ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กตู่" ปลื้มปี 61 เศรษฐกิจขาขึ้น U.S.News จัดไทยลำดับ 8 ประเทศที่ดีที่สุดสำหรับลงทุนจาก 20 อันดับของโลก "สมคิด" เตรียมยกทีม ศก.-บีโอไอ- หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนชั้นนำ ร่วมประกาศทิศทางส่งเสริมการลงทุน และกฎหมาย อีอีซี เพื่อมุ่งพัฒนาสู่ประเทศไทย 4.0 ด้านเลขาฯ บีโอไอ เผย สนง. บีโอไอ ในต่างประเทศทั้ง 14 แห่งทั่วโลก จัดคณะนักลงทุน พร้อมสื่อฯ กว่า 300 คน มารับฟังข้อมูลตรงจากรัฐบาล และ ลงสำรวจพื้นที่ อีอีซี ขณะที่รมช.พาณิชย์ เผยเอกชนจากยุโรปสนใจเยือนไทย เล็งฟื้นการเจรจาFTAไทย - อียู
วานนี้ (11มี.ค.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานอันดับประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน ประจำปี 61 ของ U.S.News ซึ่งไทยติดอันดับ 8 จาก 20 อันดับของโลก โดยวิเคราะห์จากหลายปัจจัย เช่น เสถียรภาพทางศก. นวัตกรรม ทักษะแรงงาน ความชำนาญทางเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม ประชากร และคอร์รัปชัน เป็นต้น
"จากรายงานดังกล่าว ถือว่าเป็นข่าวดีทางเศรษฐกิจ เพราะต่างชาติให้การยอมรับประเทศไทย ความสำเร็จนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันทุกฝ่าย และช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมืองให้สงบ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก"
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา U.S.News เพิ่งเผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก ในด้านต่างๆ ซึ่งประเทศไทยครองแชมป์อันดับ 1 เป็นประเทศที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มธุรกิจ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศักยภาพด้านศก. และการลงทุนของไทยนั้น จัดอยู่ในอันดับต้นๆ ในสายตาของชาวโลก
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลงทุนตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งภาพลักษณ์ในเรื่องนี้ เป็นสิ่งจูงใจนักลงทุน ให้เข้ามาทำธุรกิจในไทย และผลการจัดอันดับดังกล่าว ยังสอดคล้องกับอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก ครั้งล่าสุด ที่ไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 20 อันดับ จากอันดับที่ 46 ในปี 60 มาเป็นอันดับที่ 26 ในปี 61 ด้วย
**"สมคิด"เตรียมจัดสัมมนาใหญ่
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงการจัดงานสัมมนา“Thailand Taking off to New Heights”ในวันที่19 มี.ค.นี้ ณ อิมแพก เมืองทองธานี ว่า ในงานดังกล่าว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯจะเป็นประธานเปิดงาน และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ร่วมให้ข้อมูลได้แก่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายพิเชษ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม
ขณะนี้ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ความสนใจและตอบรับเข้าร่วมงานสัมมนาเป็นจำนวนมาก ล่าสุดสำนักงานบีโอไอ ในต่างประเทศทั้ง 14 แห่ง ยังได้ยืนยันนำคณะผู้บริหารของบริษัท ชั้นนำ และนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายจากต่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างประเทศ กว่า 300 คน เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาในวันดังกล่าว และจะได้เดินทางไปศึกษาศักยภาพของการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี อีกด้วย" น.ส.ดวงใจ กล่าว
งานสัมมนาครั้งนี้ รัฐบาลจะประกาศถึงความพร้อม และทิศทางการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทยในการก้าวสู่ ประเทศไทย 4.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ โดย บีโอไอ ได้รวบรวมมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ๆ มานำเสนอ อาทิ การขยายขอบข่ายมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งส่วนหนึ่งของมาตรการส่งเสริมให้นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ โดยขยายให้ครอบคลุมถึงโครงการที่นำระบบดิจิทัล มาใช้ด้วย รวมทั้งการปรับปรุงมาตรการเพื่อพัฒนาความสามารถ ในการแข่งขันโดยการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล จะได้รับการ
ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม เช่น การพัฒนาทักษะด้านคอมพิวเตอร์ชั้นสูง การจัดให้มีบริการ “สมาร์ทวีซ่า”ซึ่งเป็นวีซ่าประเภทพิเศษ เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และสตาร์ทอัพ จากต่างประเทศ ที่เข้ามาทำงาน หรือลงทุนในกิจการ ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานในกระบวนการผลิตหรือการให้บริการ และเป็นกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สำหรับรองรับการลงทุนแห่งอนาคต โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าหมายผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน อาทิ การเสวนาหัวข้อ “เร่งเครื่องขับเคลื่อนไทยสู่มิติใหม่”โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รมว.อุตสาหกรรม รมช.คมนาคม และผู้แทนภาคเอกชนจากคณะกรรมการ นโยบาย อีอีซี การเสวนาหัวข้อ “เดินหน้าพลิกโฉมประเทศไทย”โดย รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย อีอีซี และ รองผอ.การท่าอากาศยานอู่ตะเภา
งานสัมมนา “Thailand Taking off to New Heights”จะจัดขึ้นในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพก เมืองทองธานี ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ ทางเว็บไซต์ บีโอไอ
www.boi.go.th/seminar2018 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
** อียู-ไทย เตรียมเจรจาฟื้น FTA
ด้านน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการประชุมรมต.เศรษฐกิจอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ที่ประเทศสิงคโปร์ มีบริษัทยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในอาเซียน นำโดย สภาธุรกิจอาเซียน-อียู และ สมาคมพันธมิตรธุรกิจยุโรป-อาเซียน ได้เข้าพบหารือแลกเปลี่ยนความเห็น เรื่องนโยบายการค้าของไทย และโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ นายโดนัล คานัค ประธานสภาธุรกิจอาเซียน-อียู ได้นำผู้แทนบริษัทอียู ที่ประกอบธุรกิจในสาขาต่าง ๆ อาทิ การขนส่งและโลจิสติกส์ รถยนต์และชิ้นส่วน พบหารือเพื่อขอทราบนโยบายการค้าของไทย โดยได้สร้างความมั่นใจกับภาคธุรกิจยุโรปว่า ไทยให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียนลดมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางการค้า เพื่ออำนวยความสะดวกนักธุรกิจและดึงดูดการลงทุน
ขณะที่ นายเจฟ โดนัลด์ ประธานสมาคมพันธมิตรธุรกิจยุโรป-อาเซียน ได้นำสมาชิกหารือ เรื่องโอกาสการขยายธุรกิจในไทย โดยได้แสดงความสนใจการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการใช้ประโยชน์จากนโยบายเส้นทางสายไหมของจีน ทั้งนี้ ทั้ง 2 องค์กร ชื่นชมต่อพัฒนาการด้านเศรษฐกิจการค้าไทย รวมทั้งให้ความสนใจต่อความคืบหน้าการรื้อฟื้นการเจรจา FTA ไทย - อียู ภายหลังมติของอียู เมื่อเดือนธ.ค. ปีที่ผ่านมา ให้กลับมาดำเนินความสัมพันธ์กับไทยในทุกระดับ รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการกลับมาเจรจา FTA กับไทย
นอกจากนี้ สภาธุรกิจอาเซียน-อียู และสมาคมพันธมิตรธุรกิจยุโรป-อาเซียน มีแผนจะนำคณะนักธุรกิจยุโรปเยือนไทยภายในปีนี้ ซึ่งก็ได้เชิญชวนให้ใช้โอกาสดังกล่าวเยี่ยมชมและศึกษาสิทธิประโยชน์ที่พิเศษของการลงทุนในอีอีซี ด้วย
วานนี้ (11มี.ค.) พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบรายงานอันดับประเทศที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน ประจำปี 61 ของ U.S.News ซึ่งไทยติดอันดับ 8 จาก 20 อันดับของโลก โดยวิเคราะห์จากหลายปัจจัย เช่น เสถียรภาพทางศก. นวัตกรรม ทักษะแรงงาน ความชำนาญทางเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม ประชากร และคอร์รัปชัน เป็นต้น
"จากรายงานดังกล่าว ถือว่าเป็นข่าวดีทางเศรษฐกิจ เพราะต่างชาติให้การยอมรับประเทศไทย ความสำเร็จนี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันทุกฝ่าย และช่วยกันรักษาบรรยากาศของบ้านเมืองให้สงบ เพื่อดึงดูดความสนใจของนักลงทุนทั่วโลก"
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา U.S.News เพิ่งเผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลก ในด้านต่างๆ ซึ่งประเทศไทยครองแชมป์อันดับ 1 เป็นประเทศที่เหมาะสมสำหรับการเริ่มธุรกิจ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ศักยภาพด้านศก. และการลงทุนของไทยนั้น จัดอยู่ในอันดับต้นๆ ในสายตาของชาวโลก
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการลงทุนตามนโยบายประเทศไทย 4.0 ซึ่งภาพลักษณ์ในเรื่องนี้ เป็นสิ่งจูงใจนักลงทุน ให้เข้ามาทำธุรกิจในไทย และผลการจัดอันดับดังกล่าว ยังสอดคล้องกับอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก ครั้งล่าสุด ที่ไทยมีอันดับดีขึ้นถึง 20 อันดับ จากอันดับที่ 46 ในปี 60 มาเป็นอันดับที่ 26 ในปี 61 ด้วย
**"สมคิด"เตรียมจัดสัมมนาใหญ่
น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงการจัดงานสัมมนา“Thailand Taking off to New Heights”ในวันที่19 มี.ค.นี้ ณ อิมแพก เมืองทองธานี ว่า ในงานดังกล่าว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯจะเป็นประธานเปิดงาน และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ร่วมให้ข้อมูลได้แก่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายพิเชษ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม
ขณะนี้ นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้ความสนใจและตอบรับเข้าร่วมงานสัมมนาเป็นจำนวนมาก ล่าสุดสำนักงานบีโอไอ ในต่างประเทศทั้ง 14 แห่ง ยังได้ยืนยันนำคณะผู้บริหารของบริษัท ชั้นนำ และนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายจากต่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างประเทศ กว่า 300 คน เพื่อเข้าร่วมงานสัมมนาในวันดังกล่าว และจะได้เดินทางไปศึกษาศักยภาพของการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี อีกด้วย" น.ส.ดวงใจ กล่าว
งานสัมมนาครั้งนี้ รัฐบาลจะประกาศถึงความพร้อม และทิศทางการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทยในการก้าวสู่ ประเทศไทย 4.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ โดย บีโอไอ ได้รวบรวมมาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ๆ มานำเสนอ อาทิ การขยายขอบข่ายมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ซึ่งส่วนหนึ่งของมาตรการส่งเสริมให้นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ โดยขยายให้ครอบคลุมถึงโครงการที่นำระบบดิจิทัล มาใช้ด้วย รวมทั้งการปรับปรุงมาตรการเพื่อพัฒนาความสามารถ ในการแข่งขันโดยการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล จะได้รับการ
ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม เช่น การพัฒนาทักษะด้านคอมพิวเตอร์ชั้นสูง การจัดให้มีบริการ “สมาร์ทวีซ่า”ซึ่งเป็นวีซ่าประเภทพิเศษ เพื่ออํานวยความสะดวกแก่ผู้เชี่ยวชาญ นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และสตาร์ทอัพ จากต่างประเทศ ที่เข้ามาทำงาน หรือลงทุนในกิจการ ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นฐานในกระบวนการผลิตหรือการให้บริการ และเป็นกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาล
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สำหรับรองรับการลงทุนแห่งอนาคต โดยเฉพาะโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าหมายผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน อาทิ การเสวนาหัวข้อ “เร่งเครื่องขับเคลื่อนไทยสู่มิติใหม่”โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รมว.อุตสาหกรรม รมช.คมนาคม และผู้แทนภาคเอกชนจากคณะกรรมการ นโยบาย อีอีซี การเสวนาหัวข้อ “เดินหน้าพลิกโฉมประเทศไทย”โดย รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมถึงผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย อีอีซี และ รองผอ.การท่าอากาศยานอู่ตะเภา
งานสัมมนา “Thailand Taking off to New Heights”จะจัดขึ้นในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพก เมืองทองธานี ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ ทางเว็บไซต์ บีโอไอ
www.boi.go.th/seminar2018 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
** อียู-ไทย เตรียมเจรจาฟื้น FTA
ด้านน.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการประชุมรมต.เศรษฐกิจอาเซียน อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ที่ประเทศสิงคโปร์ มีบริษัทยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในอาเซียน นำโดย สภาธุรกิจอาเซียน-อียู และ สมาคมพันธมิตรธุรกิจยุโรป-อาเซียน ได้เข้าพบหารือแลกเปลี่ยนความเห็น เรื่องนโยบายการค้าของไทย และโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ นายโดนัล คานัค ประธานสภาธุรกิจอาเซียน-อียู ได้นำผู้แทนบริษัทอียู ที่ประกอบธุรกิจในสาขาต่าง ๆ อาทิ การขนส่งและโลจิสติกส์ รถยนต์และชิ้นส่วน พบหารือเพื่อขอทราบนโยบายการค้าของไทย โดยได้สร้างความมั่นใจกับภาคธุรกิจยุโรปว่า ไทยให้ความสำคัญเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียนลดมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางการค้า เพื่ออำนวยความสะดวกนักธุรกิจและดึงดูดการลงทุน
ขณะที่ นายเจฟ โดนัลด์ ประธานสมาคมพันธมิตรธุรกิจยุโรป-อาเซียน ได้นำสมาชิกหารือ เรื่องโอกาสการขยายธุรกิจในไทย โดยได้แสดงความสนใจการขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และการใช้ประโยชน์จากนโยบายเส้นทางสายไหมของจีน ทั้งนี้ ทั้ง 2 องค์กร ชื่นชมต่อพัฒนาการด้านเศรษฐกิจการค้าไทย รวมทั้งให้ความสนใจต่อความคืบหน้าการรื้อฟื้นการเจรจา FTA ไทย - อียู ภายหลังมติของอียู เมื่อเดือนธ.ค. ปีที่ผ่านมา ให้กลับมาดำเนินความสัมพันธ์กับไทยในทุกระดับ รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ในการกลับมาเจรจา FTA กับไทย
นอกจากนี้ สภาธุรกิจอาเซียน-อียู และสมาคมพันธมิตรธุรกิจยุโรป-อาเซียน มีแผนจะนำคณะนักธุรกิจยุโรปเยือนไทยภายในปีนี้ ซึ่งก็ได้เชิญชวนให้ใช้โอกาสดังกล่าวเยี่ยมชมและศึกษาสิทธิประโยชน์ที่พิเศษของการลงทุนในอีอีซี ด้วย