ผู้จัดการรายวัน360-"อุตตม"เผยนักลงทุนเชื่อมั่นไทย เตรียมปักหมุดลงทุนอีอีซีเพิ่ม หลัง "แจ๊ค หม่า" บินมาลงนาม MOU กับไทย เตรียมสานต่อลุยโรดโชว์ที่จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ดึงลงทุนอีก "คณิศ"ชี้ตอนนี้จีน สนใจมาเพียบ เตรียมจับมือ GISTDA พัฒนาอีอีซี ส่วนรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา สัปดาห์นี้รู้เรื่อง
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการที่นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มอาลีบาบาลงนามMOU กับไทยเพื่อร่วมพัฒนาอีคอมเมิร์ซกับไทย ได้ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการลงทุนมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีการลงทุนต่อเนื่องจากจีนเข้ามาอีก ซึ่งไทยเองจะเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นสำคัญ และขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมแผนที่จะเดินทางไปโรดโชว์เพิ่มเติมที่จีน ญี่ปุ่น และยุโรป
ส่วนความวิตกกังวลของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และสตาร์ทอัพต่อการเข้ามาของอาลีบาบา พอเข้าใจได้ แต่การลงนามเป็นเรื่องของการมุ่งเน้นพัฒนาคน ไม่มีข้อผูกพันเชิงพาณิชย์ที่จะต้องมีเงื่อนไขให้ไปใช้บริการตลาดค้าออนไลน์ของอาลีบาบาแต่อย่างใด และยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศรายอื่นเข้ามาร่วมพัฒนาด้วย
"ขณะนี้เรื่องอีคอมเมิร์ซเป็นกระแสทั่วโลก ไม่มีเส้นแบ่งแยก เอสเอ็มอีไทยจำเป็นต้องเข้าถึง อาลีบาบาเองเสนอตัวมาเกือบ 2ปี ตามแนวทางที่รัฐกำหนดที่ต้องการไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้น วันนี้ไม่มีอาลีบาบามา ทุกส่วนก็ต้องปรับตัวและรัฐเองพร้อมที่จะดูแล โดยมีมาตรการสนับสนุนทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินที่จะทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม4.0 “นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ชุดใหม่ที่มีนายสุพันธุ์ มงคลสุธี เป็นประธาน เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่ยุค 4.0 โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและบุคคลากรสายอาชีวะให้เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเอสเอ็มอี ซึ่งในส่วนของแผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเฟส 2 จะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กล่าวว่า การที่อาลีบาบา ทำ MOU กับไทย 4 ฉบับ โดยเฉพาะการลงทุนตั้งศูนย์ Smart Digital Hub ในอีอีซี ส่งผลให้นักลงทุนจีนเกิดความตื่นตัวที่จะเข้ามาลงทุนยังอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซีมากขึ้น และยังได้จัดตารางที่จะไปโรดโชว์ดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในจีน ญี่ปุ่น ยุโรป
ทั้งนี้ ล่าสุด สกรศ. ได้ทำ MOU กับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDAเพื่อร่วมมือ 2 ด้านสำคัญ คือ 1.นำระบบเทคโนโลยีทางอวกาศและการจัดทำแผนที่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 2.ทำBig Data เพื่อพัฒนาอีอีซี
ส่วนความคืบหน้าการจัดทำร่างTOR ของรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ คงจะได้ข้อสรุป ซึ่งรวมถึงประเด็นที่นักลงทุนเสนอให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากกว่า 51% ซึ่งTORนี้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับโครงการอื่นๆ ต่อไปด้วย
นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร GISTDA กล่าวว่า ได้เตรียมงบลงทุน 800 ล้านบาทในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จะมาพัฒนาในอีอีซี จากนั้นจะขยายไปยังพื้นที่อื่น
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จากการที่นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มอาลีบาบาลงนามMOU กับไทยเพื่อร่วมพัฒนาอีคอมเมิร์ซกับไทย ได้ส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการลงทุนมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีการลงทุนต่อเนื่องจากจีนเข้ามาอีก ซึ่งไทยเองจะเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นสำคัญ และขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมแผนที่จะเดินทางไปโรดโชว์เพิ่มเติมที่จีน ญี่ปุ่น และยุโรป
ส่วนความวิตกกังวลของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) และสตาร์ทอัพต่อการเข้ามาของอาลีบาบา พอเข้าใจได้ แต่การลงนามเป็นเรื่องของการมุ่งเน้นพัฒนาคน ไม่มีข้อผูกพันเชิงพาณิชย์ที่จะต้องมีเงื่อนไขให้ไปใช้บริการตลาดค้าออนไลน์ของอาลีบาบาแต่อย่างใด และยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศรายอื่นเข้ามาร่วมพัฒนาด้วย
"ขณะนี้เรื่องอีคอมเมิร์ซเป็นกระแสทั่วโลก ไม่มีเส้นแบ่งแยก เอสเอ็มอีไทยจำเป็นต้องเข้าถึง อาลีบาบาเองเสนอตัวมาเกือบ 2ปี ตามแนวทางที่รัฐกำหนดที่ต้องการไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้น วันนี้ไม่มีอาลีบาบามา ทุกส่วนก็ต้องปรับตัวและรัฐเองพร้อมที่จะดูแล โดยมีมาตรการสนับสนุนทั้งทางการเงินและไม่ใช่การเงินที่จะทำให้เข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม4.0 “นายอุตตมกล่าว
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ชุดใหม่ที่มีนายสุพันธุ์ มงคลสุธี เป็นประธาน เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่ยุค 4.0 โดยเฉพาะการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายและบุคคลากรสายอาชีวะให้เข้มข้นมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเอสเอ็มอี ซึ่งในส่วนของแผนพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพเฟส 2 จะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กล่าวว่า การที่อาลีบาบา ทำ MOU กับไทย 4 ฉบับ โดยเฉพาะการลงทุนตั้งศูนย์ Smart Digital Hub ในอีอีซี ส่งผลให้นักลงทุนจีนเกิดความตื่นตัวที่จะเข้ามาลงทุนยังอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซีมากขึ้น และยังได้จัดตารางที่จะไปโรดโชว์ดึงดูดการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในจีน ญี่ปุ่น ยุโรป
ทั้งนี้ ล่าสุด สกรศ. ได้ทำ MOU กับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDAเพื่อร่วมมือ 2 ด้านสำคัญ คือ 1.นำระบบเทคโนโลยีทางอวกาศและการจัดทำแผนที่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย 2.ทำBig Data เพื่อพัฒนาอีอีซี
ส่วนความคืบหน้าการจัดทำร่างTOR ของรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-อู่ตะเภา คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ คงจะได้ข้อสรุป ซึ่งรวมถึงประเด็นที่นักลงทุนเสนอให้ต่างชาติถือหุ้นได้มากกว่า 51% ซึ่งTORนี้ จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับโครงการอื่นๆ ต่อไปด้วย
นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร GISTDA กล่าวว่า ได้เตรียมงบลงทุน 800 ล้านบาทในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่จะมาพัฒนาในอีอีซี จากนั้นจะขยายไปยังพื้นที่อื่น