การร้องทุกข์กล่าวโทษพระชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ท่ามกลางการสนับสนุนการทำงานของพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) อย่างท่วมท้น แต่กลับมีคนบางกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวปกป้องพระที่ละเมิดธรรมวินัย ประพฤติตัวเข้าข่ายอลัชชี
ประชาชนส่วนใหญ่รอคอยการปฏิรูปวงการสงฆ์มานานแล้ว ต้องการเห็นการกวาดล้างกลุ่มคนที่อาศัย “ผ้าเหลือง” เป็นช่องทางในการกอบโกยลาภ ยศ จนศาสนาเสื่อม ญาติโยมหมดศรัทธาพระ
แต่การปฏิรูปพระมักเกิดปัญหา เพราะจะมีการปลุกมวลชน หรือจัดตั้งม็อบพระออกมาต่อต้านโดยตลอด
การกล่าวโทษพระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการมหาเถรสมาคมหลายรูป ซึ่งร่วมในกระบวนการโกงเงินทอนวัดครั้งล่าสุด และเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปวงการสงฆ์ แต่พระชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้าน ขณะที่บรรดาม็อบพิทักษ์อลัชชีออกโรงมาโจมตีพ.ต.ท.พงศ์พร
และแจ้งความดำเนินคดี กล่าวหาว่า ผอ.พศ.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการกล่าวโทษพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูปที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3 ขอให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท.พงศ์พรในความผิดตามมาตรา 157
การปฏิรูปวงการสงฆ์ การกวาดล้างพระที่ประพฤติตัวเป็นอลัชชี ไม่ละในกิเลสแสวงหาตำแหน่ง กอบโกยผลประโยชน์ ฝักใฝ่การเมือง ไม่อาจเกิดขึ้นได้ ในยุคที่ระบอบทักษิณกุมอำนาจ และพระ “เสื้อแดง” ยึดมหาเถรสมาคม
เพราะใครที่ริอ่านปฏิรูปวงการสงฆ์ ม็อบพระเสื้อแดงจะยกพวกออกมาเคลื่อนไหวกดดัน โดยมีอำนาจการเมืองสนับสนุน
แต่ระบอบทักษิณล่มสลายไปแล้ว อลัชชีที่แฝงอยู่ในวงการสงฆ์กำลังถูกกวาดล้าง พระที่แฝงตัวหากินบนความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนยังไม่มีที่ยืน
ประชาชนทั้งประเทศชื่นชมการทำงานของพ.ต.ท.พงศ์พร
มีเพียงกลุ่มอลัชชีที่เสวยสุขอยู่กับชายผ้าเหลืองมานาน และกลุ่มลูกสมุนเท่านั้นที่ดิ้นทุรนทุรายพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของพ.ต.ท.พงศ์พร
อลัชชีและลูกสมุนที่ออกมาขัดขวางการปฏิรูปวงการสงฆ์ ขัดขวางการจับพระที่กระทำความผิดเข้าคุก อาจสำคัญผิด คิดว่าม็อบพระหรือม็อบสมุนพระ จะมีอำนาจต่อรองหรือมีเกราะกำบังเหมือนยุค “ทักษิณ” จึงเปิดตัวออกมาพิทักษ์เหล่าอลัชชีโดยไม่อาย
การอุปโลกน์เป็นตัวแทนของชาวพุทธ ออกมาทำหน้าที่ปกป้องพระพุทธศาสนานั้น เป็น “มุก” เก่าๆ ที่ใช้อย่างซ้ำซากในยุค “ทักษิณ” ซึ่งประชาชนเอียนกับม็อบพระจัดตั้งแล้ว ไม่อาจสร้างภาพลวงโลกได้ต่อไป
ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงเวลาเกือบ 4 ปีที่เข้ามาบริหารประเทศ ผลงานที่พอจะเข้าตาประชาชน เห็นจะมีเพียงเรื่องเดียว เรื่องการปฏิรูปวงการสงฆ์ การกวาดล้างอลัชชีที่ห่มเหลืองทำมาหากิน และเป็นตัวทำลายศาสนานี่แหละม็อบพระที่ออกมาขวางทางการปฏิรูปวงการสงฆ์ ม็อบกลุ่มพิทักษ์อลัชชีที่ถูกจัดตั้ง อาจมีความน่าเกรงขาม ในยุค “ทักษิณ” เพราะมีอำนาจรัฐหนุนหลัง มีเครือข่ายที่จะปลุกระดมออกมาเคลื่อนไหวกดดัน
แต่กองกำลังพระเสื้อแดงแทบไม่เหลือแล้ว การดิ้นรนของพระที่ร่วมขบวนการทุจริตเงินทอนวัด จึงเป็นความพยายามเฮือกสุดท้าย เพื่อให้เหล่าอลัชชีหลุดพ้นจากความผิด ต้องถูกจับสึกและเดินเข้าคุกเท่านั้น
ผลงานดีๆ ที่มีเพียงชิ้นเดียวของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์คือ การปฏิรูปวงการสงฆ์ และการกวาดล้างพระที่ร่วมโกงเงินทอนวัด เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปพระอย่างจริงจัง พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ควรลังเล ไขว้เขวหรือหวั่นไหวกับม็อบพระ แต่ต้องเร่งเดินหน้า กวาดล้างอลัชชีในวงการสงฆ์ในช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ควรแสดงจุดยืนให้ชัด ประกาศสนับสนุนการทำงานของพ.ต.ท.พงศ์พรอย่างเต็มที่ บอกให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า
รัฐบาลพร้อมเดินหน้าชนกับอลัชชีที่ทำตัวเป็นมารศาสนา โกงแม้กระทั่งเงินวัดโดยไม่สำนึกในกรรมเวร