ผู้จัดการรายวัน360- กสอ.เตรียมเสนอ"อุตตม" เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเตรียมเสนอแผนสร้าง ไทยแลนด์ กู๊ด เทคโนโลยี แพลตฟอร์มจับคู่ธุรกิจเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรมไทย 1,400 รายประเดิมเม.ย.นี้ หวังเชื่อมโยงกับ เจ กู๊ด เทคฯ จับคู่กับญี่ปุ่น พร้อมเร่งปั้นเอสเอ็มอีเกษตรแปรรูป 600 กลุ่ม ขับเคลื่อน CIV สร้างรายได้เพิ่มชุมชน
ด้าน สนช. จ่อผ่าน ร่างงบฯ เพิ่มเติม ปี 61 จำนวน 1.5 แสนล้าน 3 วาระรวด หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก "บิ๊กป๊อก" ปัดใช้งบหาเสียงปูทางเลือกตั้ง อ้างกระจายลงสู่ทุกหมู่บ้านเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมเผยกำหนดการนายกฯ ลงพื้นที่หนองบัวลำภู เร็วๆ นี้
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) เปิดเผยว่า เดือนเม.ย.นี้ กสอ.จะเสนอแผน "ไทยแลนด์ กู๊ด เทคโนโลยี หรือ ที กู๊ด เทคฯ" ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม ออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มเอ็มอีในภาคอุตสาหกรรมไทยในการกระตุ้นและสร้างความสะดวกให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ(แมทชิ่งบิสซิเนส) โดยตั้งเป้าหมายคัดเลือกเอสเอ็มอีไทยที่ผ่านคุณสมบัติด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ ยอดขาย ระบบบัญชี เข้าระบบนี้ 1,400 รายจากทั่วประเทศกระจายในทุกอุตสาหกรรม อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ อาหาร ไอที สิ่งทอ
"แพลตฟอร์มนี้จะไปเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มออนไลน์กับ เจ กู๊ดเทคฯ (เจแปน กู๊ด เทคโนโลยี) ที่เป็นฐานข้อมูลที่มีเอสเอ็มอีญี่ปุ่น 5,0000 รายและเอสเอ็มอี 1,400 รายอยู่แล้ว ซึ่งแพลตฟอร์มนี้เกิดจากองค์การขนาดกลางและขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งญี่ปุ่น (เอสเอ็มอาร์เจ) ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ลงนามความเข้าใจ(เอ็มโอยู) กับเอสเอ็มอาร์เจไว้เมื่อต้นปี 2560 แต่ทีกู๊ดเทคฯ เอสเอ็มอี 1,400 รายจะเป็นรายใหม่จากนั้นจะเชื่อมโยงและแมทชิ่งกันได้"นายกอบชัยกล่าว
ขณะเดียวกัน จะเร่งขับเคลื่อนโครงการพี่ช่วยน้อง(บิ๊ก บราเธอร์) ที่ขณะนี้มีเอกชนรายใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการที่จะเข้ามาพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแล้วทั้งสิ้น 317 ราย โดยแต่ละรายจะให้ความร่วมมือในการเข้าไปช่วยเหลือ 4 ด้าน คือ หมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (CIV) ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ICT) เกษตรแปรรูป และการตลาดเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ ร้านค้าสวัสดิการ และตลาดต่างประเทศ
นอกจากนี้ กสอ.ยังมีโครงการปั้นนักธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปไทย (เอสเอ็มอีเกษตร) มีกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ 600 กลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างผู้ประกอบการภาคเกษตร 100 กลุ่ม หรือประมาณ 55,000 ราย และสร้างรายได้ภาพรวมเพิ่มขึ้น 2-5% ภายในปีนี้
***สนช.จ่อผ่านร่างงบฯ 61 เพิ่ม 1.5 แสนล.
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษก วิปสนช. แถลงว่า ในการประชุมสมาชิกสนช. วันที่ 22 มี.ค.นี้ จะพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ที่ ครม.เป็นผู้เสนอ วงเงิน 150,000 ล้านบาท ซึ่งร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว มีทั้งหมด 18 มาตรา โดยจะเป็นการพิจารณา 3 วาระรวด เพราะเนื่องจากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินในการดำเนินการตามโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อรักษาความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่มีการขยายตัวให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
**"บิ๊กป๊อก"ปัดทุม3หมื่นล.ปูทางเลือกตั้ง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึง กรณีกระทรวงมหาดไทยได้รับงบกลางปี จำนวนมากและถูกตั้งข้อสังเกตจะใช้ขับเคลื่อนนโยบายไทยนิยมยั่งยืน ว่า งบประมาณ 3 หมื่นกว่าล้านบาทนั้น งบก้อนใหญ่สุดประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จะให้กับหมู่บ้าน ชุมชน 82,000 กว่าแห่ง ตกหมู่บ้านละ 2 แสนบาท ซึ่งการทำแผนงาน จะมีการตรวจสอบตามขั้นตอน และตนได้สั่งการให้นำภาคเอกชน ประชาสังคม มาร่วมพิจารณา และเบิกจ่ายตรงโดยคณะกรรมหมู่บ้าน โดยไม่ผ่านกระทรวงมหาดไทย เพื่อความโปร่งใสเพราะคิดว่าเวลาผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ นายกฯ คงมาสอบถาม ว่ามีการทุจริตตรงไหนบ้าง การให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมถือเป็นการฉีดวัคซีนไว้ก่อน และจะไม่ให้ซ้ำซ้อนกับโครงการไทยนิยมยั่งยืน
ส่วนงบอีก 2,500 ล้านบาท จะสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยมอบให้กับชุดที่จะตรวจสอบผู้ถือบัตรตามที่ใช้จริง และงบที่เป็นของมหาดไทยโดยตรง คืองบกว่า 9,000 ล้านบาท เป็นงบพัฒนาโครงการโอทอป
เมื่อถามว่าการใช้งบประมาณเช่นนี้ จะถูกมองว่าเป็นการปูทางไปสู่การเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มี ที่ผ่านมาทุกคนต่างรู้ว่าเศรษฐกิจภาพรวมดี แต่ฐานรากยังไม่ดี หน้าที่ของรัฐบาลคือ เข้าไปแก้ระดับฐานรากให้ประชาชนมีรายได้เพิ่ม ส่วนใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ต่อให้ทำอย่างไร คุณก็วิจารณ์ทั้งนั้น ส่วนที่นายกฯจะลงพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู นั้น ผู้กำหนดกำหนดการ คือสำนักนายกรัฐมนตรี หากรู้ว่าจุดหมายคือที่ใดจะไปดูความเรียบร้อยในพื้นที่นั้น