ผู้จัดการรายวัน360 - โทษร้ายแรง มติกศจ.เอกฉันท์ 6 เสียงให้ไล่ออกอดีตผอ.สามเสน ในเหตุรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ แต่เจ้าตัวสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด หรือ กศจ.กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ที่ประชุม กศจ. มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ให้ไล่ออกนายวิโรฒ สำรวล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสน วิทยาลัย กรณีผิดวินัยร้ายแรง เรียกรับเงิน 4 แสนบาท เพื่อแลกกับการรับเด็กเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โดยจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ ทั้งบำเหน็จและบำนาญ โดยให้มีผลทันที เพื่อเป็นมาตรฐานในการลงโทษผู้กระทำความผิด และทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ทั้งนี้นายวิโรฒสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ก่อนการประชุม นายธนรัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 ได้มาเข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับว่า ตนมาในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายวิโรฒ ได้เดินทางมารายงานที่ประชุม กศจ.กทม. เกี่ยวกับผลงานและคุณงามความดีตลอดชีวิตราชการที่นายวิโรฒเคยประกอบมา และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาและขอความเมตตาจาก กศจ.กทม. อีกทั้งนายวิโรฒจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ด้วย ส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ กศจ.กทม. ตนไม่ขอก้าวล่วง
"แม้ในการประชุมครั้งนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กทม.เขต 1 จะนำผลงานของนายวิโรฒที่ได้เคยทำคุณงามความดีมาตลอดชีวิตราชการให้ กศจ.ประกอบพิจารณาด้วยนั้นก็ไม่สามารถนำมาอ้างได้ เพราะเราต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันโดยยึดมติ ครม.ฉบับดังกล่าว ซึ่งการพิจาณาโทษนายวิโรฒโดยไล่ออกจากราชการจะมีผลทัน"
ด้านนายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัด ศธ.ในฐานกรรมการ กศจ.และเลขานุการ กศจ.กทม. กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาโทษวินัยเฉพาะนายวิโรตเพียงรายเดียว ส่วนผู้เกี่ยวข้องอีก 2 รายนั้น คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้สรุปผลการลงโทษทางวินัยมาแล้ว แต่ยังต้องรอผ่านการพิจาณาจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการ กศจ.กทม.ก่อน.จากนั้นถึงจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ กศจ.ใหญ่ ที่มี ปลัด ศธ.เป็นประธาน ต่อไป
นายชนะ วงศ์มุสิก ศิษย์เก่าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนการรับเงินแป๊ะเจี๊ยะของ ผอ.ร.ร.สามเสนวิทยาลัย กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมการทำของ กศจ.กทม.ที่พิจารณาโทษอย่างเที่ยงตรงและเป็นธรรม เพราะจะส่งผลให้การรับนักเรียนเข้าเรียนปีนี้มีความโปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้ เพราะมีการขึ้นบัญชีสำรองไว้และให้เรียกตามลำดับในบัญชี ไม่ใช่ ผอ.โรงเรียนมีอำนาจเรียกใครก็ได้เหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตนไม่ได้ต่อต้านการบริจาคเงินให้โรงเรียนแต่ต้องเป็นการบริจาคที่โปร่งใสและมีใบเสร็จ
นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด หรือ กศจ.กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ที่ประชุม กศจ. มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ให้ไล่ออกนายวิโรฒ สำรวล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสน วิทยาลัย กรณีผิดวินัยร้ายแรง เรียกรับเงิน 4 แสนบาท เพื่อแลกกับการรับเด็กเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โดยจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ ทั้งบำเหน็จและบำนาญ โดยให้มีผลทันที เพื่อเป็นมาตรฐานในการลงโทษผู้กระทำความผิด และทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ทั้งนี้นายวิโรฒสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 30 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ก่อนการประชุม นายธนรัชต์ สมคเณ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 ได้มาเข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับว่า ตนมาในฐานะผู้บังคับบัญชาของนายวิโรฒ ได้เดินทางมารายงานที่ประชุม กศจ.กทม. เกี่ยวกับผลงานและคุณงามความดีตลอดชีวิตราชการที่นายวิโรฒเคยประกอบมา และไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาและขอความเมตตาจาก กศจ.กทม. อีกทั้งนายวิโรฒจะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ด้วย ส่วนผลการพิจารณาจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ กศจ.กทม. ตนไม่ขอก้าวล่วง
"แม้ในการประชุมครั้งนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กทม.เขต 1 จะนำผลงานของนายวิโรฒที่ได้เคยทำคุณงามความดีมาตลอดชีวิตราชการให้ กศจ.ประกอบพิจารณาด้วยนั้นก็ไม่สามารถนำมาอ้างได้ เพราะเราต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันโดยยึดมติ ครม.ฉบับดังกล่าว ซึ่งการพิจาณาโทษนายวิโรฒโดยไล่ออกจากราชการจะมีผลทัน"
ด้านนายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัด ศธ.ในฐานกรรมการ กศจ.และเลขานุการ กศจ.กทม. กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาโทษวินัยเฉพาะนายวิโรตเพียงรายเดียว ส่วนผู้เกี่ยวข้องอีก 2 รายนั้น คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงได้สรุปผลการลงโทษทางวินัยมาแล้ว แต่ยังต้องรอผ่านการพิจาณาจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการ กศจ.กทม.ก่อน.จากนั้นถึงจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ กศจ.ใหญ่ ที่มี ปลัด ศธ.เป็นประธาน ต่อไป
นายชนะ วงศ์มุสิก ศิษย์เก่าโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนการรับเงินแป๊ะเจี๊ยะของ ผอ.ร.ร.สามเสนวิทยาลัย กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมการทำของ กศจ.กทม.ที่พิจารณาโทษอย่างเที่ยงตรงและเป็นธรรม เพราะจะส่งผลให้การรับนักเรียนเข้าเรียนปีนี้มีความโปร่งใส เป็นธรรมและตรวจสอบได้ เพราะมีการขึ้นบัญชีสำรองไว้และให้เรียกตามลำดับในบัญชี ไม่ใช่ ผอ.โรงเรียนมีอำนาจเรียกใครก็ได้เหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตนไม่ได้ต่อต้านการบริจาคเงินให้โรงเรียนแต่ต้องเป็นการบริจาคที่โปร่งใสและมีใบเสร็จ