xs
xsm
sm
md
lg

กองทุนน้ำมันเถื่อน! ผู้ตรวจการฯเคยชี้ไม่มีกม.รองรับ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"รสนา"โต้ "ผอ.สำนักนโยบายและแผนพลังงาน" ย้ำกองทุนน้ำมันเถื่อน ไร้กม.รองรับ ชี้ มาตรา 3 แห่งพ.ร.ก. แก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 ไม่มีบทบัญญัติใดให้นายกฯ มีอำนาจจัดตั้งกองทุนน้ำมันได้ อีกทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน เคยมีคำวินิจฉัยการจัดตั้งกองทุนน้ำมันไม่ชอบด้วยกม. ยันราคาเอทานอลไม่ได้อิงตลาดโลกเลย เพราะสูงกว่า 2 เท่าตัว เผยเอาเงินกองทุนฯ ชดเชย อี 85 ในอัตรา 9.35 บาท - อี 20 ในอัตรา 3บาท ทั้งที่ตามเนื้อเอทานอลในอี 85 สูงขึ้น แค่ประมาณ 3 บาท อี 20 ประมาณ 80 สตางค์ เท่านั้น แต่กลับรวมค่าการตลาดที่ตั้งเอาไว้สูงเว่อร์ เข้าไปด้วย ซึ่งทั้งราคาและค่าการตลาดไม่ได้มาจากกลไกการแข่งขัน แต่มาจากกลไกตั้งราคาตามต้องการ

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. กรุงเทพฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ตอบโต้ นายทวารัฐ สูตะบุตร ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ที่ชี้แจงเรื่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ว่า "นายทวารัฐ สูตะบุตร ชี้แจงประเด็นกองทุนน้ำมันฯ และเอทานอลแบบกำปั้นทุบดิน"

นายทวารัตน์ ออกมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของดิฉัน เรื่องที่รัฐบาลใช้กองทุนน้ำมันฯ ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ ในการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันเบนซิน และน้ำมันชนิดอื่นๆ มาอุ้มน้ำมัน อี 85 ลิตรละ 9.35 บาท และอุ้ม อี 20 ลิตรละ 3 บาท ซึ่งเป็นการอำพรางกำไรของโรงกลั่นน้ำมัน

นายทวารัฐ ชี้แจงว่า การจัดตั้งกองทุนน้ำมันฯ ถูกต้องตามกม. เนื่องจากจัดตั้งขึ้น ตามคําสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2547 ลงวันที่ 23 ธ.ค.47 เรื่อง กําหนดมาตรการเพื่อการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ํามัน โดย อาศัยอํานาจตามความใน มาตรา 3 แห่งพ.ร.ก.แก้ไข และป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ํามันเชื้อเพลิง พ.ศ.2516 และ กองทุนฯ ดําเนินการตั้งแต่ปี 2519 มิใช่เป็นกองทุนเถื่อนแต่อย่างใด

ดิฉันขอโต้แย้ง ดังนี้

1) บทบัญญัติ มาตรา 3 แห่งพ.ร.ก.แก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 นั้น ไม่มีบทบัญญัติใดๆ ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการออกคำสั่ง เพื่อให้เรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ และจ่ายเงินชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯได้ แต่ประการใด ในเมื่อไม่มีอำนาจในการจัดตั้งกองทุนน้ำมันฯ จึงไม่มีอำนาจตามกม.ให้ทำการเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมันได้

อำนาจของนายกฯตาม พ.ร.ก. ดังกล่าว คือ กำหนดมาตรการป้องกันการขาดแคลน เช่น กำหนดเวลาปิดไฟ เวลาปิดปั๊มตอน 4 ทุ่ม

2) การจัดตั้งกองทุนต่างๆ ต้องเป็นไปตาม มาตรา 12 ของ พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ. 2491 ที่ระบุว่า “การจ่ายเงินเป็นทุนหรือเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อการใดๆ ให้กระทำได้แต่โดยกฎหมาย”แต่การเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน และจ่ายเงินค่าชดเชยออกจากกองทุนน้ำมัน ไม่ได้ตราขึ้นเป็นกม. และไม่ได้มีการนำเงินส่วนนี้เข้าคลัง จึงไม่ได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ. 2491

3) ผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเป็นองค์กรจัดตั้งตามพ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 ได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดว่า การออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2547 เรื่องกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขและป้องกันสภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ลงวันที่ 23 ธ.ค.47 เป็นการออกคำสั่งโดยไม่มีกม.บัญญัติ ให้อำนาจนายกฯ ในการออกคำสั่งเพื่อให้เรียกเก็บเงินและจ่ายเงินชดเชยหรือจ่ายคืนจากกองทุนน้ำมันได้ การจัดตั้งกองทุนน้ำมันจึงไม่ชอบด้วยกม.

4) การที่เก็บเงินจากคนใช้น้ำมันเหมือนรูปแบบภาษีประเภทหนึ่ง โดยไม่ส่งเงินเข้าคลังจะทำได้ในกรณีที่มีกม.ยกเว้นไว้ ดังกรณี กองทุนส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ก็ได้ออกเป็นพ.ร.บ. แต่กองทุนน้ำมัน ไม่มีพ.ร.บ.รองรับ การเก็บเงินของกองทุนน้ำมัน โดยไม่มีกม.รองรับ ย่อมเข้าข่ายเป็นกองทุนเถื่อน ใช่ หรือไม่

5) นายทวารัฐ สูตะบุตร เป็นถึงผู้อำนวยการ สนพ. แต่จงใจปิดบัง และชี้แจงขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เรื่องปัญหาความชอบด้วยกม. ของกองทุนน้ำมันที่ สนพ. เป็นผู้เสนอให้มีการยกร่างกม. มารองรับกองทุนน้ำมัน ดังที่ปรากฏอยู่ในรายงานประจำปี 2559 ของกระทรวงพลังงาน ในข้อ 9 หน้า 45 ที่ระบุว่า

"การจัดทำกฎหมายกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อปรับปรุงโครงสร้างในการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ให้มีความชัดเจนและมีกฎหมายรองรับ กระทรวงพลังงาน จึงได้ดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... ขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนน้ำมัน ดังนี้ ......

ในการบริหารจัดการกองทุนน้ำมัน ที่ผ่านมาได้มีประเด็นคำถามเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ และการใช้ประโยชน์ของเงินกองทุนน้ำมัน เช่น ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน มีความเห็นว่าการจัดตั้งกองทุนน้ำมัน อาจไม่ชอบด้วยกม. มีการนำเงินกองทุนน้ำมัน ไปใช้รักษาระดับราคาน้ำมัน จนทำให้เกิดการบิดเบือนราคา ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

สร้างความไม่เป็นธรรมจากการชดเชยราคาข้ามกลุ่มประเภทผู้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ขาดความยืดหยุ่นในวิธีการแก้ไขและป้องกันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงในรูปแบบอื่น เช่น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน น้ำมันเชื้อเพลิง ระบบท่อส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบคลังน้ำมันเชื้อเพลิง ท่าเรือสำหรับขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทางยุทธศาสตร์

เพื่อให้เกิดความชัดเจนในบทบาทหน้าที่ และการใช้ประโยชน์ของเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นใหม่

สนพ. ยังได้นำร่าง พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ..... ดังกล่าว เผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ สนพ. (www.eppo.go.th) ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.59 - 28 มี.ค.59 และจัดพิมพ์เผยแพร่ให้แก่ผู้สนใจทั่วไป รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุง ร่าง พ.ร.บ. ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นก่อนนำเสนอครม.พิจารณาต่อไป .....

ขณะนี้ อยู่ระหว่างให้กฤษฎีกาตรวจสอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. ...”

6) การอ้างวิธีคิดต้นทุนของเอทานอล ว่าเป็นการสะท้อนกลไกตลาดแล้วนั้น เป็นการอ้างลอยๆ โดยไม่มีข้อเท็จจริงรองรับแต่อย่างใด ราคาที่กำหนดไม่ได้อาศัยราคาตลาดโลกมาเทียบเคียง แต่ปล่อยให้ราคาเอทานอลในประเทศ สูงกว่าราคาตลาดโลกถึง 2 เท่าตัว จึงไม่ได้สะท้อนกลไกตลาดอย่างที่กล่าวอ้าง ปล่อยให้มีราคาสูงเกินความเป็นจริง จนเป็นภาระต่อผู้ใช้น้ำมัน

ข้ออ้างการชดเชย อี 85 และ อี 20 ให้มีราคาต่ำกว่าเบนซิน ที่เรียกว่า “เป็นการสร้างส่วนต่างราคา”นั้น ส่วนต่างราคาของน้ำมันที่ผสมเอทานอล ต้องเกิดจากค่าความร้อนที่มาจากการแข่งขัน ไม่ใช่เกิดจาก “การกำหนดส่วนต่าง”ด้วยการเอากองทุนน้ำมันมาชดเชย อี 85 ในอัตราลิตรละ 9.35 บาท ชดเชย อี 20 ในอัตราลิตรละ 3 บาท จึงไม่ใช่แค่ชดเชยเนื้อเอทานอล ที่สูงขึ้นประมาณ 3 บาท ใน อี 85 และ สูงขึ้นประมาณ 80 สตางค์ ใน อี 20 เท่านั้น แต่รวมถึงการชดเชยค่าการตลาดของ อี 85 ที่ถูกกำหนดไว้สูงเวอร์ ถึง 6 บาทต่อลิตร และกำหนดค่าการตลาดของ อี 20 ที่สูงถึง 3 บาท ซึ่งทั้งราคา และค่าการตลาดไม่ได้มาจากกลไกการแข่งขัน แต่มาจากกลไกตั้งราคาตามที่ต้องการ ใช่ หรือไม่

หากราคาเอทานอลที่กลั่นในประเทศมีราคาเทียบเท่าตลาดโลกคือ อยู่ระหว่าง 12-15 บาท /ลิตร จะมีราคาต่ำกว่าราคาเบนซิน ที่ราคาประมาณ 18-19 บาท/ลิตร การผสมเอทานอลในน้ำมันเบนซิน จะทำให้มีราคาถูกกว่าเบนซินล้วนๆ จึงไม่ต้องใช้กองทุนน้ำมันมาชดเชยเลย จึงจะเป็นแนวทางการส่งเสริมที่ถูกต้อง

ที่มักกล่าวอ้างว่า ราคาน้ำมันในไทยเป็นไปตามกลไกตลาด จึงไม่ใช่ความจริง เพราะความจริงคือราคาน้ำมันในไทยเป็นไปตามกลไกการจัดการโดยใช้กองทุนน้ำมันเป็นตัวถ่างราคาเบนซินให้สูงกว่าราคาตลาด และ หดราคา อี 85 และ อี 20 ให้ต่ำกว่าราคาที่บวกเพิ่มเข้าไป ซึ่งไม่ใช่กลไกตลาดที่มาจากการแข่งขันแต่ประการใดเลย ใช่หรือไม่

ดิฉัน ขอโยนผ้า ท้าให้ท่านตอบข้อโต้แย้งของดิฉันให้คนไทยผู้ใช้น้ำมันทั้งประเทศได้รับทราบใหม่อีกครั้ง !!!


กำลังโหลดความคิดเห็น