รอดประหารชีวิต!! “ศาลชั้นต้น” ชี้ “ไม่เข้าข่ายวางแผนฆ่า” พิพากษา "เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้" ฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม 34 ปี 6 เดือน ส่วน “วศิน” 20 ปี 6 เดือน ขณะที่ “เบนซ์” โดนคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา ครอบครัวแอ๋มเตรียมอุทธรณ์ โอด “แก๊งเปรี้ยว” ควรได้รับโทษหนักกว่าจำคุก
วานนี้ (10 พ.ค.) ที่ ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้ทีนัดอ่านคำพิพากษาคดีดำที่ อ.1957/2560 คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา หรือ แอ๋ม กลิ่นจุ้ย หลังจากพนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย พร้อมพวก 5 คน ประกอบด้วย น.ส.กวิตา หรือ เอิร์น ราชสุดา น.ส.อภิวันท์ หรือ แจ้ สัตยบัณฑิต และ นายวศิน หรือ นิว นามพรหม และน.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรมคุณ โดยผู้ต้องหา 4 คน ถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันรอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ, ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกัน ขณะที่ น.ส.เบนซ์ ถูกตั้งข้อหารับของโจรเพียงข้อหาเดียว และได้ยื่นประกันตัวระหว่างสู้คดีไปก่อนหน้านี้
ภายหลังอ่านคำพิพากษานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยแยกอ่านคำพิพากษาของแต่ละคน เนื่องจากเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระ และมีผู้ต้องหาหลายคน โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของ น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิร์น และ น.ส.แจ้ เป็นการทำร้ายร่างกายผู้ตาย และมีการต่อสู้รวมถึงมีปากเสียงกันบนรถ โดยมีบางช่วงที่ผู้ต้องหา มีความคิดที่จะปล่อยผู้ตายลงจากรถ แต่ผู้ตายพูดจาข่มขู่ และผู้ต้องหาเกิดความกลัวทำให้มีการปิดปากปิดจมูกอย่างรุนแรง และมีการใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ตาย ไม่ใช่พฤติการณ์ของการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นการฆ่าโดยเจตนา จึงลงโทษ น.ส.เปรี้ยว จำเลยที่ 1 และ น.ส.เอิร์น จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 3 น.ส.เบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ 4 นายวศิน จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และจำเลยที่ 5 น.ส.แจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน นอกจากนี้ ยังคงมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายในคดีแพ่ง โดยมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1-2-4 และ 5 จ่ายค่าปลงศพ 1 แสนบาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว รวม 1.07 ล้านบาท โดยให้แบ่งชำระเป็นเดือนละ 5 พันบาท รวม 17 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2560 ซึ่งเป็นวันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.แอ๋ม และในวันนี้ให้วางเงินสด 5 หมื่นบาท ต่อศาลเพื่อเป็นการประกันหลักทรัพย์ในคดีแพ่งด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังสิ้นสุดการอ่านคำพิพากษาจำเลยต่างโผเข้ากอดกัน ก่อนที่ตำรวจศาลจะเข้าควบคุมตัวทั้ง 5 คน ไปที่บริเวณที่พักผู้ต้องหาเพื่อรอส่งตัวกลับเข้าเรือนกลางขอนแก่นและทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นต่อไป ทั้งนี้ น.ส.เปรี้ยว,น.ส.เอิน,และ น.ส.แจ้ที่เป็นผู้ต้องหารายสำคัญของคดีนี้ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งจำคุกเกินกว่า 33 ปีนั้น จะต้องถูกส่งตัวไปทำการคุมขังที่เรือนจำกลางกรุงเทพฯ หรือเรือนจำคลองไผ่ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าน่าจะถูกสงตัวไปทำการคุมขังที่เรือนจำคลองไผ่ ตามระเบียบองกรมราชทัณฑ์ต่อไป เนื่องจากเรือนจำกลางขอนแก่นนั้นสามารถคุมขังผู้ต้องหาได้ในอัตราโทษที่ไม่เกิน 33 ปี
จากนั้น นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้คัดคำสั่งศาลแล้ว ซึ่งฝ่ายโจทก์จะขอยื่นอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งการอุทธรณ์นั้นทำได้หมดทุกคน ผู้ต้องหาควรได้รับโทษหนักกว่านี้เพราะว่าทำเป็นขบวนการเช่นเดียวกับเงินชดใช้ที่ศาลสั่งให้ยังน้อยเกินไป ซึ่งทีมทนายความและครอบครัวไม่พอใจ เพราะเราสู้ใน มาตรา289 ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ขณะที่ นายอมรพงศ์ จันทร์กวี ทนายความของ น.ส.เปรี้ยว กล่าวว่า ทีมทนายความรู้สึกพอใจในคำพิพากษาของศาล เพราะที่ผ่านมา จำเลยที่ 1 ได้ยืนยันว่าตลอดว่าไม่ได้มีการวางแผนฆ่า น.ส.แอ๋ม และไม่ได้มีการเตรียมมีดมาฆ่า จึงไม่ใช่การร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างแน่นอน.
วานนี้ (10 พ.ค.) ที่ ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้ทีนัดอ่านคำพิพากษาคดีดำที่ อ.1957/2560 คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา หรือ แอ๋ม กลิ่นจุ้ย หลังจากพนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย พร้อมพวก 5 คน ประกอบด้วย น.ส.กวิตา หรือ เอิร์น ราชสุดา น.ส.อภิวันท์ หรือ แจ้ สัตยบัณฑิต และ นายวศิน หรือ นิว นามพรหม และน.ส.จิดารัตน์ หรือ เบนซ์ พรมคุณ โดยผู้ต้องหา 4 คน ถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันรอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ, ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น, ร่วมกัน ขณะที่ น.ส.เบนซ์ ถูกตั้งข้อหารับของโจรเพียงข้อหาเดียว และได้ยื่นประกันตัวระหว่างสู้คดีไปก่อนหน้านี้
ภายหลังอ่านคำพิพากษานานกว่า 2 ชั่วโมง โดยแยกอ่านคำพิพากษาของแต่ละคน เนื่องจากเป็นการกระทำที่ต่างกรรมต่างวาระ และมีผู้ต้องหาหลายคน โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของ น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิร์น และ น.ส.แจ้ เป็นการทำร้ายร่างกายผู้ตาย และมีการต่อสู้รวมถึงมีปากเสียงกันบนรถ โดยมีบางช่วงที่ผู้ต้องหา มีความคิดที่จะปล่อยผู้ตายลงจากรถ แต่ผู้ตายพูดจาข่มขู่ และผู้ต้องหาเกิดความกลัวทำให้มีการปิดปากปิดจมูกอย่างรุนแรง และมีการใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวผู้ตาย ไม่ใช่พฤติการณ์ของการฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เป็นการฆ่าโดยเจตนา จึงลงโทษ น.ส.เปรี้ยว จำเลยที่ 1 และ น.ส.เอิร์น จำเลยที่ 2 จำคุกตลอดชีวิต แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือจำคุก 34 ปี 6 เดือน จำเลยที่ 3 น.ส.เบนซ์ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา จำเลยที่ 4 นายวศิน จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน และจำเลยที่ 5 น.ส.แจ้ จำคุก 33 ปี 9 เดือน นอกจากนี้ ยังคงมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายในคดีแพ่ง โดยมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1-2-4 และ 5 จ่ายค่าปลงศพ 1 แสนบาท ค่าอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว รวม 1.07 ล้านบาท โดยให้แบ่งชำระเป็นเดือนละ 5 พันบาท รวม 17 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2560 ซึ่งเป็นวันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.แอ๋ม และในวันนี้ให้วางเงินสด 5 หมื่นบาท ต่อศาลเพื่อเป็นการประกันหลักทรัพย์ในคดีแพ่งด้วย
มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังสิ้นสุดการอ่านคำพิพากษาจำเลยต่างโผเข้ากอดกัน ก่อนที่ตำรวจศาลจะเข้าควบคุมตัวทั้ง 5 คน ไปที่บริเวณที่พักผู้ต้องหาเพื่อรอส่งตัวกลับเข้าเรือนกลางขอนแก่นและทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่นต่อไป ทั้งนี้ น.ส.เปรี้ยว,น.ส.เอิน,และ น.ส.แจ้ที่เป็นผู้ต้องหารายสำคัญของคดีนี้ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งจำคุกเกินกว่า 33 ปีนั้น จะต้องถูกส่งตัวไปทำการคุมขังที่เรือนจำกลางกรุงเทพฯ หรือเรือนจำคลองไผ่ แต่ทั้งนี้เชื่อว่าน่าจะถูกสงตัวไปทำการคุมขังที่เรือนจำคลองไผ่ ตามระเบียบองกรมราชทัณฑ์ต่อไป เนื่องจากเรือนจำกลางขอนแก่นนั้นสามารถคุมขังผู้ต้องหาได้ในอัตราโทษที่ไม่เกิน 33 ปี
จากนั้น นายนพดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้คัดคำสั่งศาลแล้ว ซึ่งฝ่ายโจทก์จะขอยื่นอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งการอุทธรณ์นั้นทำได้หมดทุกคน ผู้ต้องหาควรได้รับโทษหนักกว่านี้เพราะว่าทำเป็นขบวนการเช่นเดียวกับเงินชดใช้ที่ศาลสั่งให้ยังน้อยเกินไป ซึ่งทีมทนายความและครอบครัวไม่พอใจ เพราะเราสู้ใน มาตรา289 ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ขณะที่ นายอมรพงศ์ จันทร์กวี ทนายความของ น.ส.เปรี้ยว กล่าวว่า ทีมทนายความรู้สึกพอใจในคำพิพากษาของศาล เพราะที่ผ่านมา จำเลยที่ 1 ได้ยืนยันว่าตลอดว่าไม่ได้มีการวางแผนฆ่า น.ส.แอ๋ม และไม่ได้มีการเตรียมมีดมาฆ่า จึงไม่ใช่การร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอย่างแน่นอน.