ผู้จัดการรายวัน 360 - ม็อบศิลปิน บุกทำเนียบจี้ "บิ๊กตู่" ยับยั้ง "กทม.ยึดคืนหอศิลป์ ด้าน "อัศวิน" ลั่นไม่ขอยุ่ง ยันไม่เกี่ยวกลัวเสียคะแนนเสียง ลั่นไม่เคยพูดว่ามูลนิธิฯ บริหารขาดทุน 80 ล้านบาท พร้อมให้มูลนิธิฯ บริหารจนครบสัญญาถึงปี 2564
วานนี้ (15 พ.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) เครือข่ายศิลปินและภาคประชาสังคมศิลปวัฒนธรรม นำโดยนายจุมพล อภิสุข ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ระงับไม่ให้กรุงเทพฯยึดคืนหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯไปบริหารเอง
นายจุมพล กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯเห็นว่าหอศิลปฯได้ให้บริการด้านการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการและศิลปะกว่า 100 ครั้งต่อปี มีผู้เข้าร่วมมากกว่าปีละ 10,000 คน อีกทั้งยังสามารถจัดหางบประมาณในการจัดกิจกรรมได้เองนอกเหนือจากที่กทม. ให้งบอุดหนุนปีละ 40 ล้านบาท ฉะนั้นการที่กทม.จะยึดเอาหอศิลปฯไปบริหารเองเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและผิดข้อตกลงของปฏิญญาที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.ได้ลงนามร่วมกับเครือข่ายและภาคประชาชนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2548
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าพื้นที่หอศิลปฯถูกใช้เป็นพื้นที่ทางการเมืองอยู่บ่อยครั้งในระยะหลังนั้น ขอยืนยันว่า มูลนิธิฯไม่ได้มีส่วนสนับสนุนกลุ่มการเมืองใด การเคลื่อนไหวในแต่ละครั้งเป็นการแสดงออกของประชาชนที่มูลนิธิฯไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการได้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งระงับแนวคิดดังกล่าวของผู้ว่าฯกทม.โดยด่วน
อย่างไรก็ตามแม้ พล.ต.อ.อัศวินได้ออกมากล่าวว่าจะยอมถอยในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ทางเครือข่ายฯไม่อาจไว้วางใจหรือเชื่อมั่นใน พล.ต.อ.อัศวินได้ โดยจะรอฟังผลการประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวของสภากรุงเทพฯในบ่ายวันเดียวกันนี้
ด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. แถลงหลังการประชุมพิจารณาเรื่อง ขั้นตอนและแผนการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครให้เป็น Creative Space ว่า ตนประกาศยุติการดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 กทม.จะไม่เข้าไปบริหารจัดการหอศิลป์ฯ แล้ว
จากนี้ก็ให้มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ดำเนินการบริหารต่อไปจนกว่าจะครบสัญญาหรือ MOU ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี 2564 ส่วนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่ไม่ยุ่งกับหอศิลป์ฯ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องกลัวเสียคะแนนในการเลือกตั้งและไม่ได้เกี่ยวกับที่มีกลุ่มศิลปินไปร้องเรียนนายกรัฐมนตรีในวันอังคารที่15 เพราะกรณีดังกล่าว มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนรีตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 61 ซึ่งนายกก็บอกให้พิจารณาตามเสียงประชาชน ให้หยุดตามเสียงประชาชน ตนก็ดำเนินตาม
“ ที่จะเข้ามาพัฒนาหอศิลป์ฯ นั้น เนื่องจากผมมีความคิดอยากจะพัฒนาให้สมประโยชน์กับพื้นที่มากที่สุด แต่ กทม.ไม่สามารถเข้ามาดำเนินการได้ และผมไม่เคยพูดเรื่องมูลนิธิฯ บริหารขาดทุน 80 ล้านบาท”
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า หากสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เสนองบประมาณขึ้นมา ก็พร้อมเสนอไปยังสภา กทม.พิจารณาอนุมัติ ตนยังไม่เคยเห็นรายละเอียดของ MOU ว่า กทม.ต้องสนับสนุนงบหรือไม่
วานนี้ (15 พ.ค.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) เครือข่ายศิลปินและภาคประชาสังคมศิลปวัฒนธรรม นำโดยนายจุมพล อภิสุข ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้ระงับไม่ให้กรุงเทพฯยึดคืนหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯไปบริหารเอง
นายจุมพล กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯเห็นว่าหอศิลปฯได้ให้บริการด้านการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการและศิลปะกว่า 100 ครั้งต่อปี มีผู้เข้าร่วมมากกว่าปีละ 10,000 คน อีกทั้งยังสามารถจัดหางบประมาณในการจัดกิจกรรมได้เองนอกเหนือจากที่กทม. ให้งบอุดหนุนปีละ 40 ล้านบาท ฉะนั้นการที่กทม.จะยึดเอาหอศิลปฯไปบริหารเองเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและผิดข้อตกลงของปฏิญญาที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม.ได้ลงนามร่วมกับเครือข่ายและภาคประชาชนเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2548
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าพื้นที่หอศิลปฯถูกใช้เป็นพื้นที่ทางการเมืองอยู่บ่อยครั้งในระยะหลังนั้น ขอยืนยันว่า มูลนิธิฯไม่ได้มีส่วนสนับสนุนกลุ่มการเมืองใด การเคลื่อนไหวในแต่ละครั้งเป็นการแสดงออกของประชาชนที่มูลนิธิฯไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการได้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งระงับแนวคิดดังกล่าวของผู้ว่าฯกทม.โดยด่วน
อย่างไรก็ตามแม้ พล.ต.อ.อัศวินได้ออกมากล่าวว่าจะยอมถอยในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่ทางเครือข่ายฯไม่อาจไว้วางใจหรือเชื่อมั่นใน พล.ต.อ.อัศวินได้ โดยจะรอฟังผลการประชุมเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวของสภากรุงเทพฯในบ่ายวันเดียวกันนี้
ด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. แถลงหลังการประชุมพิจารณาเรื่อง ขั้นตอนและแผนการดำเนินการปรับปรุงพื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครให้เป็น Creative Space ว่า ตนประกาศยุติการดำเนินการตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2561 กทม.จะไม่เข้าไปบริหารจัดการหอศิลป์ฯ แล้ว
จากนี้ก็ให้มูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ดำเนินการบริหารต่อไปจนกว่าจะครบสัญญาหรือ MOU ซึ่งจะสิ้นสุดลงในปี 2564 ส่วนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่ไม่ยุ่งกับหอศิลป์ฯ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องกลัวเสียคะแนนในการเลือกตั้งและไม่ได้เกี่ยวกับที่มีกลุ่มศิลปินไปร้องเรียนนายกรัฐมนตรีในวันอังคารที่15 เพราะกรณีดังกล่าว มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนรีตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 61 ซึ่งนายกก็บอกให้พิจารณาตามเสียงประชาชน ให้หยุดตามเสียงประชาชน ตนก็ดำเนินตาม
“ ที่จะเข้ามาพัฒนาหอศิลป์ฯ นั้น เนื่องจากผมมีความคิดอยากจะพัฒนาให้สมประโยชน์กับพื้นที่มากที่สุด แต่ กทม.ไม่สามารถเข้ามาดำเนินการได้ และผมไม่เคยพูดเรื่องมูลนิธิฯ บริหารขาดทุน 80 ล้านบาท”
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า หากสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เสนองบประมาณขึ้นมา ก็พร้อมเสนอไปยังสภา กทม.พิจารณาอนุมัติ ตนยังไม่เคยเห็นรายละเอียดของ MOU ว่า กทม.ต้องสนับสนุนงบหรือไม่