xs
xsm
sm
md
lg

ศาลรับฟ้องเหยื่อฟอร์ด...ขายรถชำรุดนัดสืบ 1 ส.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - คดีแรกในประวัติศาสตร์ไทย เมื่อศาลแพ่งใต้รับฟ้องคดีผู้เสียหายฟอร์ด 308 ชีวิต เป็นคดีแบบกลุ่มผู้บริโภค พร้อมสืบพยานโจทก์ครั้งแรก 1 ส.ค. ส่วนจำเลย 30-31 ส.ค. ก่อนพิพากษา 28 ก.ย.นี้

วานนี้ ( 22 พ.ค.) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลได้นัดฟังคำสั่งคดีแบบกลุ่มผู้บริโภค กรณี"เหยื่อรถยนต์ฟอร์ด 308 ชีวิต" รวมตัวยื่นฟ้อง บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย ) จำกัด ไปตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 ในความผิด ฐานผลิตรถยนต์ชำรุดบกพร่องออกจำหน่าย

โดยนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายผู้เสียหายจากการใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด หลังจากนำผู้เสียหายเข้ารับฟังคำวินิจฉัยของศาล กล่าวว่า หลังจากเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปี ในที่สุด ศาลได้สั่งรับเป็นคดีแบบกลุ่ม จากนี้จะมีการสืบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย และศาลนัดคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ซึ่งการรับเป็นคดีแบบกลุ่ม นับเป็นการรับฟ้องคดีแรกๆของประเทศไทย ที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการคุ้มครองผู้บริโภค

“ครั้งนี้อาจด้วยเหตุผลหลายประการ ที่ศาลรับฟ้อง อาจเกิดจากความเสียหายที่เกิดกับผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์ฟอร์ดจำนวนมาก ขณะเดียวกันศาลในหลายประเทศก็มีการตัดสินให้บริษัทฟอร์ดชดใช้เยียวยาผู้เสียหายแล้ว ตัวอย่างที่ประเทศออสเตรเลีย ศาลเพิ่งมีคำสั่งปรับบริษัทฟอร์ดเป็นเงินเกือบ 300 ล้านบาท โทษฐานที่ประกอบธุรกิจโดยขาดจิตสำนึก ส่วนการดำเนินการในขั้นต่อไป จะเข้าสู่กระบวนการสืบพยาน โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 1 ส.ค. และสืบพยานจำเลยวันที่ 30-31 พ.ค. จากนั้นในวันที่ 28 ก.ย. 61 ศาลนัดคำพิพากษาคดี”

อย่างไรก็ตาม ตนอยากเรียกร้องและให้เกิดขึ้นอีกอย่าง คือ หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วน ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค ควรทำงานแบบบูรณาการในเชิงรุกให้มีประสิทธิภาพ เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคพบเจอปัญหาต่างๆมากมาย และคนในสังคมไทยส่วนหนึ่งไม่รักษาสิทธิของตัวเอง เป็นพวก “ไทยเฉย” เราจึงขาดหลักเกณฑ์ที่จะควบคุมให้ผู้ประกอบการมีจิตสำนึก ผลิตสินค้าให้มีมาตรฐาน ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค

" ที่สำคัญ ควรมีการปฏิรูปสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพราะมีอำนาจอยู่ในมือ แต่ไม่เอามาปฏิบัติ ขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทำให้ผู้ประกอบการที่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคไม่เกิดความเกรงกลัว"


กำลังโหลดความคิดเห็น