ผู้จัดการรายวัน360-โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มใน 4 จังหวัดภาคใต้ เผยมีเป้าหมายสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้น ด้านหน่วยงานด้านความเผย "ฮูไบดีละห์" แกนนำบีอาร์เอ็น เป็นคนสั่งการ ส่วนมือวางบึ้มที่สงขลา ตำรวจรู้ตัวแล้ว จ่อออกหมายจับ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้งหมด พบว่า คนร้ายใช้ระเบิดขนาดเล็กก่อกวน ส่วนใหญ่เป้าหมาย คือ ตู้เอทีเอ็ม กระจายไปยัง 4 จังหวัด คือ จ.ยะลา 9 จุด จ.ปัตตานี 10 จุด จ.นราธิวาส 3 จุด และ จ.สงขลา อีก 2 จุด โดยแยกเป็นการก่อเหตุในลักษณะดังนี้ 1.การก่อเหตุด้วยระเบิดที่ตู้เอทีเอ็ม จำนวน 14 จุด 2.การวางวัตถุต้องสงสัยเพื่อก่อกวน จำนวน 5 จุด และวางระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 2 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดได้ 2 จุด และมีการยิงใส่ฐานปฏิบัติการของหน่วยเฉพาะกิจทหารเรือด้วย
"เป้าหมายหลักของคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ ตู้เอทีเอ็ม เพื่อต้องการสร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน เพราะจุดที่ก่อเหตุเป็นจุดสาธารณะที่ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ตลอดเวลา และภายหลังเกิดเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจเข้ามาดูแลในเรื่องความปลอดภัยทันที เพื่อป้องกันการก่อเหตุอีก และสั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมวัตถุพยานที่จะนำไปสู่การจับกุมคนร้าย โดยพอจะรู้ตัวแล้วว่าเป็นกลุ่มไหนบ้าง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการแสดงศักยภาพ และเชื่อว่าเป็นการสั่งการของนายฮูไบดีละห์ รอมือลี แกนนำระดับปฎิบัติการ หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายทหารของขบวนการบีอาร์เอ็น แทนนายอิสมาแอ ระยะหลง หรืออุสตาดโซ๊ะ
ขณะที่ตำรวจแจ้งความคืบหน้าว่า ทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนนำระเบิดมาวางไว้แล้ว ชื่อนายแวกอยี ตะเละ เป็นแนวร่วมอาร์เคเค กลุ่มเดียวกับนายบูคอรี หลำโสะ ที่เป็นแกนนำก่อเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด ใน จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการออกหมายจับ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงกรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุทั้งหมด พบว่า คนร้ายใช้ระเบิดขนาดเล็กก่อกวน ส่วนใหญ่เป้าหมาย คือ ตู้เอทีเอ็ม กระจายไปยัง 4 จังหวัด คือ จ.ยะลา 9 จุด จ.ปัตตานี 10 จุด จ.นราธิวาส 3 จุด และ จ.สงขลา อีก 2 จุด โดยแยกเป็นการก่อเหตุในลักษณะดังนี้ 1.การก่อเหตุด้วยระเบิดที่ตู้เอทีเอ็ม จำนวน 14 จุด 2.การวางวัตถุต้องสงสัยเพื่อก่อกวน จำนวน 5 จุด และวางระเบิดเสาไฟฟ้า จำนวน 2 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดได้ 2 จุด และมีการยิงใส่ฐานปฏิบัติการของหน่วยเฉพาะกิจทหารเรือด้วย
"เป้าหมายหลักของคนร้ายที่ก่อเหตุ คือ ตู้เอทีเอ็ม เพื่อต้องการสร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน เพราะจุดที่ก่อเหตุเป็นจุดสาธารณะที่ประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ตลอดเวลา และภายหลังเกิดเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจเข้ามาดูแลในเรื่องความปลอดภัยทันที เพื่อป้องกันการก่อเหตุอีก และสั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมวัตถุพยานที่จะนำไปสู่การจับกุมคนร้าย โดยพอจะรู้ตัวแล้วว่าเป็นกลุ่มไหนบ้าง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการแสดงศักยภาพ และเชื่อว่าเป็นการสั่งการของนายฮูไบดีละห์ รอมือลี แกนนำระดับปฎิบัติการ หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายทหารของขบวนการบีอาร์เอ็น แทนนายอิสมาแอ ระยะหลง หรืออุสตาดโซ๊ะ
ขณะที่ตำรวจแจ้งความคืบหน้าว่า ทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนนำระเบิดมาวางไว้แล้ว ชื่อนายแวกอยี ตะเละ เป็นแนวร่วมอาร์เคเค กลุ่มเดียวกับนายบูคอรี หลำโสะ ที่เป็นแกนนำก่อเหตุระเบิดทั้ง 2 จุด ใน จ.สงขลา โดยเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการออกหมายจับ