วานนี้ (25 เม.ย.) พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการปปง. เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้ยึด และอายัดทรัพย์สิน ในคดีสำคัญ 3 คดี รวมทรัพย์สินมูลค่ากว่า 213,081,000 บาท ได้แก่
1. คดีเกี่ยวกับภาษีอากร ทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราว 46 รายการ มูลค่ากว่า 213,000,000 บาท คือ นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี กับพวก ทำความผิดตาม ม. 37 แห่งประมวลรัษฎากร โดยหลีกเลี่ยง หรือฉ้อโกงตั้งแต่ 10 ล้านบาทต่อปีภาษีขึ้นไป และได้กระทำในลักษณะที่เป็นขบวนการ หรือเป็นเครือข่าย มีการสร้างธุรกรรมอันเป็นเท็จ หรือปกปิดเงินได้พึงประเมิน หรือรายได้เพื่อหลีกเลี่ยง หรือฉ้อโกงภาษีอากร และมีพฤติกรรมปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อมิให้ติดตามทรัพย์สินนั้นได้ ตั้งแต่ ปี 54- 59 จนเป็นเหตุให้กรมสรรพากร ได้รับความเสียหาย ประมาณ 7,788,362,147.89 บาท และเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 46 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 213,000,000 บาท
คดีที่ 2 เกี่ยวกับยาเสพติด ทรัพย์สินที่ยึดและอายัดไว้ชั่วคราว 3 รายการ มูลค่ากว่า 81,000 บาท คือ นายบัญชา สุรินทร์ กับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคดีฟอกเงินอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ และจากการรวบรวมพยานหลักฐานของสำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า บิดานายบัญชา มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอื่นๆ ของประเทศไทย การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แห่ง พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ทำให้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 81,000 บาท
คดีที่ 3 เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราว 48 รายการ คือ นายประเสริฐ สุขขี กับพวก โดยเจ้าหน้าที่องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้แจ้งเบาะแสและประสานมายังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าพบร้านนวดแผนโบราณ ชื่อ “สถานบริการนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์” มีการนำหญิงสัญชาติพม่า อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี จากการตรวจสอบพบว่า สถานบริการนาตารี มีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง จึงร่วมกันตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิด และมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน 48 รายการ ได้แก่ เบี้ยประกันชีวิตที่ชำระแล้ว และสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันชีวิต (โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบมูลค่าของทรัพย์สิน)
นอกจากนี้ ได้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 6 คดี รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 31,061,000 บาท ได้แก่ คดีเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 4 คดี 63 รายการ มูลค่ากว่า 26,761,000 บาท ประกอบด้วย คดีนายบัญชา สุรินทร์ กับพวก โดยมีการยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ ประมาณ 25,000,000 บาท และส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 52 รายการ มูลค่าประมาณ 25,000,000 บาท คดีนายโสพร นาถะพินธุ กับพวก มูลค่าประมาณ 125,000 บาท คดีนายวิรัตน์ ก้อนคำตัน กับพวก มูลค่าประมาณ 236,000 บาท และคดีนายพรชัย กับพวก มูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท
1. คดีเกี่ยวกับภาษีอากร ทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราว 46 รายการ มูลค่ากว่า 213,000,000 บาท คือ นายธงชัย โรจน์รุ่งรังสี กับพวก ทำความผิดตาม ม. 37 แห่งประมวลรัษฎากร โดยหลีกเลี่ยง หรือฉ้อโกงตั้งแต่ 10 ล้านบาทต่อปีภาษีขึ้นไป และได้กระทำในลักษณะที่เป็นขบวนการ หรือเป็นเครือข่าย มีการสร้างธุรกรรมอันเป็นเท็จ หรือปกปิดเงินได้พึงประเมิน หรือรายได้เพื่อหลีกเลี่ยง หรือฉ้อโกงภาษีอากร และมีพฤติกรรมปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อมิให้ติดตามทรัพย์สินนั้นได้ ตั้งแต่ ปี 54- 59 จนเป็นเหตุให้กรมสรรพากร ได้รับความเสียหาย ประมาณ 7,788,362,147.89 บาท และเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 46 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 213,000,000 บาท
คดีที่ 2 เกี่ยวกับยาเสพติด ทรัพย์สินที่ยึดและอายัดไว้ชั่วคราว 3 รายการ มูลค่ากว่า 81,000 บาท คือ นายบัญชา สุรินทร์ กับพวก เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และความผิดฐานฟอกเงิน โดยคดีฟอกเงินอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ และจากการรวบรวมพยานหลักฐานของสำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า บิดานายบัญชา มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอื่นๆ ของประเทศไทย การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แห่ง พรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ทำให้มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน จำนวน 3 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 81,000 บาท
คดีที่ 3 เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ทรัพย์สินที่อายัดไว้ชั่วคราว 48 รายการ คือ นายประเสริฐ สุขขี กับพวก โดยเจ้าหน้าที่องค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้แจ้งเบาะแสและประสานมายังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าพบร้านนวดแผนโบราณ ชื่อ “สถานบริการนาตารี เอ็นเตอร์เทนเมนท์” มีการนำหญิงสัญชาติพม่า อายุต่ำกว่า 18 ปี เข้ามาแอบแฝงค้าประเวณี จากการตรวจสอบพบว่า สถานบริการนาตารี มีการกระทำความผิดดังกล่าวจริง จึงร่วมกันตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิด และมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน 48 รายการ ได้แก่ เบี้ยประกันชีวิตที่ชำระแล้ว และสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันชีวิต (โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบมูลค่าของทรัพย์สิน)
นอกจากนี้ ได้ส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 6 คดี รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 31,061,000 บาท ได้แก่ คดีเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 4 คดี 63 รายการ มูลค่ากว่า 26,761,000 บาท ประกอบด้วย คดีนายบัญชา สุรินทร์ กับพวก โดยมีการยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ ประมาณ 25,000,000 บาท และส่งเรื่องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 52 รายการ มูลค่าประมาณ 25,000,000 บาท คดีนายโสพร นาถะพินธุ กับพวก มูลค่าประมาณ 125,000 บาท คดีนายวิรัตน์ ก้อนคำตัน กับพวก มูลค่าประมาณ 236,000 บาท และคดีนายพรชัย กับพวก มูลค่าประมาณ 1,400,000 บาท