ชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 59 รายต้องสังเวยชีวิตด้วยฝีมือของทหารอิสราเอลในวันแรกที่สหรัฐฯ ได้เปิดสถานทูตแห่งใหม่ในเมืองเยรูซาเล็ม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้ย้ายมาจากเมืองเทล อาวีฟ เกิดการประท้วงเป็นวงกว้าง
ถือว่าเป็นการสังหารหมู่ที่มีเหยื่อของการประท้วงเป็นจำนวนมากในวันเดียวหลังจากการประท้วงเริ่มสัปดาห์ก่อน เหยื่อของการปราบปรามส่วนใหญ่ถูกยิงโดยกระสุนจริงโดยทหารอิสราเอลซึ่งอ้างว่ากลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้ระเบิดเพลิงโมโลตอฟ ค็อกเทล ก้อนหินและวัตถุต่างๆ ขว้างปาใส่ทหาร
ผู้นำอิสราเอล นายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่และรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และอ้างว่าการปฏิบัติการของทหารเป็นการปกป้องชายแดนประเทศไม่ให้ถูกรุกล้ำ และคาดว่ายังจะต้องมีการปะทะกันต่อเนื่อง
มีชาวปาเลสไตน์และอาหรับที่อยู่ในเขตกาซาและเวสต์แบงก์กว่า 35,000 คนชุมนุมประท้วง ขว้างปาก้อนหินและของแข็งใส่ทหารอิสราเอลซึ่งตอบโต้ด้วยกระสุนปืนและยิงแก๊สน้ำตาจากโดรนที่บินระยะสูง อ้างว่าเป็นการรับมือกับพวกหัวรุนแรง
กลุ่มฮามาส และกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการย้ายสถานทูตสหรัฐฯ มาแห่งใหม่ เพราะเห็นว่าเมืองเยรูซาเล็มเป็นศูนย์กลางของทุกศาสนา ไม่ควรให้สหรัฐฯ เข้ามาอยู่ที่นั่น ขณะที่ผู้นำอิสราเอล นายกฯ เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวแสดงความยินดี
เนทันยาฮูขอบคุณทรัมป์ที่ได้แสดงความกล้าหาญในการรักษาคำมั่นสัญญาว่าจะย้ายสถานทูตจากเทล อาวีฟมาอยู่ที่เยรูซาเล็ม ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะสร้างวิกฤตใหม่ในตะวันออกกลาง รวมทั้งดุลยภาพอำนาจ ความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับชาติอื่นๆ
ทรัมป์ถือว่าเป็นมิตรรักสุดโต่งกับเนทันยาฮู และปกป้องอิสราเอลอย่างเต็มที่ ทั้งยังให้ท้ายอิสราเอลซึ่งไปปฏิบัติโจมตีฐานกองกำลังของอิหร่านในซีเรียหลายครั้ง เป็นการละเมิดอธิปไตยของซีเรียอย่างชัดเจน แต่ทรัมป์เห็นดีเห็นงามด้วยทุกครั้ง
การตัดสินใจย้ายสถานทูตไปเยรูซาเล็ม ไม่ใช่เฉพาะได้สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มอาหรับ กลุ่มปาเลสไตน์ ฮามาส และฮิซบอลเลาะห์เท่านั้น แม้แต่ผู้นำฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ก็เคยขอร้องทรัมป์ว่าอย่าทำเช่นนั้น จะเกิดปัญหาใหม่
แต่คนอย่างทรัมป์ไม่ฟังใคร ไม่ใส่ใจ ถืออำนาจของตัวเองเป็นใหญ่ ใครขวางไม่ได้ทั้งนั้น แม้แต่คนอเมริกันเองที่ทรัมป์เลือกเอาไปทำงานด้วย ถ้าทำตัวไม่ถูกตาต้องใจ ก็ไล่ออกแบบไม่ต้องเห็นหัวเห็นหาง เป็นผู้นำทำเนียบขาวที่ใช้คนเปลืองที่สุด
ต่อให้มีตำแหน่งสำคัญแค่ไหน ทรัมป์ก็ไม่ไว้หน้า จะเลือกเอาคนที่พูดเข้าหู ความคิดขวาจัดสุดโต่งไว้ในตำแหน่งสำคัญเพื่อสนองนโยบายของตัวเองเท่านั้น
แม้แต่ผู้นำตุรกี ตอยยิป เออร์โดกัน ก็บอกว่าการตัดสินใจของทรัมป์เรื่องย้ายสถานทูตเป็นความผิดพลาดอย่างแรง และได้ตัดสินใจเรียกทูตตุรกีกลับจากสหรัฐฯ และอิสราเอล แสดงออกถึงความไม่พอใจ และทูตสหรัฐฯ ก็เดินทางกลับไปเช่นกัน
ผู้นำตุรกียังประณามอิสราเอลว่าเป็น “รัฐผู้ก่อการร้าย” และสิ่งที่อิสราเอลได้กระทำต่อชาวปาเลสไตน์อย่างโหดร้ายเป็นการ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”
กระทรวงการต่างประเทศซาอุดิอาระเบียก็ได้ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลอย่างรุนแรงเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจที่กองทัพอิสราเอลได้กระทำการปราบปรามกลุ่มชาวปาเลสไตน์ที่ประท้วงอย่างโหดเหี้ยม ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน
รัฐบาลซาอุฯ ยังได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกได้ร่วมแสดงความรับผิดชอบ ในความพยายามหาทางหยุดยั้งการกระทำที่รุนแรง ไร้มนุษยธรรมที่อิสราเอลได้กระทำต่อชาวปาเลสไตน์ และประชาคมโลกต้องปกป้องคุ้มครองประชาชนปาเลสไตน์
เลขาธิการสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตียร์เรส ได้แสดงความตกใจเมื่อรับรู้ถึงความรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตมากมาย ได้เรียกร้องให้กองกำลังอิสราเอลได้แสดงความยับยั้งชั่งใจในการใช้วิธีการรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง
แต่ตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างว่าเหตุของการประท้วงและความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นเพราะการยุยงก่อการโดยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา เป็นเจตนาและความตั้งใจที่จะก่อเรื่อง และอิสราเอลมีความชอบธรรมทุกประการในการปกป้องตนเอง
ไม่ต้องสงสัยว่าทรัมป์ได้ถือหางเนทันยาฮูและอิสราเอลอย่างเต็มที่ ต่างจากยุคของโอบามาซึ่งไม่ลงรอยกับเนทันยาฮู และถูกมองว่าไม่ยอมตามใจอิสราเอลเต็มที่ และพยายามไม่ย้ายสถานทูตจากเทล อาวีฟไปเยรูซาเล็ม ดังนั้นโอบามาจึงไม่อวยให้
ทรัมป์ได้ส่งลูกเขยคนโปรด จาเร็ด คุชเนอร์ ไปเป็นตัวแทนในพิธีเปิดสถานทูตแห่งใหม่ ซึ่งถือว่าเหมาะกับคน กับงาน เพราะคุชเนอร์เป็นชาวยิว นิวยอร์ก บิดาก็สนิทสนมกับทรัมป์อย่างมาก เป็นนักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน
ลูกสาวทรัมป์ อิวองกา เป็นผู้เปิดป้ายสถานทูตใหม่ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปร่วมด้วย จะว่าไปแล้วเกือบจะเป็นงานสำหรับครอบครัวของทรัมป์ที่เป็นตัวชูโรง
ช่วงเนทันยาฮูไปเรียนหนังสือที่สหรัฐฯ ก็ไปพักอยู่กับครอบครัวคุชเนอร์นี่แหละ และคุชเนอร์ตัวลูกมองว่าผู้นำอิสราเอลคนนี้เป็นไอดอล เป็นแบบฉบับของนักการเมืองที่ตัวเองชื่นชอบ แม้เนทันยาฮูถูกตำรวจดำเนินคดีทุจริตในขณะนี้ก็ตาม
คูเวตได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ เพื่อให้ออกแถลงการณ์เร่งด่วนประณามพฤติกรรมความรุนแรงของอิสราเอล ได้มีการร่างแถลงการณ์ดังกล่าวแต่ได้ถูกสหรัฐฯ ขัดขวาง แต่ยังจะมีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องนี้