บิ๊กตู่อ้างยังไม่มีใครทาบทาม...กั๊กกุนซือพรรค-"วิษณุ"แบไต๋กฎหมายไม่ห้าม

ผู้จัดการรายวัน 360- "บิ๊กตู่" ปัดไม่รู้เห็นการตั้งพรรคพลังประชารัฐ แต่ยังกั๊กว่าจะไปเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือไม่ บอกยังไม่มีใครมาทาบทาม ลั่นไม่ยุบคสช.-ไม่ลาออกจากนายกฯ ไล่ให้ไปดูรธน. มาตรา 265 ที่เขียนไว้ขัดว่า คสช.ต้องอยู่จนกว่าจะมีครม.ใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ขัดข้องหาก "มีชัย"จะยื่น ศาลรธน.ตีความ กม.ลูกส.ส.-ส.ว. เพื่อความชัดเจน แต่วันเลือกตั้ง ต้องไม่เลื่อนไปจาก ก.พ.62 "วิษณุ" แบไต๋ นายกฯ นั่งที่ปรึกษาพรรคได้ กฎหมายไม่ห้าม

วานนี้ (13 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงกรณีการจัดตังพรรคพลังประชารัฐ ว่า "ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรสักอย่างกับพรรคพลังประชารัฐ ก็รู้จากหนังสือพิมพ์ "

เมื่อถามว่าถ้าจำเป็นต้องตัดสินใจ จะเลือกพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ และจะรับนั่งเป็นประธานที่ปรึกษา ด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ยังไม่รู้เหมือนกัน และวันนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครเชิญผมไปนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาพรรคเลย มีแต่พูดกันไป และผมจะตัดสินใจอย่างไร ก็ไม่ทราบเช่นกัน ขอเวลาทำงานในส่วนของผมไปก่อน การเมืองยังมีเวลาว่ากันต่อไป"

ส่วนกรณี "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" เรียกร้องให้ยุบคสช. เพื่อให้เป็นรัฐบาลรักษาการ ในช่วงเตรียมการเลือกตั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รธน. มาตรา 265 เขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า คสช.ต้องทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น "การที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เสนอให้ยุบ คสช. นั้นจึงเป็นไปไม่ได้ ถ้าสงสัยอะไร ให้ไปดูคำตอบก่อนหน้านี้ "

เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคการเมืองใหม่ ประกาศสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็สนับสนุนกันหมด เพราะเป็นเรื่องการเมือง ที่เดินกันไป ซึ่งก็มี 2 พวกคือ พวกที่สนับสนุน กับพวกที่ไม่สนับสนุน คือฝ่ายหนึ่งต้องการปฏิรูป อีกฝ่ายไม่ต้องการปฏิรูป หรือฝ่ายหนึ่งต้องการให้ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิม ก็จะมีความวุ่นวายแบบเดิมๆ อีกฝ่ายไม่ต้องการให้เกิด สรุปก็ไม่ความพอดีสักอย่าง ก็เป็นตัวชี้ว่า อนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นมา ซึ่งมันก็ไม่แน่ อาจจะเกิด หรือไม่เกิดก็ได้ เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องติดตามความเคลื่อนไหวของแต่ละพรรคการเมือง

"วันนี้อย่าลืมว่า คสช. ยังมีอำนาจอยู่ตรงนี้ ในการรักษาความสงบของบ้านเมือง ซึ่งทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากจะฝ่าฝืนกันอีก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าเสน่ห์ของตัวเอง อยู่ตรงไหน ทำไมพรรคการเมืองใหม่ จึงอยากทาบทามให้เป็นนายกฯ คนนอก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "มันเกี่ยวกับเสน่ห์ตรงไหน เสน่ห์เป็นเรื่องของการจีบสาว ตอนนี้ผมไม่ได้จีบสาว ผมไม่มีเสน่ห์หรอก พูดจาก็เป็นแบบนี้ เสน่ห์คงไม่มีเท่าไหร่"

เมื่อถามว่า รู้สึกกดดันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกดดันเลย เพราะไม่ได้คิดอะไรมาก บอกแล้วว่า ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ ว่าต้องการจะให้ประเทศชาติเป็นอย่างไรต่อไป ต้องการปฏิรูปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ประชาชนจะตัดสินในการเลือกตั้ง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ว่าแต่ละพรรคเสนอนโยบายอะไรออกมาบ้าง โดยเฉพาะนโยบายทางการเมืองของแต่ละพรรค

ส่วนความเห็นที่เสนอให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง หากจะตัดสินใจลงเล่นการเมืองนั้น ก็สงสัยว่าในสมัยก่อนเวลาที่นักการเมืองเป็นรัฐบาล เขาลาออกกันหรือไม่ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ มันเป็นคนละเรื่องกันทั้งหมด ขอร้องว่าอย่าไปทำให้เกิดการบิดเบือน อย่าทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันอีก เพราะไม่เช่นนั้น ประชาชนก็จะรังเกียจคสช. เกลียดตน

"อยากให้ย้อนกลับไปดูในสมัยก่อน นายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ประกาศลงเลือกตั้ง ก็สามารถลงไปหาเสียงได้ ในขณะที่ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วยซ้ำไป วันนี้ผมยังไม่ได้เป็นอะไรสักอย่าง แล้วผมก็ไม่ได้หาเสียงด้วย ยังทำงานอยู่อย่างหนัก เพื่อจะทำให้ประเทศชาติเกิดการเปลี่ยนแปลง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนกรณี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. เตรียมยื่นศาลรธน. เพื่อให้ตีความ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. จะทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปจากโรดแมปเดิมคือ ก.พ.62 หรือไม่ว่า ก็แล้วแต่ การเลือกตั้งไม่เลื่อน ไม่มีล่าช้า ต้องเป็นไปตามกำหนดก.พ. 62 เว้นแต่มีอะไรที่เราบังคับไม่ได้ คือจริงๆ แล้ว มันก็ไม่อยากให้มีการไปฟ้องร้องอะไรต่างๆ แต่ตนว่าเขาเป็นห่วง สิ่งที่เขาชี้แจงมา ซึ่งตนฟังจากสื่อ ท่านพูดว่าเป็นห่วงว่า วันข้างหน้าจะถูกฟ้อง และถ้าถูกฟ้องขึ้นมา พ.ร.ป. สองฉบับนี้ จะเป็นปัญหา การเลือกตั้งอะไรต่างๆ ก็จะทำให้เป็นปัญหาหมด มันจะทำให้วุ่นวายสับสนอลมานไปหมด เอาเสียให้ชัดในตอนนี้

"ผมก็บอกแล้วว่า ขอให้ทำอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด ผมพูดไปอย่างนี้ ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงก็ได้เลือกตั้ง แต่ปัญหาของผมคือ ทำอย่างไร บ้านเมืองจะสงบเรียบร้อย ทำอย่างไร จะไม่มีคนไปส่งเสริมสนับสนุนคนที่ออกมาเคลื่อนไหวผิดๆ ถูกๆ อ้างเหตุผลนู้นนี่ไปหมด ในเมื่อบอกกุมภาฯ ก็คือกุมภาฯ แล้วจะมาเร่งเลือกตั้งอะไร จะมาไล่ คสช.ได้อย่างไร ผมก็ไม่เข้าใจ แล้วมาอ้างว่าอำนาจอยู่ที่ประชาชน ก็ใช่ อำนาจประชาชนต้องไปใช้ในตอนนู้น จะมาใช้ตอนนี้ไม่ได้ เพราะเราต้องการให้บ้านเมือสงบสุข ต้องขอกันด้วยเหตุ ด้วยผล ผมไม่ต้องการใช้กฎหมายเพื่อให้ผมมีอำนาจเยอะๆ ผมเคยบอกแล้วไม่ต้องการอำนาจ แต่ต้องการใช้เพื่อบริหารราชการแผ่นดินในเวลานี้ ขอสื่อเถอะ อย่าไปตีความกันให้วุ่นวาย" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับพ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีต ส.ส.พรรคความหวังใหม่ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำไมต้องคุย เมื่อถามอีกว่า พ.อ.สุชาติ เป็นเพื่อนกับนายกฯไม่ใช่หรือ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพื่อนผมมีตั้ง 200 คน ไม่ได้คุยทุกคน คุยกับพี่อ้อ (พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาฯ นายกฯ)

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ความเป็นไปได้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปเป็นที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐและจะต้องลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ก่อนเป็นได้ หรือไม่ว่า ตอบได้แค่ว่าไม่มีอะไรห้ามไว้ อย่างอื่นตนไม่รู้ ไม่ทราบ และไม่เคยได้ยิน

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่านายกฯ สามารถเป็นที่ปรึกษาพรรคได้ โดยไม่ต้องลาออกจากตำแหน่ง ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในกฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้ ส่วนจะต้องเป็นสมาชิกพรรคก่อนหรือไม่นั้น กฎหมายก็ไม่ได้เขียนห้ามไว้ เพียงแต่จะลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ ถ้าจะลงสมัคร ต้องลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่ปี 2560

นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวถึงการที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กฎหมายไม่ได้ห้ามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นจะเป็นที่ปรึกษา และสมาชิกพรรคการเมืองได้ ว่า เมื่อกฎหมายไม่ได้เขียนห้ามไว้ ก็สามารถทำได้ ส่วนจะเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่ ตนในฐานะผู้รักษาการ ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ขอไม่แสดงความเห็นในประเด็นนี้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เสนอให้ยุบ คสช. เหลือไว้แค่รัฐบาล รักษาการ เพราะประเทศไทยอยู่ได้โดยไม่มี คสช. เพราะการเลือกตั้งภายใต้ คสช.ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะสุจริต เที่ยงธรรม ว่า ถ้ายุบก็ผิดรธน. ในบทเฉพาะกาล มาตรา 265 กำหนดให้ คสช. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนประกาศใช้รธน.นี้ ยังคงอยู่ในตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่ ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรก ตามรธน.นี้ จะเข้ารับหน้าที่