xs
xsm
sm
md
lg

ใกล้จะยิงกันแล้ว!!!

เผยแพร่:   โดย: ทับทิม พญาไท


ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงหนีไม่พ้นต้องร่อนไปดูฉากเหตุการณ์ในซีเรียกันอีกต่อไปนั่นแหละทั่น เพราะโดยกิริยาอาการมันชักใกล้ๆ “สงครามอารมาเกดโดน” เข้าไปทุกที อย่างที่พอทราบๆ กันไปบ้างแล้ว สำหรับผู้ติดตามเรื่องนี้แบบต่อเนื่องมาโดยตลอด ว่าหลังจากที่ “ทรัมป์บ้า” ได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการที่จะใช้กำลังทหารเล่นงานซีเรียกันอีกรอบ ด้วยข้ออ้างเรื่องการใช้ “อาวุธเคมี” อย่างที่ว่าไปแล้วเมื่อวันวาน โดยคำพูด คำให้สัมภาษณ์ของทูตรัสเซียประจำเลบานอน “นายอเล็กซานเดอร์ ซาซิปคิน” (Alexander Zasypkin) ที่ได้อ้างอิงถึงผู้นำรัสเซียรวมทั้งผู้บัญชาการทหารระดับสูง ประมาณว่า...ถ้าอเมริกายิงจรวดใดๆ ก็ตามเข้าไปยังซีเรียในช่วงระหว่างนี้ นอกจากรัสเซียพร้อมจะยิงสกัดแล้ว ยังพร้อมที่จะโจมตีฐานยิงในแต่ละฐานอีกต่างหาก!!!

แต่ไม่เพียงเท่านี้...ที่ทำให้อะไรต่อมิอะไรมันออกไปทางน่าขนลุกขนพองยิ่งขึ้นเท่านั้น หลังทูตรัสเซียให้สัมภาษณ์โทรทัศน์เลบานอนไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า” ก็ออกมาบ้ากันแบบโจ้งๆ โต้งๆ ด้วยการ “ทวิต” ข้อความ ที่ทั้งน่าเกลียด น่ากลัว และน่าถอดรองเท้าตบปาก เพื่อเรียกสติและวุฒิภาวะให้พอกระเตื้องๆ ขึ้นมาได้มั่ง เพราะการยั่วยุท้าทายกันในระดับว่า... “รัสเซียคุยว่าจะยิงขีปนาวุธใดๆ ก็ตาม ทุกลูกที่ยิงเข้าไปยังซีเรีย...เตรียมพร้อมเอาไว้ให้ดีเถอะรัสเซีย!!! เพราะมันกำลังจะมาแล้ว ทั้งสวยสด งดงาม ทั้งใหม่เอี่ยมและสมาร์ท” อย่างที่เว็บไซต์ผู้จัดการนำมาถ่ายทอดให้รับรู้ รับทราบกันไปแล้วเมื่อวานนี้ อันนี้ต้องเรียกว่า...แทบไม่ได้สะท้อนคุณลักษณะความเป็นผู้นำโลก ผู้นำประเทศมหาอำนาจสูงสุดอย่างอเมริกา เอาเลยแม้แต่น้อย แต่หนักไปทาง “เด็กช่างกล” หรือ “เด็กแว้น” อะไรประมาณนั้น ชนิดน่าจับส่งไปให้ “วันเฉลิม อยู่บำรุง” สั่งสอนซะให้เข็ด...

ส่งผลให้หลังจากที่ “ทรัมป์บ้า” งัดลูกบ้าออกมาพ่นแค่ไม่กี่ชั่วโมง...ทั้งตลาดหุ้นเอสแอนด์พี ดาวโจนส์ แนสแดก ฯลฯ ก็ปักหัวทิ่มกันชนิดระเนนระนาด ขณะที่ราคาทองคำพุ่งสวนทางไปอยู่ที่ 1,359 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาน้ำมันเด้งดึ๋งไปถึงระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี คือระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันดิบเบรนท์ และ 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสำหรับน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส พูดง่ายๆ ว่า...ไม่ว่าใครก็ใคร ต่างออกอาการขนหัวลุกกันไปเป็นแถบๆ ยิ่งตามมาด้วยการป่าวประกาศขององค์กรเพื่อความปลอดภัยทางการบินระหว่างประเทศยุโรป หรือ “Eurocontrol” ที่ออกมาเตือนว่า...ความเป็นไปได้ของการโจมตีกันด้วยจรวดในน่านฟ้าซีเรีย อาจเกิดขึ้นภายใน 72 ชั่วโมงข้างหน้า ศุกร์ 13 วันนี้...เลยชักออกไปทาง “ศุกร์ 13 ฝันหวาน” แบบหนังสยองขวัญฮอลลีวูดยิ่งเข้าไปทุกที...

ข่าวคราวการเคลื่อนเรือพิฆาตติดจรวดโทมาฮอว์ก “USS Donald Cook” ของสหรัฐฯ เข้าไปในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จึงกลายเป็นข่าวล่า-มาเรือ ที่ส่งผลให้เกิดข่าวอื่นๆตามมาติดๆ ไม่ว่าข่าวเรื่องเรือดำน้ำรัสเซียถูกส่งเข้าไปประกบติดในน่านน้ำเดียวกัน ข่าวกองทัพซีเรียประกาศเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด พร้อมกับเครื่องบินรัสเซียและซีเรียเพิ่มอัตราการบินลาดตระเวนในแถบน่านน้ำซีเรียขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะเครื่องบินโจมตีของรัสเซียที่ฐานทัพ “Lattakia” ในซีเรียที่ถูกสั่งให้ติดจรวดต่อต้านเรือรบ Kh-35 เอาไว้เสร็จสรรพ ฯลฯ ฯลฯ บรรดาข่าวทำนองนี้คงต้องทยอยปรากฏออกมาเรื่อยๆ นับจากบัดนี้เป็นต้นไป...

แต่ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดที่เพิ่มความน่าขนหัวลุกยิ่งขึ้นเรื่อยๆ...คงต้องยอมรับว่า ท่าทีของผู้นำรัสเซีย อย่างประธานาธิบดี “วลาดิมีร์ ปูติน” นั้น แตกต่างไปจากผู้นำอเมริกาอย่าง “ทรัมป์บ้า” แบบคนละเรื่อง คนละม้วน คือแม้หลังจากที่ได้รับรู้ รับทราบการ “ทวิต” ของ “ทรัมป์บ้า” ไม่นานนัก ในงานฉลองพิธีแต่งตั้งทูตใหม่ของรัสเซียในช่วงวันพุธที่ผ่านมา ผู้นำรัสเซียรายนี้กลับไม่ได้ออกอาการตื่นเต้นกระวนกระวายใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย เพียงได้เอ่ยคำพูดสั้นๆ ซึ่งคงต้องเอาไปตีความ แปลความกันประมาณ 8 ตลบ 10 ตลบเป็นอย่างน้อย แต่สะท้อนท่าทีของรัสเซียที่ออกจะหนักแน่น มั่นคงแบบชนิดพูดน้อยต่อยหนักอะไรประมาณนั้น ด้วยการอธิบายถึงสถานการณ์โลกในปัจจุบันว่า “กำลังจะวุ่นวายหนักขึ้นๆ” โดยที่... “เราหวังว่าฝ่ายที่ยังมีสามัญสำนึกเบื้องต้น (หรือฝ่ายที่ไม่ถึงกับบ้า) จะเป็นฝ่ายที่ได้รับชัยชนะ อันจะช่วยทำให้ระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในโลกนี้ กลับเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความมีเหตุมีผลและการสร้างสรรค์ รวมทั้งช่วยให้ระเบียบโลกทั้งมวล เกิดเสถียรภาพและเป็นสิ่งที่สามารถคาดเดาได้...”

สรุปรวมความแล้ว...เอาเป็นว่า มัน “ใกล้จะยิงกันแล้ว” เต็มที และไม่ใช่การยิงกันในระดับธรรมดาๆ แบบประเทศใหญ่ไล่ยิงประเทศเล็ก หรือประเทศเล็กยิงตอบโต้กันไป-กันมา เพราะภายใต้การ “นับถอยหลัง” ภายใน 72 ชั่วโมง อย่างที่ “Eurocontrol” เขาได้ออกมาคาดหมายเอาไว้ก่อนล่วงหน้า การยิงคราวนี้...ไม่ว่าจะเริ่มต้นโดยเรือรบอเมริกา โดยมีกองทัพฝรั่งเศสและอังกฤษตามมาร่วมด้วยช่วยกันหรือไม่ ประการใด แต่คงหนีไม่พ้นต้องเจอการยิงตอบโต้จากกองทัพรัสเซีย โดยจะมีอิหร่านและจีนตามมาสมทบหรือเปล่า ก็ยังมิอาจคาดเดาได้ ส่วน “สาเหตุ” ที่ทำให้ต้องยิงใส่กันและกันนั้น มาถึง ณ ขณะนี้...คงแทบไม่มีใครคิดจะหยิบยกมาพูดถึงกันอีกแล้วว่าอะไรผิด-อะไรถูก อะไรดี-อะไรชั่ว อะไรถูกต้องเป็นธรรม ทั้งๆ ที่มันเป็นสิ่งที่สมควรจะพูดถึงให้มากๆ เข้าไว้ แต่เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างมันมักเป็นไปอย่างที่อดีตรัฐบุรุษและนักปรัชญาชาวโรมัน ผู้มีนามกรว่า “แซแนกา” (Seneca) เคยพูดๆ เอาไว้เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมานั่นแหละว่า... “Of war men ask the outcome, not the cause.” หรือ “ในเรื่องของสงคราม คนมักถามถึงผล...ไม่ถามถึงเหตุ” นับจากนี้...จึงคงต้องหันมาวัดกันที่...ใครชนะ-ใครแพ้...นั่นแล...


กำลังโหลดความคิดเห็น