xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ"รัฐบาล-สนช."เปิดช่อง ฝ่ายการเมืองเอาคืน... ก็ต้องเอาจนเละ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายอะไรมันก็ย่อมไม่ค่อยเป็นใจ อย่างที่เห็นในเวลานี้ แทบทุกเรื่องทั้งรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่มักจะโดนโจมตีกล่าวหาแทบทุกเรื่อง ล่าสุดเวลานี้ได้พ่วงเอา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าไปด้วย กรณีถูกระบุว่ามีเจตนา"สมคบคิด" กันออกกฎหมายให้เกิดปัญหา ซึ่งจะว่าไปแล้ว ทั้งสามองค์กรดังกล่าวก็มีที่มาจากที่เดียวกัน นั่นคือ มาจากคสช.นั่นแหละ ตามองค์ประกอบของรัฐบาล "เผด็จการ" เพียงแต่ว่าในช่วงแรกๆ ยังอยู่ในช่วงความนิยมศรัทธายังสูงอยู่ คนจึงหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงเท่านั้นเอง
แต่มาวันนี้ เมื่อทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้าม จนความศรัทธาเริ่มหดหาย จากบางเรื่องที่ทำให้ชาวบ้านเกิดความเบื่อหน่าย เสียงวิจารณ์แบบนี้ก็ต้องตามมาแน่นอน ขณะเดียวกันมันไม่ได้นอกเหนือไปจากความเป็นจริงเสียด้วย
กรณีที่เกิดขึ้นกับกฎหมายลูกสองฉบับ คือ ร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว. และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่กำลังถูกวิจารณ์จนแตกตัวออกไปได้หลายประเด็นในเวลานี้ หลังจากมีการทักท้วงจาก "มีชัย ฤชุพันธุ์" ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และประธานคณะกรรมาธิการร่างกฎหมายทั้งสองฉบับดังกล่าว ว่ามีเนื้อหาที่แก้ไขขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ จนทำให้ สนช. ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยไปแล้วก่อนหน้า
ล่าสุด ก็มีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า จะมีการยื่นให้วินิจฉัยตามไปอีกฉบับ คือ ร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่มีอยู่สองทางเลือก คือ จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จากสภานิติบัญญัติมาแล้ว ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความโดยตรงหรือไม่ หรือว่าอีกช่องทางหนึ่ง ทางสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าชื่อกันยื่นตีความอีก ก็ได้
**แต่คำถามก็คือ ในเมื่อทุกองคาพยพดังกล่าวล้วนมาจากต้นตอเดียวกัน เหมือนกับออกมาจาก "มดลูกเดียวกัน" คือ คสช. ทำไมถึงไม่เคลียร์กันก่อนให้เรียบร้อย อาจจะอ้างว่ามีการแยกอำนาจ แยกบทบาทออกไปเป็นอิสระ ได้โปรดอย่าอ้างแบบนั้นเลย เพราะคงไม่มีใครเชื่อถือ เพราะเวลานี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ถูกมองเป็น "สภาฝักถั่ว" อยู่แล้ว แล้วแต่ว่าจะได้รับสัญญาณมาแบบไหน
วกกลับมาที่ร่างกฎหมายสองฉบับดังกล่าว ที่ถูกระบุว่า "แก้ไขจนมั่ว" ซึ่งก่อนหน้านี้ แม้แต่ มีชัย ฤชุพันธุ์ ก็เคยระบุมาแล้วว่า สนช. แก้ไขในสาระสำคัญ และนำมาสู่การยื่นตีความนั่นแหละ
อย่างไรก็ดี สำหรับร่าง พระราชบัญญัติว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.นั้น หากพิจารณากันตามความเป็นจริงนั้น ที่จริงก็คงอยากจะยื่นให้ตีความไปพร้อมๆกัน เพียงแต่ว่า"คงไม่กล้า" เพราะเกรงว่าจะกลายเป็น "จำเลยสังคม" ฝ่ายเดียว เพราะหากยื่นตีความ นั่นก็เสี่ยงที่จะทำการเลือกตั้ง ต้องยืดออกไปจากที่กำหนดเอาไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 62 ต้องเลื่อนออกไปอีก จึงต้องกัดฟันส่งร่างกฎหมายฉบับนี้ไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตัดสินใจ
** ซึ่งล่าสุดก็มีแนวโน้มชัดว่าจะ "ยื่นตีความ" เพียงแต่ว่าจะไปจากเส้นทางไหน นายกฯ ยื่นเอง หรือว่า ให้สนช.เข้าชื่อกันยื่น พร้อมกับทำหนังสือ "วิงวอนศาลฯ" ให้เร่งพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ อะไรประมาณนี้แหละ เพียงแต่ว่าถึงอย่างไรมันก็เสี่ยงในแง่ที่ว่า หากศาลฯ ตีความออกมาขัดรัฐธรรมนูญ มันก็ "โป๊ะเช๊ะ" ต้องตกไปทั้งฉบับ แล้วนับหนึ่งใหม่ ร่างกันใหม่ ทีนี้แหละ ไม่อยากจะนึกภาพว่าจะ "เละ" กันขนาดไหน
ล่าสุดก็ชัดแล้วว่า สนช. จะยื่นตีความเอง โดยมีการรวบรวมรายชื่อได้ครบ 25 คน ตามรัฐธรรมนูญกำหนด แล้วส่งให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัยประธานสนช. ลงนามในหนังสือ แล้วยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยร่างกฎหมายฉบับนี้ในประเด็นที่สงสัยต่อไป
ที่จริงหากจะตำหนิ สนช. ฝ่ายเดียวก็คงไม่ถูกต้องนัก หากจะโทษก็ต้องโทษฝ่ายรัฐบาล และคสช.ด้วย โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดูเหมือนว่า ยังไม่พร้อมให้เกิดการเลือกตั้งตามกำหนด สาเหตุก็ไม่มีอะไรซับซ้อนจนเข้าใจยาก เพียงแค่เวลานี้ "ศรัทธากำลังถดถอย" สะเทือนต่อเก้าอี้นายกฯ คนนอกในอนาคตที่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้วมัน "ผิดแผน"ไปหมด จึงต้องหาทางยื้อออกไป เริ่มจากการแก้ไขในบทเฉพาะกาล ให้มีการเลื่อนบังคับใช้กม.เลือกตั้ง ส.ส. ออกไปอีก 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอนนั้นก็เริ่มเห็นสัญญาณบางอย่างแล้ว
**และนำมาสู่การแก้ไขกฎหมายในหลายมาตรา จน มีชัย ฤชุพันธุ์ ต้องออกปากเตือน และในที่สุด ก็ใช้ไม้ตาย ทำเป็นลายลักษณ์อักษร เตือนถึง"หายนะ" หากยังดึงดันต่อไป เพราะมันจะสะเทือนหลังการเลือกตั้ง หากมีคนไปร้องเรียน จนอาจทำให้ทุกอย่างเป็นโมฆะขึ้นมา
แน่นอนว่า เมื่อเรื่องราวเป็นอย่างที่เห็น มันก็ย่อมเปิดช่องให้ "ฝ่ายพรรคการเมือง" ที่จ้องจะเอาคืนอยู่แล้ว ก็ย่อมได้ทีซัดเต็มเหนี่ยว และ"แท็กทีม" กันระหว่างสองพรรคใหญ่ คือ เพื่อไทย กับประชาธิปัตย์ โดยพวกเขาซัดไม่ยั้งว่า นี่คือ "แผนสมคบคิดกัน" ระหว่างรัฐบาลและสนช. ที่มีเจตนาทำให้ปั่นป่วนเพื่อหวังให้"เลื่อนการเลือกตั้ง" ออกไปให้ยาวนานที่สุด ซึ่งหากพิจารณาจากภาพรวมตั้งแต่ต้นจนมาถึงวันนี้ มันก็เข้าเค้าเสียด้วย
** ถึงนาทีนี้ หากยื่นตีความแล้วมันก็ย่อมคาดการณ์กันได้อีกว่า การเลือกตั้งน่าจะต้องเลื่อนออกไปจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ยาวไปอีก จะเป็นอีก 6 เดือน หรือ 1 ปี ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่ขณะเดียวกัน คนที่ต้องถูกยำเละ ก็ต้องหนีไม่พ้น "ลุงตู่" นั่นแหละ ซึ่งมันก็มีแนวโน้มเละแบบที่ว่าจริงๆ เสียด้วย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น