ผู้จัดการรายวัน360 - จับตาประชุม มส.วันนี้ ชี้ขาดตำแหน่งอดีตพระผู้ใหญ่ที่ถูกดำเนินคดีเงินทอนวัด เบื้องต้นตั้งเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง รักษาการเจ้าคณะกรุงเทพฯ แทน "เจ้าคุณเอื้อน" ตร.กองปราบฯ เปิดภาพโฉนดที่ดินจำนวนมากค้นเจอในกุฏิวัดสามพระยา ส่อเอี่ยวธุรกิจรับจำนองที่ดินฆราวาส พร้อมประสาน ตม.จับตาศิษย์ “พระพรหมเมธี” พาหนี ด้าน ป.ป.ช.บรรจุวาระคดีเงินทอนวัดล็อต 3 เป็นวาระด่วนวันนี้
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) และรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า การประชุม มส. ในวันนี้ (30 พ.ค.) จะมีรายงานกรณีที่ตำรวจดำเนินคดีกับอดีตพระผู้ใหญ่ให้ที่ประชุมรับทราบ นอกจากวาระที่สำนักเลขาธิการมส.เสนอตามปกติ
ในส่วนการแต่งตั้งตำแหน่งทางปกครองสงฆ์ที่อดีตพระผู้ใหญ่เคยดำรงตำแหน่งนั้น จะขึ้นอยู่กับกรรมการ มส.เสนอเข้าสู่ที่ประชุม โดยเฉพาะที่เคยเป็นกรรมการ มส.
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อยู่ระหว่างการพิจารณาข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 11 รายที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัดหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้ไล่ออกข้าราชการระดับ 8 ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินทอนวัดไปแล้ว 4 ราย
ส่วนการแต่งตั้งรักษาการณ์แทนพระเถระผู้ใหญ่ 3 รูปที่ถูกดำเนินคดี ที่ประชุมมหาเถรสมาคม จะพิจารณาในการประชุมวันนี้เช่นกัน โดยเบื้องต้นพระเทพสุธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม เจ้าคณะภาค 1 ที่ดูแลวัดในกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และ จังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะเจ้าคณะปกครองตามสายบังคับบัญชา เห็นชอบแต่งตั้งให้พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง รองเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นรักษาการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร แทนพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ซึ่งถูกควบคุมตัวเป็นผู้ต้องหาคดีเงินทอนวัด
ทั้งนี้อดีตพระผู้ใหญ่ 3 รูป ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน ทุจริตงบอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่เป็นอดีตกรรมการ มส. และมีตำแหน่งทางปกครองสงฆ์ มีดังนี้ พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ที่ถูกจับกุม ให้สึก และอยู่ในเรือนจำระหว่างการรอสอบสวนแล้ว
ส่วนพระผู้ใหญ่อีก 2 รูป ที่ยังหลบหนี คือ พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ที่มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะภาค 4-7 ธรรมยุต และรองเลขาธิการคณะธรรมยุต และพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศวรมหาวิหาร เจ้าคณะภาค 10 และยังเป็นประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ
*** พระเถระเอี่ยวธุรกิจรับจำนองที่ดิน
สำหรับความคืบหน้าการติดตามตัว พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ล่าสุดชุดสืบสวนประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ให้เฝ้าระวังการเดินทางออกนอกประเทศของ ชายไทย 1 คน หญิงไทย 1 คน และหญิงสาวชาวลาวอีก 1 คน เนื่องจากเป็นศิษย์ที่มีความใกล้ชิดกับ พระพรหมเมธี โดยเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบพบว่าบุคคลทั้งสามได้หายไปจากที่พักและได้ขาดการติดต่อไปหลังจากที่ พระพรหมเมธี ได้หลบหนีการติดตามจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ในส่วนของ พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธี นั้น ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ สตม. ได้นำหมายจับเข้าระบบเฝ้าระวังของด่าน ตม. ทั่วประเทศไว้แล้ว ทั้งนี้หากพบบุคคลที่เผ้าระวังทั้ง 3 คน แม้ว่าจะยังไม่มีหมายจับก็ให้ประสานแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯได้ทันที
ส่วนการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับพระที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ฐานร่วมกันฟอกเงินแล้ว ผู้บังคับบัญชาในระดับ ตร. ยังได้สั่งการให้ขยายผลไปยังคดีอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการให้เช่าที่ดินของวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ โดยตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าเงินที่ได้รับนั้นเข้าสู่บัญชีวัดหรือบัญชีส่วนตัวของพระแต่ละรูป และมีการออกใบเสร็จรับเงินอย่างถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะประเด็นของวัดสามพระยาที่ค้นพบโฉนดที่ดินของฆราวาสจำนวนมากอยู่ในกุฏิของ พระอรรถกิจโสภณ เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพฯ วัดสามพระยา ว่าเกี่ยวข้องกับการรับจำนองโฉนดที่ดินหรือออกเงินกู้ด้วยหรือไม่
ขณะเดียวกันในส่วนของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามนั้นกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าอาจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มกับ พระพรหมดิลก ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญาฯ มาตรา 157 เพิ่มเติมด้วย เนื่องจากการดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้นถือเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยตำแหน่ง
ทั้งนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติของพระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 3 รูป เพื่อประมวลข้อมูลเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมณะศักดิ์และตำแหน่งทางการปกครองของสงฆ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก่อนจะส่งมอบให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นำเสนอต่อมหาเถระสมาคม (มส.)
เบื้องต้นพบว่า พระพรหมสิทธิ และพระพรหมเมธี จบการศึกษาชั้นนักธรรมเอก แต่ไม่ได้เล่าเรียนบาลีหรือเปรียญธรรมมาก่อน แต่สามารถขึ้นมาถึงระดับรองสมเด็จพระราชคณะในชั้นพรหมได้ ซึ่งเรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นพระผู้ใหญ่ทั้งสองรูปยังมีอาวุโสน้อยมากหากเทียบกับพระสงฆ์รูปอื่นๆในมหานิกาย ต่างจากพระพรหมดิลกที่จบเปรียญธรรม 9 ประโยคซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
*** ป.ป.ช.ชงคดีเงินทอนวัดล็อต 3 เป็นวาระเร่งด่วน
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เตรียมนำสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3 เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ซึ่งถือเป็นการบรรจุวาระจรเร่งด่วนเพื่อตรวจสอบในส่วนข้าราชการว่าเข้าไปเกี่ยวข้องในคดีนี้มีจำนวนมากน้อยเพียงใด