ผู้จัดการรายวัน360-"อภิสิทธิ์" ปูดพรรคทหารเคาะกะลา ดูดนักการเมือง ใช้เก้าอี้ "ผู้ช่วยรมต." ล่อ คาดเป้าหมายผู้มีอำนาจ ต้องได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 25 เสียง "วัชระ" แฉพรรคทหารเกิดใหม่ ระดมเงิน 4 หมื่นล้าน ใช้ดูด ส.ส. "อนุทิน" วอนอย่าโยงกระแสดูด หลังครม. เตรียมสัญจรบุรีรัมย์ "วราวุธ" บอกดูด ส.ส.เป็นเรื่องปกติ ส่วนนักการเมืองเข้าไปช่วยงาน คสช. เป็นเรื่องดี จะได้รู้ประชาชนต้องการอะไร
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สถานการณ์การเมืองว่า นอกจากตนได้ยินเรื่องดึงพรรคพลังชลก่อนหน้านี้แล้ว ยังได้ยินเรื่องกระบวนการของรัฐ คนที่มีอำนาจรัฐ จะมาเล่นการเมือง ซึ่งไม่จำเป็นต้องลง ส.ส. แต่อาจใช้สถานะตรงนั้นในการติดต่อภาคธุรกิจ ส่งสัญญาณว่าไม่ควรสนับสนุน หรือไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใด ซึ่งตนคิดว่าการกระทำลักษณะนี้ ไม่ต่างจากหลายระบอบที่เราต้องต่อสู้ในอดีต และคิดว่าขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ต้องการให้ผู้มีอำนาจขณะนี้ยุ่งกับการเมือง หรือไปส่วนได้เสียกับการเลือกตั้ง
"ผมได้ยินมาอีกว่า ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ยังเสนอให้หลายคน หลายพรรค เสนอตำแหน่งไม่ใช่กับเพียงตระกูลสะสมทรัพย์ แต่กับประชาธิปัตย์ ก็เสนอเช่นกัน และคิดว่าเป้าหมายของพรรคนี้ จะต้องได้รับเสียงพอสมควร อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 25 เสียง"นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตนเคยแถลงไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มีความพยายามระดมเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดตั้งพรรคทหารในการสืบทอดอำนาจ ซึ่งตนได้บอกกับผู้ใหญ่ในพรรค แต่ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เชื่อ แต่ปัจจุบันข่าวก็ออกมาเป็นระยะว่ามีการระดมเงินจำนวนมากเพื่อดูดส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ ให้ไปสนับสนุนพรรคการเมืองของทหาร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. เตรียมนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประชุมนอกสถานที่ ที่จ.บุรีรัมย์ และจ.สุรินทร์ ช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ ว่า ไม่มีนัยใดๆ ในทางการเมือง เพราะทราบว่าเป็นการเตรียมการประชุมไว้ล่วงหน้านานหลายเดือน โดยตนฐานะที่เป็นคนพื้นเพ ต.อีสาน อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ พร้อมจะให้การต้อนรับ โดยไม่เกี่ยว และขออย่าให้โยงไปเป็นประเด็นทางการเมือง
นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่มีนักการเมืองเข้าไปร่วมทำงานกับรัฐบาลคสช.ว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สังคมได้เห็นแล้วว่าการบริหารงานของ คสช. อาจจะตรงแบบทหาร ทำให้ไม่มีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหารากหญ้า การที่นายกฯ มีนักการเมืองเข้าไปช่วยให้คำปรึกษา รัฐบาลจะได้เข้าถึงประชาชนว่ามีความต้องการ หรือมีความเดือดร้อนอะไร จะได้เห็นภาพจริงๆ มากกว่า คนอื่นมาเล่าให้ฟัง
ส่วนเสียงวิจารณ์ที่มองว่า เป็นการขายตัวให้กับรัฐบาล คสช. นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง มองดีก็มองได้ มองไม่ดีก็ได้ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ที่นำเรือออกทะเลไปแล้ว วันนี้เราไม่สามารถเปลี่ยนเรือได้ แต่สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของเรือลำได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนเช่นนี้ จะทำให้เรือไปถึงฝั่งด้วยความเข้มแข็ง ส่วนจะเป็นการต่างตอบแทน หรือสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อหรีอไม่ คิดว่าท้ายที่สุด ตัวเลขหลังการเลือกตั้งจะเป็นตัวตัดสินว่า การฟอร์มรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการดูด ส.ส. ก็เป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้ง มีออกและมีเข้า มีเข้าและมีออกอยู่ตลอด แต่ที่แน่ๆ ชทพ. จะปักธงบนแผนที่ของประเทศไทยทุกภาค หลังการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สถานการณ์การเมืองว่า นอกจากตนได้ยินเรื่องดึงพรรคพลังชลก่อนหน้านี้แล้ว ยังได้ยินเรื่องกระบวนการของรัฐ คนที่มีอำนาจรัฐ จะมาเล่นการเมือง ซึ่งไม่จำเป็นต้องลง ส.ส. แต่อาจใช้สถานะตรงนั้นในการติดต่อภาคธุรกิจ ส่งสัญญาณว่าไม่ควรสนับสนุน หรือไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใด ซึ่งตนคิดว่าการกระทำลักษณะนี้ ไม่ต่างจากหลายระบอบที่เราต้องต่อสู้ในอดีต และคิดว่าขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ไม่ต้องการให้ผู้มีอำนาจขณะนี้ยุ่งกับการเมือง หรือไปส่วนได้เสียกับการเลือกตั้ง
"ผมได้ยินมาอีกว่า ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ยังเสนอให้หลายคน หลายพรรค เสนอตำแหน่งไม่ใช่กับเพียงตระกูลสะสมทรัพย์ แต่กับประชาธิปัตย์ ก็เสนอเช่นกัน และคิดว่าเป้าหมายของพรรคนี้ จะต้องได้รับเสียงพอสมควร อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 25 เสียง"นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตนเคยแถลงไปก่อนหน้านี้แล้วว่า มีความพยายามระดมเงิน 4 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดตั้งพรรคทหารในการสืบทอดอำนาจ ซึ่งตนได้บอกกับผู้ใหญ่ในพรรค แต่ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เชื่อ แต่ปัจจุบันข่าวก็ออกมาเป็นระยะว่ามีการระดมเงินจำนวนมากเพื่อดูดส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ ให้ไปสนับสนุนพรรคการเมืองของทหาร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. เตรียมนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประชุมนอกสถานที่ ที่จ.บุรีรัมย์ และจ.สุรินทร์ ช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ ว่า ไม่มีนัยใดๆ ในทางการเมือง เพราะทราบว่าเป็นการเตรียมการประชุมไว้ล่วงหน้านานหลายเดือน โดยตนฐานะที่เป็นคนพื้นเพ ต.อีสาน อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ พร้อมจะให้การต้อนรับ โดยไม่เกี่ยว และขออย่าให้โยงไปเป็นประเด็นทางการเมือง
นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่มีนักการเมืองเข้าไปร่วมทำงานกับรัฐบาลคสช.ว่า เป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สังคมได้เห็นแล้วว่าการบริหารงานของ คสช. อาจจะตรงแบบทหาร ทำให้ไม่มีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหารากหญ้า การที่นายกฯ มีนักการเมืองเข้าไปช่วยให้คำปรึกษา รัฐบาลจะได้เข้าถึงประชาชนว่ามีความต้องการ หรือมีความเดือดร้อนอะไร จะได้เห็นภาพจริงๆ มากกว่า คนอื่นมาเล่าให้ฟัง
ส่วนเสียงวิจารณ์ที่มองว่า เป็นการขายตัวให้กับรัฐบาล คสช. นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า แล้วแต่มุมมอง มองดีก็มองได้ มองไม่ดีก็ได้ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวเรือใหญ่ ที่นำเรือออกทะเลไปแล้ว วันนี้เราไม่สามารถเปลี่ยนเรือได้ แต่สามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของเรือลำได้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนเช่นนี้ จะทำให้เรือไปถึงฝั่งด้วยความเข้มแข็ง ส่วนจะเป็นการต่างตอบแทน หรือสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ต่อหรีอไม่ คิดว่าท้ายที่สุด ตัวเลขหลังการเลือกตั้งจะเป็นตัวตัดสินว่า การฟอร์มรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ส่วนเรื่องการดูด ส.ส. ก็เป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้ง มีออกและมีเข้า มีเข้าและมีออกอยู่ตลอด แต่ที่แน่ๆ ชทพ. จะปักธงบนแผนที่ของประเทศไทยทุกภาค หลังการเลือกตั้งอย่างแน่นอน