xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีวันชนะเลือกตั้ง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หนึ่งความคิด”
“สุรวิชช์ วีรวรรณ”

นับตั้งแต่ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี จากพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศยุบสภาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2543 นำมาสู่การก่อเกิดพรรคไทยรักไทย กระทั่งการเลือกตั้งเกิดขึ้นในวันที่ 6 มกราคม 2544 พรรคไทยรักไทย นำโดย ทักษิณ ชินวัตร ชนะการเลือกตั้งโดยได้รับเลือกถึง224ที่นั่ง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งเพียง 121 ที่นั่ง

หลังจากทักษิณบริหารประเทศครบวาระและจัดให้มีการเลือกตั้งในปี 2548พรรคไทยรักไทยของทักษิณกลับสร้างประวัติศาสตร์ด้วยชัยชนะเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.โดยได้รับการเลือกตั้งถึง 377 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เหลือเพียง 96 ที่นั่ง

การเลือกตั้งในปี 2549 พรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้ง หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

การเลือกตั้งในปี 2550 เกิดขึ้นหลังการรัฐประหารของพล.อ.สนธิ บุณยรัตตกลิน ปรากฎว่า พรรคพลังประชาชนของทักษิณ ยังได้รับการเลือกตั้งเกินครึ่งหนึ่งคือ 256 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้ง 162 ที่นั่ง

การเลือกตั้งในปี 2554 หลังจากที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศยุบสภา ผลปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยยังคงได้รับการเลือกตั้งเกินกึ่งหนึ่งคือ 265 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้ง 159 ที่นั่ง
ส่วนการเลือกตั้งปี 2557นั้นเป็นที่ทราบกันว่า พรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้งอีกครั้ง และเกิดการขัดขวางการเลือกตั้งโดยมวลชนของกปปส.นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นและไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ในหลายเขตทั่วประเทศ ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

จนกระทั่งถึงวันนี้อยู่ในช่วงที่รัฐบาลทหารปกครองประเทศเพื่อเตรียมการไปสู่การเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก็เกิดคำถามว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่ชนะการเลือกตั้งนับตั้งแต่พ้นยุคของรัฐบาลชวนเป็นต้นมา

นั่นก็คือพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้พรรคของทักษิณมาตลอดตั้งแต่การเลือกตั้งปี2544 ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทย ที่สำคัญพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการเลือกตั้งน้อยมากในภาคอีสานซึ่งมีจำนวน ส.ส.1ใน4ของประเทศ และน้อยมากในภาคเหนือเช่นเดียวกัน

ต้องยอมรับว่าจุดเริ่มต้นสู่ความตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ทางการเมืองเกิดขึ้นในสมัยของนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 เพราะประชาชนเกิดความเบื่อหน่ายความเชื่องช้าไม่ทันต่อสถานการณ์ของนายชวน และมองไม่เห็นวิสัยทัศน์ที่มีความสามารถพอจะนำพาประเทศไปข้างหน้า

เมื่อทักษิณเปิดตัวสู่การเมืองในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจ พร้อมด้วยชุดนโยบายที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้แทนการหาเสียงด้วยโวหารแบบเก่าทำให้ประชาชน นักวิชาการ และปัญญาชนจำนวนมากหันมาสนับสนุนพรรคของทักษิณจนชนะอย่างท่วมท้นและเป็นจุดเริ่มที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถเอาชนะพรรคของทักษิณได้อีกเลย

เหลือเพียงภาคใต้ภาคเดียวเท่านั้นที่พรรคประชาธิปัตย์ยังยึดคุมฐานเสียงได้เหนียวแน่น แต่กลับส่งผลให้พรรคประชาธิปัตย์ยิ่งมีภาพลักษณ์เป็นพรรคภาคนิยมไม่ใช่พรรคที่มีลักษณะเปิดกว้างเข้าไปอีก พูดง่ายๆ ว่ากลายเป็นพรรคของคนใต้นั่นเอง

แม้ในระยะหลังจะตีตื้นกลับมายึดเสียงในกทม.คืนมาได้และชนะประปรายในภาคอื่น แต่สะท้อนแนวโน้มว่า พรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมาเป็นพรรคที่ครองเสียงข้างมากได้ หากไม่สามารถเปลี่ยนใจคนอีสานและคนเหนือให้กลับมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์ได้

เพราะในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคของคนใต้ก็ยิ่งขับให้พรรคของทักษิณมีลักษณะเป็นพรรคของคนเหนือและอีสานที่พรรคประชาธิปัตย์ยากจะเข้าไปแทรกซึมได้

จะเห็นว่าความนิยมต่อพรรคของทักษิณไม่เสื่อมคลายหลังจากการเลือกตั้งในปี 2544เป็นต้นมา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นผลพวงมาจากนโยบายประชานิยมที่ทักษิณหยิบยื่นให้ประชาชน จนนิยามกันว่า เป็น “ประชาธิปไตยที่กินได้” ซึ่งต่างกับนโยบายของการหาเสียงในอดีตที่มักจะหาเสียงเรื่องไฟสว่างทางสะดวกเท่านั้นเอง

นโยบาย30บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน การให้ทุนการศึกษา1อำเภอ1ทุน ฯลฯล้วนแล้วแต่ทำให้ชาวบ้านสัมผัสได้ถึงรูปธรรมที่จับต้องได้จากนักการเมือง ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคนักปราศรัย มีโวหารคารมเมื่อเลือกตั้งผ่านไปแล้วก็ไม่ส่งผลอะไรที่เป็นรูปธรรมกลับไปสู่ชาวบ้านเลย

และเมื่อทักษิณชนะอย่างท่วมท้นและบริหารประเทศด้วยเสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จ แม้ว่าทักษิณจะเหิมเกริมในอำนาจ แสวงหาประโยชน์จากอำนาจด้วยการทุจริตเชิงนโยบายเพื่อให้บริษัทของตัวเองและพวกพ้องได้ประโยชน์ แต่คนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนยากจนก็ยังเห็นว่า แม้ทักษิณจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่เมื่อทักษิณเป็นนายกฯ คนชั้นล่างก็ได้รับประโยชน์แตกต่างกับพรรคการเมืองในอดีต

ความนิยมต่อทักษิณจึงเป็นลักษณะของความศรัทธาเชื่อมั่นว่านี่เป็นนักการเมืองที่ประชาชนเคารพรัก แม้เสียงบอกว่าทักษิณทุจริตคอร์รัปชั่นจะดังไปถึง พวกเขาก็คิดว่า นักการเมืองคนอื่นก็ทุจริตไม่แพ้กัน แต่ทักษิณทุจริตชาวบ้านก็ได้ประโยชน์ด้วย

สิ่งสำคัญคือในยุคของทักษิณนั้นกล้าคิดกล้าตัดสินใจในการทำนโยบายต่างๆ ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของนักบริหารในประเทศยุคใหม่ ไม่ใช่การบริหารแบบนักการเมืองซึ่งต้องพึ่งพิงหรือเดินตามระบอบราชการแบบที่นายชวนถูกเรียกว่าเป็นปลัดประเทศมากกว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี

จุดสำคัญอีกอย่างก็คือ แม้ทักษิณจะถูกกำจัดพ้นเส้นทางทางการเมืองไปแล้วในฐานะนักโทษหนีคดี แต่พรรคของทักษิณก็ยังคงอยู่ เมื่อบวกกับเรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้นมาว่า ทักษิณถูกกลั่นแกล้งเพราะชนชั้นสูงอิจฉาทักษิณที่ทำให้คนชั้นล่างกินดีอยู่ดีขึ้นจนได้รับความนิยมศรัทธาจำนวนมากจึงต้องถูกกำจัดให้พ้นจากเส้นทาง

ดูเหมือนว่าวาทกรรมทางชนชั้นกลายเป็นเรื่องที่ได้ผลสำหรับคนชั้นล่างที่น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาและการด้อยโอกาสของตัวเองอยู่แล้ว กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ลิ่วล้อของทักษิณใช้มาเป็นเครื่องมือในทางการเมือง จนมาสร้างวาทกรรมไพร่ปลุกชาวบ้านมาตายแทนในการชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ในปี 2553

ถ้าจำกันได้ในตอนแรกรัฐบาลอภิสิทธิ์ยอมรับเงื่อนไขที่จะยุบสภาแล้ว แต่ต่อมาแกนนำก็ยังไม่ยอมยุติการชุมนุม และมีการเปิดเผยกันเองในเวลาต่อมาโดยวิสา คัญทัพว่า ตอนนั้นแกนนำบางคนต้องการสิ่งที่มากกว่าการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ซึ่งเป็นปริศนาว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเวลาต่อมานั้นคืออะไร

และเมื่อมีการเลือกตั้งใหม่หลังเหตุการณ์ความรุนแรง พรรคของทักษิณก็ได้รับการเลือกตั้งอีกด้วยเสียงสนับสนุนท่วมท้นจากประชาชนในภาคเหนือและอีสานเหมือนเดิม ชาวบ้านเขาไม่สนด้วยซ้ำว่ายิ่งลักษณ์น้องสาวของทักษิณจะมีความสามารถหรือไม่ ขอเพียงไปเลือกพรรคที่เชื่อว่าพวกเขาได้ประโยชน์ก็พอ

ดังนั้นถ้าถามว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์จึงแพ้การเลือกตั้งมาตลอด คำตอบก็คือ เพราะประชาชนในภาคเหนือและอีสานมีความเชื่อว่าพรรคของทักษิณนั้นเป็นพรรคของพวกเขา ไม่ต่างกับที่คนใต้เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนใต้ และเชื่อว่าความรู้สึกนี้อาจอยู่ในอีกชั่วอายุคนและอาจจะสืบทอดไปสู่คนรุ่นต่อไปแบบเดียวกับคนใต้ที่ผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์แบบรุ่นต่อรุ่น

พูดได้เลยว่า พรรคของทักษิณแม้จะถูกเปลี่ยนไปชื่ออะไรก็กลายเป็นพรรคภาคนิยมในสายเลือดของคนเหนือและอีสานที่เป็นชนชั้นระดับกลางลงล่างซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ไปแล้วนั่นเอง ที่พูดเช่นนี้เพราะถ้าเราไปดูคะแนนการเลือกตั้งในเขตเมืองของจังหวัดภาคเหนือและอีสานแล้วพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพรรคของทักษิณและมีคะแนนนำในหลายเขตด้วยซ้ำไป

ถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนตัวเองจากพรรคที่เป็นนักการเมือง นักโต้วาที พรรคทนายความมาเป็นพรรคที่มีนโยบายที่จับต้องได้ สามารถสะท้อนความต้องการของประชาชนที่แท้จริง มีคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ เป็นนักบริหาร มีบุคลากรที่โดดเด่นจะสามารถชนะพรรคของทักษิณได้หรือไม่

สำหรับผมแล้วคิดว่าตอนนี้เป็นเรื่องยากเพราะมันเป็นการเลือกที่ประชาชนมีจุดยืนและทัศนคติทางการเมืองที่แบ่งออกเป็น2ขั้วอย่างชัดเจน กระทั่งเรียกได้ว่ามีนิยามความผิดและถูกและดีหรือเลวไปคนละขั้ว เขามองว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่ตัวแทนของเขาแต่เป็นตัวแทนของคนอีกชนชั้นหนึ่ง จะเห็นว่าประชาธิปัตย์เองก็พยายามจะสร้างนโยบายประชานิยมแต่ยิ่งตอกย้ำความเป็นต้นตำรับของทักษิณนั่นเอง

วันนี้การตัดสินใจเลือกของคนอีสานและคนเหนือไม่ใช่เลือกเพื่อต้องการคนดีคนที่มีความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่เขาเลือกคนที่คิดว่ามีจุดยืนและมีอุดมการณ์เดียวกับพวกเขาด้วย และแม้สายตาจากคนฟากหนึ่งว่าอุดมการณ์ของพวกเขาผิดแต่ในสายตาและความคิดของพวกเขาเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ถูกและอุดมการณ์ของอีกฝ่ายต่างหากที่ผิด

บางทีเรื่องแบบนี้อาจเป็นเรื่องที่เนิ่นนานไปอีกนับศตวรรษถึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่เกิดขึ้นเลยเหมือนกับที่คนใต้ไม่เกิดเปลี่ยนแปลงไปเลือกพรรคอื่นนอกจากพรรคประชาธิปัตย์

ผมคิดว่า ความเชื่อทางการเมือง ทัศนคติทางการเมือง ที่เกิดจากการเรียนรู้บนความขัดแย้งมานับสิบปีนั้น มันทำให้ประชาชน2ฟากฝั่งมีความเชื่อและอุดมคติทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เลือกข้างชัดเจน แม้จะยังเชื่อว่า2ฝ่ายยังมีจุดร่วมเดียวกันต่อความรักชาติบ้านเมือง แต่ต่างฝ่ายต่างมีความคิดแนวทางและจุดยืนทางการเมืองของตัวเองต่างหากที่ถูกต้อง

หากจะว่าไปความแตกต่างในอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ใช่เรื่องที่แปลก แต่จะทำอย่างไรให้ความแตกต่างนั้นไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกเหมือนกับทศวรรษที่ผ่านมา และสามารถหาจุดร่วมเดียวกันได้ว่า อย่างไหนผิดอย่างไหนถูกอย่างไหนดีอย่างไหนเลว

ดังนั้น ในระยะสั้นถ้าถามผมว่ามีโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาชนะด้วยเสียงข้างมากในการเลือกตั้งได้อีกไหม ผมคงตอบว่า ยากมากที่จะเห็นเกิดขึ้นในรุ่นของเรา

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan




กำลังโหลดความคิดเห็น