ผู้จัดการรายวัน360-คนเชียงใหม่พร้อมใจจุดกระแสสังคม แสดงพลัง “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ร้านค้าติดป้าย “ไม่ต้อนรับคนทำลายป่าดอยสุเทพ” พร้อมทั้งติดริบบิ้นเขียวและสติกเกอร์ย้ำจุดยืนเรียกร้องให้รื้อบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ด้านนักอนุรักษ์ปักหลัก ถือศีล อดอาหารประท้วง หน้าศาลอุทธรณ์ ภาค 5 จี้หาทางออก "บ้านป่าแหว่ง" ก่อนบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชน ส่วนราชการ และศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้หลายภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ต่างพากันร่วมจุดกระแสทางสังคมในการเรียกร้องให้ยุติและยกเลิกโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยล่าสุดร้านขายของหลายแห่งได้มีการติดป้าย ใจความโดยสรุปว่า ไม่ขายสินค้าหรือบริการให้คนทำลายป่า รวมทั้งมีการติดริบบิ้นเขียวและสติกเกอร์ “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” เพื่อเป็นการแสดงออกเรียกร้องให้รื้อถอนโครงการบ้านพักดังกล่าว
ยกตัวอย่างเช่น ที่ร้านสิงหราชคาร์แคร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในร้านที่ร่วมแสดงออกในเรื่องนี้ด้วยการติดป้ายที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ ด้วยกล่องกระดาษและเขียนข้อความว่า “ร้านนี้ไม่ต้อนรับคนทำลายป่าดอยสุเทพ” พร้อมทั้งมีการติดป้ายไวนีล “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ไว้ที่บริเวณหน้าร้าน
ขณะเดียวกันยังมีการแจกสติกเกอร์และริบบิ้นสีเขียวสัญลักษณ์ของการรณรงค์เรียกร้องขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพให้แก่ลูกค้า และประชาชนทั่วไปที่มีจุดยืนเช่นเดียวกันด้วย
นายวิบูลย์ สิงคะตีระ อายุ 63 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ทางร้านติดป้ายไวนีล “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ตั้งแต่ที่เริ่มมีการจัดตั้งเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเมื่อช่วงปลายเดือนมี.ค.2561 รวมทั้งเป็นจุดแจกสติกเกอร์และริบบิ้นสีเขียวสัญลักษณ์ของการรณรงค์เรียกร้องขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กระทั่งล่าสุดได้มีการติดป้ายที่เขียนข้อความว่า “ร้านนี้ไม่ต้อนรับคนทำลายป่าดอยสุเทพ” เพื่อเป็นการแสดงออกเน้นย้ำจุดยืนในการเรียกร้องและต้องการขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และนอกจากที่ร้านของตัวเองแล้วยังมีอีกหลายร้านที่ติดป้ายลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน
"อยากเชิญชวนให้ผู้คนร่วมกันแสดงพลังปกป้องดอยสุเทพ และอยากวิงวอนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ให้รื้อบ้านพักและอาคารที่พักทั้งหมดออกไป พร้อมทั้งฟื้นฟูสภาพป่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด"นายวิบูลย์กล่าว
ที่บริเวณหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 จ.เชียงใหม่ นายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิง ได้เดินทางจาก อ.เชียงดาว พร้อมนำอุปกรณ์พักแรม ปักหลักกางเต้นท์ ที่บริเวณริมรั้วด้านข้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อถือศีล อดอาหาร และเจริญภาวนา ให้ปัญหาการก่อสร้าง "บ้านพักตุลาการ" คลี่คลายไปในทางที่ดี ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่งานข่าวจากสังกัดต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่ริม ที่เดินทางมาบันทึกภาพ และสอบถามเจตนาในการเคลื่อนไหวครั้งนี้
ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ศาล ซึ่งเป็นสตรี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ออกมาขอร้องให้เปลี่ยนจุดกางเต้นท์ ไปยังเกาะกลางถนนใต้ต้นก้ามปูแทน เพราะเป็นห่วงเรื่องอากาศร้อน และการตั้งเต้นท์ติดรั้ว อาจผิดระเบียบในเรื่องสถานที่ของศาล ซึ่งประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีความเป็นห่วง และเรื่องปัญหาบ้านพักตุลาการ อยากให้รอนายกรัฐมนตรีสั่งการก่อน ซึ่งศาลพร้อมปฏิบัติตามทุกประการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะออกมาในทางใดก็ตาม
เบื้องต้น นายนิคมประกาศว่า จะถือศีล อดอาหาร รวม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-29 เม.ย.2561 เพื่อรอดูท่าทีการแก้ไขปัญหาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะไม่อยากให้ความขัดแย้งครั้งนี้บานปลาย เป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชน ส่วนราชการ และศาล พร้อมระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจว่า จะเข้าร่วมการเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ ของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ในเช้าวันที่ 29 เม.ย. ที่ลานประตูท่าแพหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้หลายภาคส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ต่างพากันร่วมจุดกระแสทางสังคมในการเรียกร้องให้ยุติและยกเลิกโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บริเวณเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยล่าสุดร้านขายของหลายแห่งได้มีการติดป้าย ใจความโดยสรุปว่า ไม่ขายสินค้าหรือบริการให้คนทำลายป่า รวมทั้งมีการติดริบบิ้นเขียวและสติกเกอร์ “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” เพื่อเป็นการแสดงออกเรียกร้องให้รื้อถอนโครงการบ้านพักดังกล่าว
ยกตัวอย่างเช่น ที่ร้านสิงหราชคาร์แคร์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในร้านที่ร่วมแสดงออกในเรื่องนี้ด้วยการติดป้ายที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ ด้วยกล่องกระดาษและเขียนข้อความว่า “ร้านนี้ไม่ต้อนรับคนทำลายป่าดอยสุเทพ” พร้อมทั้งมีการติดป้ายไวนีล “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ไว้ที่บริเวณหน้าร้าน
ขณะเดียวกันยังมีการแจกสติกเกอร์และริบบิ้นสีเขียวสัญลักษณ์ของการรณรงค์เรียกร้องขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพให้แก่ลูกค้า และประชาชนทั่วไปที่มีจุดยืนเช่นเดียวกันด้วย
นายวิบูลย์ สิงคะตีระ อายุ 63 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ทางร้านติดป้ายไวนีล “ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ” ตั้งแต่ที่เริ่มมีการจัดตั้งเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพเมื่อช่วงปลายเดือนมี.ค.2561 รวมทั้งเป็นจุดแจกสติกเกอร์และริบบิ้นสีเขียวสัญลักษณ์ของการรณรงค์เรียกร้องขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กระทั่งล่าสุดได้มีการติดป้ายที่เขียนข้อความว่า “ร้านนี้ไม่ต้อนรับคนทำลายป่าดอยสุเทพ” เพื่อเป็นการแสดงออกเน้นย้ำจุดยืนในการเรียกร้องและต้องการขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และนอกจากที่ร้านของตัวเองแล้วยังมีอีกหลายร้านที่ติดป้ายลักษณะเดียวกันนี้เช่นกัน
"อยากเชิญชวนให้ผู้คนร่วมกันแสดงพลังปกป้องดอยสุเทพ และอยากวิงวอนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ให้รื้อบ้านพักและอาคารที่พักทั้งหมดออกไป พร้อมทั้งฟื้นฟูสภาพป่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด"นายวิบูลย์กล่าว
ที่บริเวณหน้าศาลอุทธรณ์ภาค 5 จ.เชียงใหม่ นายนิคม พุทธา ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำแม่ปิง ได้เดินทางจาก อ.เชียงดาว พร้อมนำอุปกรณ์พักแรม ปักหลักกางเต้นท์ ที่บริเวณริมรั้วด้านข้างศาลอุทธรณ์ภาค 5 เพื่อถือศีล อดอาหาร และเจริญภาวนา ให้ปัญหาการก่อสร้าง "บ้านพักตุลาการ" คลี่คลายไปในทางที่ดี ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่งานข่าวจากสังกัดต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.แม่ริม ที่เดินทางมาบันทึกภาพ และสอบถามเจตนาในการเคลื่อนไหวครั้งนี้
ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ศาล ซึ่งเป็นสตรี และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ออกมาขอร้องให้เปลี่ยนจุดกางเต้นท์ ไปยังเกาะกลางถนนใต้ต้นก้ามปูแทน เพราะเป็นห่วงเรื่องอากาศร้อน และการตั้งเต้นท์ติดรั้ว อาจผิดระเบียบในเรื่องสถานที่ของศาล ซึ่งประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 มีความเป็นห่วง และเรื่องปัญหาบ้านพักตุลาการ อยากให้รอนายกรัฐมนตรีสั่งการก่อน ซึ่งศาลพร้อมปฏิบัติตามทุกประการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะออกมาในทางใดก็ตาม
เบื้องต้น นายนิคมประกาศว่า จะถือศีล อดอาหาร รวม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 25-29 เม.ย.2561 เพื่อรอดูท่าทีการแก้ไขปัญหาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะไม่อยากให้ความขัดแย้งครั้งนี้บานปลาย เป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชน ส่วนราชการ และศาล พร้อมระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจว่า จะเข้าร่วมการเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ ของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ในเช้าวันที่ 29 เม.ย. ที่ลานประตูท่าแพหรือไม่