xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯขอนแก่นนำทีม"กราบขออภัย" กรณีเอกสาร "ประชาชนหายโง่"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ว่าฯ ขอนแก่น นำทีมเปิดแถลงข่าว "กราบขออภัย" พี่น้องประชาชน กรณีถ้อยคำไม่เหมาะสม "ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่" โผล่ในหนังสือราชการ พร้อมขอชาวไทยให้โอกาสใหม่ จะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำ ด้านเจ้าตัวผู้พิมพ์หนังสือฉบับเจ้าปัญหา เป็นถึง หน.ฝ่ายบริหารทั่วไป สำนักส่งเสริมปกครองท้องถิ่น ก็กราบขออภัยด้วยเช่นกัน ยันไม่มีเจตนาใช้ถ้อยคำดูหมิ่น รองผู้ว่าฯ ขอโทษ ไม่ดูเอกสารให้ถี่ถ้วนก่อนเซ็น ด้าน อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ยอมรับ เอกสาร "หายโง่" บทเรียนสำคัญ แจงมีนโยบายแก้ไข "โง่ จน เจ็บ"

จากกรณีสังคมออนไลน์ มีการแชร์เอกสารราชการ หนังสือ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.ขอนแก่น เป็นผู้ออกหนังสือ เลขที่ ขก.0023.1/7063 เรื่อง ขอเชิญประชุมเพื่อเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรี จะเดินทางประชุมครม.สัญจร ลงนามโดย นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น ปฏิบัติราชการแทน ผวจ.ขอนแก่น ออกเมื่อวันที่ 9 มี.ค. 61

โดยเนื้อหาในหนังสือดังกล่าวระบุว่า จ.ขอนแก่น ได้รับมอบหมายภาระกิจให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.ขอนแก่น ศึกษาธิการจังหวัด เขตพื้นที่การศึกษา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ร่วมกันดำเนินการในภารกิจ “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่”

แม้ว่าต่อมาได้มีหนังสืออีกฉบับหนึ่ง โดยผู้ลงนามคนเดียวกันคือ นายสุชัย บุตรสาระ รองผวจ.ขอนแก่น โดยเป็นหนังสือที่อ้างถึง หนังสือเลขที่ 0023.1/7063 ออกเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 61

เนื้อหาเนื้อสือฉบับนี้ ระบุว่า ตามที่ จ.ขอนแก่นได้แจ้งเชิญประชุมเตรียมการต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 มี.ค.61 ณ ห้องประชุมศรีบริรักษ์ ชั้น 5 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น โดย จ.ขอนแก่น ศึกษาธิการจังหวัด เขตพื้นที่การศึกษา และสำนักงานสาธารณสุข ร่วมกันดำเนินการในภาพกิจด้านการศึกษา นั้น

เนื่องจากหนังสือดังกล่าว มีถ้อยคำทีไม่เหมาะสม ทำให้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ จึงขอเชิญท่าน หรือผู้ท่านร่วมประชุมเพื่อรว่วมหารือแนวทางในการดำเนินการในภารกิจ “ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้ความเท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง”ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวข้างต้น

วานนี้ (18 มี.ค.) นายสุชัย บุตรสาระ รอง ผวจ.ขอนแก่น ได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องนี้ว่า ตนเองไม่ทราบเนื้อหา และความเป็นมาของโครงการนี้ แต่เนื่องจากในห้วงเวลาในการลงนามในหนังสือขอเชิญประชุม เพื่อเตรียมการต้อนรับนายกฯนั้น ผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินการภารกิจ ทำอย่างไรให้ประชาชนมีความรู้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลง ไม่อยู่ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการในต่างจังหวัด ทำให้ตนซึ่งปฏิบัติราชการแทน ผวจ.ขอนแก่น ได้ลงนามในหนังสือดังกล่าว โดยต้นเรื่อง คือ สำนักงานส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น จ.ขอนแก่น ได้ร่างหนังสือนี้ เสนอขึ้นมา ให้เสนอมายังตน ให้ลงนามใน หนังสือเวียน ไปยังส่วนราชการต่างๆ

"ปัญหาที่เกิดขึ้น ผมในฐานะรอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นผู้ลงนามหนังสือกับมือ มีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก จึงอยากขอโทษประชาชนที่เห็นหนังสือดังกล่าวแล้วนั้น จากการที่ใช้ ถ้อยคำอันไม่เหมาะสม" นายสุชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และมีน้ำตาซึม

นายสุชัย กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องเป็นข่าวใหญ่โตเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผวจ.ขอนแกาน จึงได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหน่วยงานที่ร่างหนังสือดังกล่าว โดยให้ทราบผลภายใน 7 วัน

นายสุชัย กล่าวย้ำว่า ตนไม่มีเจตนาดูถูกเหยียดหยามประชาชนแต่อย่างใด ตนรับราชการมากว่า 30 ปี เกือบครึ่งของชีวิต รับราชการในจ.ขอนแก่น เริ่มตั้งแต่เป็นปลัดอำเภอ จนเป็นนายอำเภอ หลายอำเภอใน จ.ขอนแก่น ได้กระทำคุณงามความดีมาโดยตลอด เป็นที่ประจักษ์ในสังคม

"ผมไม่มีเจตนาที่จะคิดไม่ดี หรือทำสิ่งไม่ดีกับประชาชน ผมเป็นคนขอนแก่น เป็นคนอีสาน ไม่มีความรู้สึกที่ไม่ดี ต่อคนขอนแก่น และชาวไทยทุกคน ไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นดูแคลนประชาชนคนไทยใดๆ ทั้งสิ้น และข้อความดังกล่าว ทางต้นเรื่องก็ไม่มีเจตนาจะดูแคลนประชาชน ซึ่งในเรื่องนี้ ผวจ.ขอนแก่น ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าใครเป็นคนตั้งหัวข้อนี้" นายสุชัย กล่าว

ต่อมาเวลา 16.40 น.วันเดียวกันนี้ นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมรองผู้ว่าฯ, หัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด พร้อมด้วย นางพรทิพย์ ขำชื่น หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จ.ขอนแก่น ได้แถลงข่าวเรื่องนี้อีกครั้ง

โดยนายสมศักดิ์ เริ่มต้นการแถลงข่าวครั้งนี้ ด้วยการยกมือพนม พร้อมกล่าวว่า ขอกราบพ่อแม่พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ และพี่น้องประชาชนชาวขอนแก่น ต้องกราบขออภัยแทนคณะเจ้าหน้าที่ รองผู้ว่าฯ หัวหน้าสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ผู้พิมพ์เอกสารเชิญประชุมที่ผิดพลาดใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม จนสร้างความไม่สบายใจให้แก่พี่น้องชาวไทยเป็นอย่างมาก

"กราบขออภัย ที่เกิดเหตุเกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม จนมีการนำไปโพสต์เผยแพร่ในโลกโซเชียลฯ โอกาสนี้ จึงอยากขอโอกาสให้ท่านได้ให้อภัยกับความผิดพลาด ที่เกิดขึ้น เปลี่ยนไปเป็นพลังในการช่วยกันขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัด พัฒนาสังคม พัฒนาประเทศชาติให้ไปสู่เป้าหมายความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชน" นายสมศักดิ์ กล่าวและว่า

หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ตนก็ได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง จำนวน 5 คน มีหัวหน้าสำนักงานจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน ผลสอบออกมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา และทราบว่า ทันทีที่ท่านรองผู้ว่าฯ สุชัย ทราบเรื่อง ในวันที่ 9 มี.ค. ว่ามีข้อผิดพลาด ก็ได้สั่งให้ทำหนังสือราชการฉบับดังกล่าวขึ้นมาใหม่ ออกในวันที่ 12 มี.ค. 60 เพื่อให้ทันนัดประชุม ในวันที่ 13 มี.ค. 60

ผลจากการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่า เป็นความผิดพลาดการใช้ถ้อยความ “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่”ไม่มีเจตนาหมิ่นดูแคลนประชาชนแต่อย่างใด เบื้องต้นก็ได้ลงโทษด้วยการว่ากล่าวตักเตือน ให้เข้มงวดรอบคอบการใช้ถ้อยคำตัวอักษรเพิ่มมากขึ้น ในการร่างพิมพ์เอกสารทางราชการ

ด้านนางพรทิพย์ ขำชื่น หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นผู้ร่างพิมพ์หนังสือราชการฉบับมีปัญหาดังกล่าว กล่าวชี้แจงถึงสาเหตุที่เกิดข้อผิดพลาดในการใช้ถ้อยคำ เพราะเป็นงานเร่งด่วนที่ต้องเร่งรีบดำเนินการ หลังจากพิมพ์เสร็จ ก็ได้อ่านทบทวนความถูกต้อง และคิดว่าการใช้ถ้อยคำที่ว่า “ทำอย่างไรให้ประชาชนหายโง่”จะเป็นถ้อยคำที่จะเกิดปัญหาตามมาภายหลัง ไม่มีเจตนาจะใช้ถ้อยคำที่เป็นการดูหมิ่นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ขอกราบขออภัยต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วย

ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวยอมรับว่า เอกสารที่เห็นเป็นของจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี

"จังหวัดมีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาวัฏจักรชีวิตคน คือ โง่ จน เจ็บ โดยได้เชิญทุกฝ่ายมาหารือร่วมกันว่า จะแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่คงร่างหนังสือด้วยความไม่รอบคอบ เพราะเป็นงานด่วน แต่จะโทษเขาก็ไม่ได้ เพราะผู้บังคับบัญชา ต้องรับผิดในสิ่งที่ตนเองได้ลงนามไปด้วย แต่เมื่อ รอง ผวจ.ขอนแก่น ไม่ได้มีเจตนา ก็ควรให้อภัยกัน เพราะท่านก็มีเจตนาดี ที่จะทำเพื่อประชาชน" นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า นายสุชัย ก็เป็นคนอีสาน เป็นลูกเป็นหลาน เติบโตที่นั่น และจะเกษียณที่นั่น ดังนั้น ท่านจะไปดูถูกประชาชนที่นั่นได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จะถือเป็นบทเรียนให้ทั้งทาง จ.ขอนแก่น และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ต่อไปก็ต้องทำงานด้วยความรอบคอบ เรื่องนี้เมื่อนายสุชัย รู้ว่ามีการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ก็ทำเอกสารเวียนด้วยตัวท่านเอง เพื่อแจ้งยกเลิก และเปลี่ยนถ้อยคำใหม่ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตคน

"ประชาชนก็ควรเห็นใจ และให้โอกาสท่าน เพราะคนเราก็ต่างต้องเคยผิดพลาด นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ในการประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับ ผวจ.ทุกจังหวัด นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับในที่ประชุมว่า ให้ ผวจ.ระมัดระวัง และรอบคอบในการลงนามในหนังสือด้วย" นายสุทธิพงษ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น