“โต ซิลลี่ฟูลส์” พร้อมพิธีกรคู่หู เข้าพบ “จุฬาราชมนตรี” รับฟังโอวาทข้อเสนอแนะ พร้อมชี้แจงไม่มีเจตนา เอ่ยปากอีกรอบ “ขอโทษที่ทำทุกคนเสียใจ” ด้าน “อาศิส” ให้ถือเป็นบทเรียน แนะศึกษาให้รอบคอบก่อนพูด
วานนี้ (5 เม.ย.) ที่มัสยิดกลางประจำ จ.สงขลา นายวีรชน ศรัทธายิ่ง หรือ โต อดีตนักร้องนำวง “ซิลลี่ฟูลส์” และ นายนภศูล หรือ ตาล รามบุตร ผู้ร่วมดำเนินรายการ “โต-ตาล” เข้าพบ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา เพื่อขอโทษจุฬาราชมนตรีและพี่น้องชาวพุทธที่ได้ทำให้ไม่สบายใจในคำพูด
นายอาศิส กล่าวว่าแสดงความดีใจที่นายวีรชนมุ่งมั่นในการเผยแพร่ศาสนา แต่ก็กล่าวเตือนว่า ไม่ควรไปวิพากษ์ศาสนาอื่นโดยไม่รู้จริง เพราะจะนำไปสู่ความแตกแยก และดีใจที่ได้ขอโทษขอโพยในคำพูดไปแล้ว
ขณะที่นายวีรชน กล่าวว่าตนขอโทษและเสียใจมากที่พูดไปกระทบกับศาสนาอื่นโดยไม่มีเจตนาร้าย เพียงแต่ตอบคำถามที่มีคนถามมาเท่านั้น หากมีการติดตามรายการของตน และตนจะยกคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้ตลอด และส่วนตัวก็ปฏิบัติตามหลักการของพระพุทธเจ้า
“ผมไม่สนับสนุนการแบ่งแยกศาสนา และต่อไปจะพูดเฉพาะศาสนาของผมนับถือเท่านั้น จะไม่ขอพูดถึงศาสนาอื่น ไม่พูดถึงความเชื่อของศาสนาอื่นและจะไม่พูดถึงใคร” นายวีรชน กล่าว
ด้าน ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีภาคใต้ กล่าวว่าคำสอนของศาสดาศาสนาอิสลามสอนไม่ให้เบียดเบียนศาสนาอื่น พวกเราอยู่ด้วยกันด้วยความปรองดองมาตลอด ไม่ว่าการกล่าววิพากษ์ในสิ่งที่เชื่อถือ ตนคิดว่าจะไม่เป็นรอยร้าวและแตกแยกในสังคมของประเทศ ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่ดีในการเผยแพร่ศาสนาไม่ควรวิพากษ์ศาสนาอื่น.
วานนี้ (5 เม.ย.) ที่มัสยิดกลางประจำ จ.สงขลา นายวีรชน ศรัทธายิ่ง หรือ โต อดีตนักร้องนำวง “ซิลลี่ฟูลส์” และ นายนภศูล หรือ ตาล รามบุตร ผู้ร่วมดำเนินรายการ “โต-ตาล” เข้าพบ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สงขลา เพื่อขอโทษจุฬาราชมนตรีและพี่น้องชาวพุทธที่ได้ทำให้ไม่สบายใจในคำพูด
นายอาศิส กล่าวว่าแสดงความดีใจที่นายวีรชนมุ่งมั่นในการเผยแพร่ศาสนา แต่ก็กล่าวเตือนว่า ไม่ควรไปวิพากษ์ศาสนาอื่นโดยไม่รู้จริง เพราะจะนำไปสู่ความแตกแยก และดีใจที่ได้ขอโทษขอโพยในคำพูดไปแล้ว
ขณะที่นายวีรชน กล่าวว่าตนขอโทษและเสียใจมากที่พูดไปกระทบกับศาสนาอื่นโดยไม่มีเจตนาร้าย เพียงแต่ตอบคำถามที่มีคนถามมาเท่านั้น หากมีการติดตามรายการของตน และตนจะยกคำสอนของพระพุทธเจ้ามาใช้ตลอด และส่วนตัวก็ปฏิบัติตามหลักการของพระพุทธเจ้า
“ผมไม่สนับสนุนการแบ่งแยกศาสนา และต่อไปจะพูดเฉพาะศาสนาของผมนับถือเท่านั้น จะไม่ขอพูดถึงศาสนาอื่น ไม่พูดถึงความเชื่อของศาสนาอื่นและจะไม่พูดถึงใคร” นายวีรชน กล่าว
ด้าน ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ผู้ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีภาคใต้ กล่าวว่าคำสอนของศาสดาศาสนาอิสลามสอนไม่ให้เบียดเบียนศาสนาอื่น พวกเราอยู่ด้วยกันด้วยความปรองดองมาตลอด ไม่ว่าการกล่าววิพากษ์ในสิ่งที่เชื่อถือ ตนคิดว่าจะไม่เป็นรอยร้าวและแตกแยกในสังคมของประเทศ ครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่ดีในการเผยแพร่ศาสนาไม่ควรวิพากษ์ศาสนาอื่น.