เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมชาวเชียงใหม่ รวมพลังร่วมจัดพิธีบวงสรวงสืบชะตาและบวชป่าเชิงดอยสุเทพติดพื้นที่โครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ประกาศจุดยืนเรียกร้องต้องยกเลิกโครงการเท่านั้น ด้านแม่ทัพภาค 3 เปิดค่ายรับฟังข้อมูลศาล-กลุ่มค้านสร้างบ้านพักบนดอย วันนี้ ยันไม่มีธง
เช้าวานนี้ (8 เม.ย.) เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และประชาชนชาวเชียงใหม่จำนวนมาก ที่ต้องการให้มีการยกเลิกโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ รวมตัวกันจัดกิจกรรมบวชป่าขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ โดยมีการนัดรวมตัวกัน ขี่จักรยานผูกริบบิ้นสีเขียวสัญลักษณ์การเรียกร้อง เริ่มจากบริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไปศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ผ่านศาลอุทธรณ์ ภาค 5 แล้วต่อไปยังบริเวณห้วยตึงเฒ่า ซึ่งอยู่เชิงดอยสุเทพ และมีพื้นที่ป่าติดกับโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ เพื่อร่วมกันทำพิธีสืบชะตา และบวชป่า ในบริเวณดังกล่าวตามความเชื่อแบบล้านนา
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการประกาศจุดยืนเรียกร้องให้มีการยกเลิกโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งเป็นการลงพื้นที่จริง ให้เห็นว่าสภาพป่าในบริเวณดังกล่าว ยังมีความอุดมสมบูรณ์ดี โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันขี่จักรยาน และเดินไปตามเส้นทางในป่า เพื่อสำรวจและดูพื้นที่ของโครงการก่อสร้างบ้านพัก ข้าราชการตุลาการด้วย
นอกจากนี้ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมด้วยภาคประชาชนและตัวแทนนักศึกษา ยังได้มีการอ่านจดหมายเปิดผนึก เพื่อประกาศจุดยืน และยืนยันข้อเรียกร้อง ก่อนที่จะมีการเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเจรจาหารือกรณีปัญหานี้ในวันนี้ (9 เม.ย.) ที่ห้องประชุมมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่
โดยเนื้อหาของจดหมายเปิดผนึก ยืนยันว่า การเรียกร้องของภาคประชาชนเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ต้องการเรียกร้องให้มีการคืนพื้นที่ป่าเฉพาะส่วนที่ก่อสร้างบ้านพักยื่นล้ำขึ้นไปทางส่วนบนเท่านั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับในส่วนของอาคารสำนักงาน และแฟลตที่พัก รวมทั้งโครงการของหน่วยงาน
ทั้งนี้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน เป็นป่าเขตกันชนรอยต่ออุทยานแห่งชาติ และล้ำขึ้นไปจากแนวการใช้ประโยชน์ของหน่วยงานอื่นๆ อย่างชัดเจน รวมทั้งยังอาจจะเป็นจุดเริ่มของการขยายพื้นที่ใช้ประโยชน์เขตราชพัสดุ ส่วนที่เป็นป่าดอยสุเทพลุกลามตามมา ทั้งนี้ยืนยันด้วยว่าเห็นควรต้องให้มีการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกแล้วฟื้นฟูพื้นที่ป่าตามหลักวิชาการ ส่วนความกังวลในแง่กฎหมายและงบประมาณที่ใช้ดำเนินการไปนั้น เสนอว่าสามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบงานกันตามสัญญา จากนั้นให้คืนพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ เพื่อจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมต่อไปได้.
ด้าน พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ในวันนี้ (9 เม.ย.) เวลา 9.30 น. ที่ค่ายกาลวิลละ จ. เชียงใหม่ ตนได้นัดตัวแทนของศาลอุทธรณ์ภาค 5 และกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างบ้านพักเชิงดอยสุเทพมาหารือ เพื่อรับฟังข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย ในลักษณะเปิดกว้าง โดยกองทัพภาคที่ 3 ทำหน้าที่เป็นคนกลาง เพื่อรับทราบทั้งท่าที และข้อมูลจากปาก ทั้ง 2 ฝ่ายโดยตรง เพราะที่ผ่านมาฟังจากทางสื่อโทรทัศน์ และโซเชียลมีเดีย เป็นหลัก
"ทหารจะไม่ตั้งธงคำถาม ให้สองฝ่ายได้พูดกันอย่างเต็มที่ เพราะทั้งสองฝ่าย ก็ได้ไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหา แต่เมื่อขณะนี้เกิดปัญหาขึ้น ก็ต้องร่วมกันแก้ไข โดยดูว่าแต่ละองค์กร ต้องการอะไร และมีท่าทีอย่างไร " แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว และว่า จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. ดำเนินการต่อไป
เช้าวานนี้ (8 เม.ย.) เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ และประชาชนชาวเชียงใหม่จำนวนมาก ที่ต้องการให้มีการยกเลิกโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ รวมตัวกันจัดกิจกรรมบวชป่าขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ โดยมีการนัดรวมตัวกัน ขี่จักรยานผูกริบบิ้นสีเขียวสัญลักษณ์การเรียกร้อง เริ่มจากบริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไปศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ผ่านศาลอุทธรณ์ ภาค 5 แล้วต่อไปยังบริเวณห้วยตึงเฒ่า ซึ่งอยู่เชิงดอยสุเทพ และมีพื้นที่ป่าติดกับโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ เพื่อร่วมกันทำพิธีสืบชะตา และบวชป่า ในบริเวณดังกล่าวตามความเชื่อแบบล้านนา
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการประกาศจุดยืนเรียกร้องให้มีการยกเลิกโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งเป็นการลงพื้นที่จริง ให้เห็นว่าสภาพป่าในบริเวณดังกล่าว ยังมีความอุดมสมบูรณ์ดี โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันขี่จักรยาน และเดินไปตามเส้นทางในป่า เพื่อสำรวจและดูพื้นที่ของโครงการก่อสร้างบ้านพัก ข้าราชการตุลาการด้วย
นอกจากนี้ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ พร้อมด้วยภาคประชาชนและตัวแทนนักศึกษา ยังได้มีการอ่านจดหมายเปิดผนึก เพื่อประกาศจุดยืน และยืนยันข้อเรียกร้อง ก่อนที่จะมีการเข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเจรจาหารือกรณีปัญหานี้ในวันนี้ (9 เม.ย.) ที่ห้องประชุมมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่
โดยเนื้อหาของจดหมายเปิดผนึก ยืนยันว่า การเรียกร้องของภาคประชาชนเป็นไปด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ต้องการเรียกร้องให้มีการคืนพื้นที่ป่าเฉพาะส่วนที่ก่อสร้างบ้านพักยื่นล้ำขึ้นไปทางส่วนบนเท่านั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับในส่วนของอาคารสำนักงาน และแฟลตที่พัก รวมทั้งโครงการของหน่วยงาน
ทั้งนี้ เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน เป็นป่าเขตกันชนรอยต่ออุทยานแห่งชาติ และล้ำขึ้นไปจากแนวการใช้ประโยชน์ของหน่วยงานอื่นๆ อย่างชัดเจน รวมทั้งยังอาจจะเป็นจุดเริ่มของการขยายพื้นที่ใช้ประโยชน์เขตราชพัสดุ ส่วนที่เป็นป่าดอยสุเทพลุกลามตามมา ทั้งนี้ยืนยันด้วยว่าเห็นควรต้องให้มีการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกแล้วฟื้นฟูพื้นที่ป่าตามหลักวิชาการ ส่วนความกังวลในแง่กฎหมายและงบประมาณที่ใช้ดำเนินการไปนั้น เสนอว่าสามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบงานกันตามสัญญา จากนั้นให้คืนพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ เพื่อจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมต่อไปได้.
ด้าน พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยว่า ในวันนี้ (9 เม.ย.) เวลา 9.30 น. ที่ค่ายกาลวิลละ จ. เชียงใหม่ ตนได้นัดตัวแทนของศาลอุทธรณ์ภาค 5 และกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างบ้านพักเชิงดอยสุเทพมาหารือ เพื่อรับฟังข้อมูลทั้ง 2 ฝ่าย ในลักษณะเปิดกว้าง โดยกองทัพภาคที่ 3 ทำหน้าที่เป็นคนกลาง เพื่อรับทราบทั้งท่าที และข้อมูลจากปาก ทั้ง 2 ฝ่ายโดยตรง เพราะที่ผ่านมาฟังจากทางสื่อโทรทัศน์ และโซเชียลมีเดีย เป็นหลัก
"ทหารจะไม่ตั้งธงคำถาม ให้สองฝ่ายได้พูดกันอย่างเต็มที่ เพราะทั้งสองฝ่าย ก็ได้ไม่ได้เป็นผู้สร้างปัญหา แต่เมื่อขณะนี้เกิดปัญหาขึ้น ก็ต้องร่วมกันแก้ไข โดยดูว่าแต่ละองค์กร ต้องการอะไร และมีท่าทีอย่างไร " แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าว และว่า จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการ คสช. ดำเนินการต่อไป