กาจจนบุรี-"ทนายตั้ม" ไม่มีความผิดละเมิดอำนาจศาล กรณีนำภาพถ่ายที่มีไฟล์คลิปเสียงเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก เพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือน และห้ามทำอีก พร้อมเมินจับมือ "ครูปรีชา" ที่เดินสวนทางกัน สุดท้ายเป็นงง เจอครูงัดหลักฐานเด็ดยื่นศาลใหม่ เป็นแชตไลน์เกี่ยวกับการซื้อหวย เผยหากสุดท้ายพบเป็นหลักฐานเท็จ เจอคดีอาญาซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (4 มิ.ยง) ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้ไต่สวนคำร้องคดีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ละเมิดอำนาจศาล กรณีที่นำภาพถ่ายที่มีไฟล์คลิปเสียงที่เกี่ยวข้องกับหวย 30 ล้านบาท ที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์โพสต์ลงเฟซบุ๊ก โดยศาลได้พิจารณาว่า ไม่รับคำร้อง เนื่องจากยังไม่อยู่ในข้อกำหนด ดังนั้น นายษิทรา จึงยังไม่มีความผิด แต่ศาลได้ว่ากล่าวตักเตือนและห้ามไม่ให้กระทำการในลักษณะเช่นนี้อีก
ส่วนการพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ครูปรีชา ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ข้อหา ยักยอกทรัพย์ รับของโจร ศาลได้สั่งให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องพิจารณาคดี ไม่ให้ร่วมรับฟังการไต่สวน
นายษิทรากล่าวก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีในช่วงเช้า ว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการไต่สวนของศาล และยังจะไม่มีการยื่นพยานหลักฐานใดๆ ในการไต่สวน แต่ได้มีการเตรียมข้อมูลไว้พร้อมสำหรับการซักค้านเกี่ยวกับคดีที่ครูปรีชา ยื่นฟ้องทั้ง 2 คดีไว้แล้ว โดยหมวดจรูญ ไม่ได้เดินทางมาที่ศาล แต่ส่งลูกสาวทั้ง 2 คน มาร่วมรับฟังคำไต่สวนแทน
นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ กล่าวว่า พยานปากสำคัญยังเป็นครูปรีชา น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช และนางปณัญชยา สุขผล โดยมีพยานบุคคลรวมทั้งสิ้น 20 ปาก ที่จะนำขึ้นให้ศาลไต่สวน รวมถึงพยานในคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องต่อคดีตั้งแต่เริ่มแรก และยังเป็นพยานหลักฐานเดิม ไม่มีหลักฐานและพยานใหม่ ซึ่งในวันนี้ ครูปรีชา ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ และมอบให้ทนายเป็นผู้ให้สัมภาษณ์แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายจะขึ้นไปบนห้องพิจารณาคดีก็ได้เผชิญหน้ากัน แต่ไม่ได้ทักทายกันแต่อย่างใด หลังจากนั้น แยกย้ายกันเดินไปขึ้นห้องพิจารณาคดีที่ 5 ทันที ขณะเดียวกัน พบว่า ในช่วงก่อนเข้าไปในศาล ครูปรีชาเดินผ่าน พร้อมกับขอจับมือกับนายษิทรา แต่ทนายษิทราปฏิเสธ
ในช่วงบ่าย นายษิทราได้เดินทางกลับมาที่ศาล และให้สัมภาษณ์ว่า การสืบพยานยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากทางฝ่ายครูปรีชา ได้นำสืบพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน เป็นข้อความสนทนาผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ระหว่างครูปรีชา กับบุคคลคนหนึ่ง เกี่ยวกับการซื้อลอตเตอรี่ เมื่อเดือนพ.ย.2560 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการออกรางวัล แต่ไม่ปรากฏวันที่ชัดเจน จึงจะมีการร้องขอให้ศาลตรวจสอบที่มาของหลักฐานใหม่ในช่วงบ่ายนี้ รวมถึงจะมีการซักค้านเกี่ยวกับประเด็นหลักฐานที่ทางฝ่ายครูปรีชา นำขึ้นไต่สวนทั้งหมด โดยหากภายหลังตรวจสอบว่าหลักฐานใหม่ที่ปรากฎเป็นการสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา ก็จะเป็นการละเมิดศาล ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาทั้ง ครูปรีชา และทนายความ
ด้านทนายวรยุทธ ซึ่งเดินทางกลับมาที่ศาลพร้อมครูปรีชา กล่าวว่า หลักฐานที่นำมายื่นไต่สวนต่อศาล เป็นหลักฐานที่มีอยู่เดิมอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นหลักฐานใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ปรากฏในชั้นสอบสวนของทางกองบังคับการปราบปราม และยินดีที่จะมอบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญให้กับศาลได้ทำการตรวจสอบ โดยไม่รู้สึกกดดัน เพราะยังมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (4 มิ.ยง) ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้ไต่สวนคำร้องคดีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ยื่นฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ละเมิดอำนาจศาล กรณีที่นำภาพถ่ายที่มีไฟล์คลิปเสียงที่เกี่ยวข้องกับหวย 30 ล้านบาท ที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์โพสต์ลงเฟซบุ๊ก โดยศาลได้พิจารณาว่า ไม่รับคำร้อง เนื่องจากยังไม่อยู่ในข้อกำหนด ดังนั้น นายษิทรา จึงยังไม่มีความผิด แต่ศาลได้ว่ากล่าวตักเตือนและห้ามไม่ให้กระทำการในลักษณะเช่นนี้อีก
ส่วนการพิจารณาไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ครูปรีชา ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือหมวดจรูญ ข้อหา ยักยอกทรัพย์ รับของโจร ศาลได้สั่งให้ทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องพิจารณาคดี ไม่ให้ร่วมรับฟังการไต่สวน
นายษิทรากล่าวก่อนเข้าห้องพิจารณาคดีในช่วงเช้า ว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการไต่สวนของศาล และยังจะไม่มีการยื่นพยานหลักฐานใดๆ ในการไต่สวน แต่ได้มีการเตรียมข้อมูลไว้พร้อมสำหรับการซักค้านเกี่ยวกับคดีที่ครูปรีชา ยื่นฟ้องทั้ง 2 คดีไว้แล้ว โดยหมวดจรูญ ไม่ได้เดินทางมาที่ศาล แต่ส่งลูกสาวทั้ง 2 คน มาร่วมรับฟังคำไต่สวนแทน
นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ กล่าวว่า พยานปากสำคัญยังเป็นครูปรีชา น.ส.รัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น น.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ๊พัช และนางปณัญชยา สุขผล โดยมีพยานบุคคลรวมทั้งสิ้น 20 ปาก ที่จะนำขึ้นให้ศาลไต่สวน รวมถึงพยานในคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องต่อคดีตั้งแต่เริ่มแรก และยังเป็นพยานหลักฐานเดิม ไม่มีหลักฐานและพยานใหม่ ซึ่งในวันนี้ ครูปรีชา ปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ และมอบให้ทนายเป็นผู้ให้สัมภาษณ์แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายจะขึ้นไปบนห้องพิจารณาคดีก็ได้เผชิญหน้ากัน แต่ไม่ได้ทักทายกันแต่อย่างใด หลังจากนั้น แยกย้ายกันเดินไปขึ้นห้องพิจารณาคดีที่ 5 ทันที ขณะเดียวกัน พบว่า ในช่วงก่อนเข้าไปในศาล ครูปรีชาเดินผ่าน พร้อมกับขอจับมือกับนายษิทรา แต่ทนายษิทราปฏิเสธ
ในช่วงบ่าย นายษิทราได้เดินทางกลับมาที่ศาล และให้สัมภาษณ์ว่า การสืบพยานยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากทางฝ่ายครูปรีชา ได้นำสืบพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน เป็นข้อความสนทนาผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ ระหว่างครูปรีชา กับบุคคลคนหนึ่ง เกี่ยวกับการซื้อลอตเตอรี่ เมื่อเดือนพ.ย.2560 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะมีการออกรางวัล แต่ไม่ปรากฏวันที่ชัดเจน จึงจะมีการร้องขอให้ศาลตรวจสอบที่มาของหลักฐานใหม่ในช่วงบ่ายนี้ รวมถึงจะมีการซักค้านเกี่ยวกับประเด็นหลักฐานที่ทางฝ่ายครูปรีชา นำขึ้นไต่สวนทั้งหมด โดยหากภายหลังตรวจสอบว่าหลักฐานใหม่ที่ปรากฎเป็นการสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา ก็จะเป็นการละเมิดศาล ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาทั้ง ครูปรีชา และทนายความ
ด้านทนายวรยุทธ ซึ่งเดินทางกลับมาที่ศาลพร้อมครูปรีชา กล่าวว่า หลักฐานที่นำมายื่นไต่สวนต่อศาล เป็นหลักฐานที่มีอยู่เดิมอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นหลักฐานใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ปรากฏในชั้นสอบสวนของทางกองบังคับการปราบปราม และยินดีที่จะมอบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญให้กับศาลได้ทำการตรวจสอบ โดยไม่รู้สึกกดดัน เพราะยังมั่นใจในพยานหลักฐานที่มี