังคงได้รับเงินเดือน เพราะความผิดไม่สำแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา และไม่รู้สึกกังวล หากถูกมองว่าทหารช่วยเหลือกัน เพราะทุกอย่างต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทางราชการ"พล.อ.ธารไชยยันต์กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการออกหมายจับผู้ช่วยเหลือพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันฟอกเงินคดีทุจริตเงินทอนวัดนั้น พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การให้ข้อมูลหรือการออกหมายจับ ต้องรอคำสั่งจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพราะเป็นคดีสำคัญ ต้องมีหลายขั้นตอน อยากชี้แจงสื่อหรือการนำเสนอข้อมูลอย่าคิดกันไปเอง เกรงว่าจะเกิดความสับสน รวมถึงกระทบต่อการทำงานของตำรวจ
มีรายงานข่าวว่า ตำรวจนครพนมกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นผู้ขออำนาจศาลออกหมายจับ หรือจะให้โอนคดีมาที่กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดำเนินการ โดยมีบุคคลที่เข้าข่ายถูกออกหมายจับรวม 5 ราย คือ คนขับรถ พระพรหมเมธี นางจันทนา หรือจันตนา รัตนวงศ์ หญิงชาวลาว และลูกชาย สีกาจุ๋ม เจ้าแม่วงการตลาดหุ้นของเมือง และพระอธิการพรเทพ เจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ อ.เรณูนคร จ.นครพนม
ล่าสุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เดินทางถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตแล้ว และกำลังประสานเตรียมการในเรื่องข้อมูลเอกสาร และรายละเอียดข้อกฎหมาย เพื่อนำตัวพระพรหมเมธี ที่ถูกกักตัวไว้ที่สนามบินกลับประเทศ โดยคาดว่าจะเดินทางกลับด้วยสายการบินไทย เหมาทั้งโซน รวม 14 ที่ และจะถึงไทยในวันที่ 6 มิ.ย.2561 ในช่วงเช้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (4 มิ.ย.) ตำรวจกองปราบปราม ได้นิมนต์พระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือเจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาส และพระเลขานุการส่วนตัวอดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม เนื่องจากเป็นพระสงฆ์ที่ใกล้ชิดกับอดีตพระพรหมสิทธิ โดยตำรวจใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ 2 ชม. และไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ
จากนั้น มีรายงานว่า ตำรวจกองปราบปราม ได้นิมนต์พระวิสุทธิศาสนวิเทศ กลับไปยังวัดสระเกศฯ เพื่อทำพิธีลาสิกขา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังเข้าตรวจค้นวัดสระเกศฯ และพบหลักฐานเป็นสื่อลามกอนาจาร ที่เกี่ยวข้องกับพระรูปนี้ ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด ตำรวจยังไม่พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่าพระวิสุทธิศาสนวิเทศมีความเกี่ยวข้อง
พล.อ.ธารไชยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบ ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา ทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ว่า ในชั้นต้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนว่าในสิ่งที่เกิดขึ้น มีข้อมูลอย่างไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากทางตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพียงแต่เชิญ ร.ท.ฐิติทัตน์ ไปสอบสวน ยังไม่ได้มีการกล่าวหาโทษแต่อย่างใด
"เรายินดีให้ความร่วมมือ หาก ร.ท.ฐิติทัตน์ มีความผิด หรือทางตำรวจได้ชี้ประเด็นมาว่าผิดอย่างไร เราก็จะดำเนินการตามขั้นตอนอยู่แล้ว พร้อมให้การสนับสนุน ซึ่งเบื้องต้นเขามารายงานตัวกับผู้บังคับบัญชาแล้ว และสั่งสำรองราชการไว้ก่อน หมายถึง ไม่ให้เขาใช้ตำแหน่งหน้าที่เดิมไปมีบทบาท หรือมีอิทธิพลเหนือหลักฐานต่างๆ แต่ยังคงได้รับเงินเดือน เพราะความผิดไม่สำแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหา และไม่รู้สึกกังวล หากถูกมองว่าทหารช่วยเหลือกัน เพราะทุกอย่างต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทางราชการ"พล.อ.ธารไชยยันต์กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการออกหมายจับผู้ช่วยเหลือพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาตามหมายจับฐานร่วมกันฟอกเงินคดีทุจริตเงินทอนวัดนั้น พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การให้ข้อมูลหรือการออกหมายจับ ต้องรอคำสั่งจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพราะเป็นคดีสำคัญ ต้องมีหลายขั้นตอน อยากชี้แจงสื่อหรือการนำเสนอข้อมูลอย่าคิดกันไปเอง เกรงว่าจะเกิดความสับสน รวมถึงกระทบต่อการทำงานของตำรวจ
มีรายงานข่าวว่า ตำรวจนครพนมกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเป็นผู้ขออำนาจศาลออกหมายจับ หรือจะให้โอนคดีมาที่กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดำเนินการ โดยมีบุคคลที่เข้าข่ายถูกออกหมายจับรวม 5 ราย คือ คนขับรถ พระพรหมเมธี นางจันทนา หรือจันตนา รัตนวงศ์ หญิงชาวลาว และลูกชาย สีกาจุ๋ม เจ้าแม่วงการตลาดหุ้นของเมือง และพระอธิการพรเทพ เจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ อ.เรณูนคร จ.นครพนม
ล่าสุด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้เดินทางถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ตแล้ว และกำลังประสานเตรียมการในเรื่องข้อมูลเอกสาร และรายละเอียดข้อกฎหมาย เพื่อนำตัวพระพรหมเมธี ที่ถูกกักตัวไว้ที่สนามบินกลับประเทศ โดยคาดว่าจะเดินทางกลับด้วยสายการบินไทย เหมาทั้งโซน รวม 14 ที่ และจะถึงไทยในวันที่ 6 มิ.ย.2561 ในช่วงเช้า