"สมคิด"สั่งทอท.เร่งแก้ปัญหาสนามบินแออัด ระยะสั้น ใน 3-4 เดือนต้องเห็นผล หวั่นนักท่องเทียวหนี ลั่นพัฒนาสนามบินรอง ปีนี้นำร่องชุมพร/หัวหิน เปิดเกต์เวย์ลงใต้ บูมท่องเที่ยวเมืองรอง เชื่อม"ไทยแลนด์ริเวียร่า" ด้านทอท.จ่อรวบบริหาร15 สนามบินภูมิภาค ของทย. แถมพ่วง ชุมพร/หัวหิน พร้อมรับโอน ขณะที่เตรียมเสนอบอร์ด ทุ่มงบอีกกว่าแสนล้าน สร้างสนามบินเชียงใหม่และภูเก็ตแห่งที่ 2 เหตุขยายพื้นที่เดิมไม่ได้แล้ว
วานนี้ (8 มี.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมและ มอบนโยบาย แก่หน่วยงานด้านขนส่งทางอากาศ โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และผู้บริหาร7 หน่วยงาน บรรยายสรุปภารกิจ
นายสมคิด กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยเกินเป้าอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเราเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคแล้ว ซึ่งต้องรักษาต่อไป โดยจะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารมากที่สุด จึงได้สั่งการให้ ทอท. แก้ปัญหาความแออัดของสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบ เช่น สุวรรณภูมิในระยะสั้น ช่วง3-4 เดือนนี้ จะต้องเพิ่มช่องทางการเข้าออก ของผู้โดยสาร เพิ่มบุคลากรในแต่ละจุด ในระบบ Auto Gate เป็นต้น ส่วนระยะยาว นั้นมีการพัฒนาเฟส 2 อยู่แล้ว
"ส่วนการพัฒนาสนามบินดอนเมืองที่ยังมีข้อจำกัด หลายเรื่อง ได้ให้รัฐมนตรีอาคม และรัฐมนตรีช่วยฯไพรินทร์ รับที่จะไปเร่งรัด ส่วนสนามบินเชียงใหม่ ในช่วงเร่งด่วน จะมีการเพิ่มพื้นที่ขยายลานจอดรถ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมกันนี้จะเร่งตัดสินใจ ในการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่ แห่งที่ 2 ส่วนสนามบินภูเก็ต มีข้อจำกัด รันเวย์เส้นเดียว จะต้องหาพื้นที่สร้างสนามบิน แห่งที่ 2 ซึ่งทอท. ได้ศึกษาไว้แล้ว อยู่ระหว่างตัดสินใจ" นายสมคิด กล่าว
สำหรับในภาพรวมของการรองรับนักท่องเที่ยว ที่มีกว่า 30 ล้านคนต่อปีนั้น รัฐบาลต้องการกระจายการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งให้ทอท.และกรมท่าอากาศยาน หารือในการพัฒนาสนามบินของเมืองรอง ซึ่งในปีนี้ ต้องการให้เริ่มที่ จ.ชุมพร หรือ หัวหิน เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการ”ไทยแลนด์ริเวียร่า” ซึ่งมีถนนเลียบชายทะเล สนับสนุนการท่องเที่ยว
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ปัจจุบัน 6 สนามบินของ ทอท.มีผู้โดยสารรวม130 ล้านคน ต่อปี ซึ่งเกินศักยภาพรองรับ ที่ 101 ล้านคนต่อปี ซึ่งมีแผนระยะยาว พัฒนาศักยภาพ 6 สนามบิน เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 184 ล้านคนต่อปี ภายในปี 68 โดยขณะนี้ได้เร่งแผนพัฒนาในระยะสั้น ของ 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ทยอยนำเสนอขออนุมัติจาก บอร์ด ทอท. ส่วนสนามบินดอนเมือง ที่ผู้โดยสารเติบโตสูง และมีความแออัดมาก ให้เร่งนำแผนหารือกับ รมต.ไพรินทร์ เพื่อแก้ปัญหาก่อน
สำหรับสนามบินสุวรรณภูมินั้น ในระยะสั้น จะมีการปรับปรุงพื้นที่อาคารผู้โดยสารด้านตะวันตก ฝั่งเคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทย ซึ่งได้คืนพื้นที่เล้าจ์ และยังมีการกระจายจุดตรวจค้นให้มากขึ้น และปรับพื้นที่ROW A,B รวมถึงการนำระบบอัตโนมัติต่างๆ เข้ามาให้บริการมากขึ้น ใช้งบไม่มาก แต่เน้นการบริหารจัดการพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก เสริมกับการพัฒนาเฟส 2
ส่วนสนามบินภูเก็ต ปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 15-16 ล้านคนต่อปี แต่ศักยภาพรองรับที่12.5 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่า ในปี 65 ผู้โดยสารจะเพิ่มมากกว่า 18 ล้านคนต่อปี ซึ่งตามแผนแม่บทจะขยายศักยภาพเป็น 25 ล้านคนต่อปี แต่เนื่องจากภูเก็ตติดปัญหารันเวย์เส้นเดียว แท็กซี่เวย์จำกัด จึงปรับแผนใหม่ ซึ่งจะรื้อแผนพัฒนาใหม่ โดยหาพื้นที่เพื่อก่อสร้างสนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 ซึ่งได้มีการศึกษาพื้นที่ใหม่ ซึ่งอยู่ที่ จ.พังงา รองรับได้ประมาณ 10 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะเสนอบอร์ด ทอท.ใน1-2 เดือนนี้ เพื่อขอลงทุนประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นจะต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วย
สนามบินเชียงใหม่ รับได้ 8 ล้านคนต่อปี แต่มีผู้โดยสารถึง 10 ล้านคนแล้ว เกิดความแออัด คาดปี 68 จะเพิ่มเป็น 18 ล้านคนต่อปี และปี 74 จะเพิ่มเป็น 20 ล้านคนต่อปี ปัญหาของเชียงใหม่คือ พื้นที่โดยรอบสนามบิน ซึ่งจะมีการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 นอกตัวเมือง คาดลงทุนประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรองรับได้ 10 ล้านคนต่อปี โดยแยกผู้โดยสารภายในประเทศมาใช้สนามบินแห่งใหม่นี้ ส่วนสนามบินเชียงใหม่เดิม จะรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งจะเสนอบอร์ดทอท. ขออนุมัติใน 1-2 เดือนนี้ เช่นกัน
**ทอท.จ่อรวบบริหาร15 สนามบินภูมิภาค
นายนิตินัย กล่าวถึง การบริหารสนามบินภูมิภาค ของกรมท่าอากาศยานว่า รองนายกฯได้มอบหมายให้ ทอท.และทย. หารือร่วมกัน ซึ่งได้รับนโยบายเพิ่มเติมในการพิจารณาสนามบินหัวหิน หรือ ชุมพร เพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเมืองรอง และไทยแลนด์ริเวียร่า ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนด้านการบินได้ โดยจะนำแผนการบริหาร 15 สนามบินของทย. เดิม มาปรับร่วมกับนโยบายดังกล่าว ซึ่งมีหลายโมเดลในการรับบริหาร เช่น ให้ ทย.โอนสนามบินให้กรมธนารักษ์ และ ทอท.เช่าต่อจากธนารักษ์อีกที ระยะเวลา 30 ปี เป็นต้น ซึ่งเป็นโมเดลเดิมของ 6 สนามบนที่ทอท. บริหารอยู่
อย่างไรก็ตาม ในแง่การลงทุนพัฒนาสนามบินต่างๆ ประเมินว่าจะไม่กระทบต่อฐานะการเงินของทอท.มากนัก โดยในปีนี้ ทอท. มีแผนเบิกจ่ายงบลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท จากการก่อสร้างสุวรรณภูมิ เฟส 2 และ พัฒนาสนามบินภูเก็ต ขณะที่รายได้ปี 61 มีแนวโน้มที่จะเกินเป้าหมาย เนื่องจากการเติบโตของเที่ยวบิน และผู้โดยสารมากกว่าประมาณการณ์ หลังจากปลดธงแดง และหมดปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยไตรมาส 1 /61 (ต.ค.-ธ.ค.60) ผู้โดยสารโตที่ 14.4% ส่วนไตรมาส2 /61 ประเมินว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 10%
วานนี้ (8 มี.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมและ มอบนโยบาย แก่หน่วยงานด้านขนส่งทางอากาศ โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และผู้บริหาร7 หน่วยงาน บรรยายสรุปภารกิจ
นายสมคิด กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยเกินเป้าอย่างมาก แสดงให้เห็นว่าเราเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคแล้ว ซึ่งต้องรักษาต่อไป โดยจะต้องสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารมากที่สุด จึงได้สั่งการให้ ทอท. แก้ปัญหาความแออัดของสนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบ เช่น สุวรรณภูมิในระยะสั้น ช่วง3-4 เดือนนี้ จะต้องเพิ่มช่องทางการเข้าออก ของผู้โดยสาร เพิ่มบุคลากรในแต่ละจุด ในระบบ Auto Gate เป็นต้น ส่วนระยะยาว นั้นมีการพัฒนาเฟส 2 อยู่แล้ว
"ส่วนการพัฒนาสนามบินดอนเมืองที่ยังมีข้อจำกัด หลายเรื่อง ได้ให้รัฐมนตรีอาคม และรัฐมนตรีช่วยฯไพรินทร์ รับที่จะไปเร่งรัด ส่วนสนามบินเชียงใหม่ ในช่วงเร่งด่วน จะมีการเพิ่มพื้นที่ขยายลานจอดรถ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมกันนี้จะเร่งตัดสินใจ ในการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่ แห่งที่ 2 ส่วนสนามบินภูเก็ต มีข้อจำกัด รันเวย์เส้นเดียว จะต้องหาพื้นที่สร้างสนามบิน แห่งที่ 2 ซึ่งทอท. ได้ศึกษาไว้แล้ว อยู่ระหว่างตัดสินใจ" นายสมคิด กล่าว
สำหรับในภาพรวมของการรองรับนักท่องเที่ยว ที่มีกว่า 30 ล้านคนต่อปีนั้น รัฐบาลต้องการกระจายการท่องเที่ยวไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งให้ทอท.และกรมท่าอากาศยาน หารือในการพัฒนาสนามบินของเมืองรอง ซึ่งในปีนี้ ต้องการให้เริ่มที่ จ.ชุมพร หรือ หัวหิน เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการ”ไทยแลนด์ริเวียร่า” ซึ่งมีถนนเลียบชายทะเล สนับสนุนการท่องเที่ยว
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ปัจจุบัน 6 สนามบินของ ทอท.มีผู้โดยสารรวม130 ล้านคน ต่อปี ซึ่งเกินศักยภาพรองรับ ที่ 101 ล้านคนต่อปี ซึ่งมีแผนระยะยาว พัฒนาศักยภาพ 6 สนามบิน เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 184 ล้านคนต่อปี ภายในปี 68 โดยขณะนี้ได้เร่งแผนพัฒนาในระยะสั้น ของ 3 สนามบิน คือ สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ทยอยนำเสนอขออนุมัติจาก บอร์ด ทอท. ส่วนสนามบินดอนเมือง ที่ผู้โดยสารเติบโตสูง และมีความแออัดมาก ให้เร่งนำแผนหารือกับ รมต.ไพรินทร์ เพื่อแก้ปัญหาก่อน
สำหรับสนามบินสุวรรณภูมินั้น ในระยะสั้น จะมีการปรับปรุงพื้นที่อาคารผู้โดยสารด้านตะวันตก ฝั่งเคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทย ซึ่งได้คืนพื้นที่เล้าจ์ และยังมีการกระจายจุดตรวจค้นให้มากขึ้น และปรับพื้นที่ROW A,B รวมถึงการนำระบบอัตโนมัติต่างๆ เข้ามาให้บริการมากขึ้น ใช้งบไม่มาก แต่เน้นการบริหารจัดการพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก เสริมกับการพัฒนาเฟส 2
ส่วนสนามบินภูเก็ต ปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 15-16 ล้านคนต่อปี แต่ศักยภาพรองรับที่12.5 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่า ในปี 65 ผู้โดยสารจะเพิ่มมากกว่า 18 ล้านคนต่อปี ซึ่งตามแผนแม่บทจะขยายศักยภาพเป็น 25 ล้านคนต่อปี แต่เนื่องจากภูเก็ตติดปัญหารันเวย์เส้นเดียว แท็กซี่เวย์จำกัด จึงปรับแผนใหม่ ซึ่งจะรื้อแผนพัฒนาใหม่ โดยหาพื้นที่เพื่อก่อสร้างสนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 ซึ่งได้มีการศึกษาพื้นที่ใหม่ ซึ่งอยู่ที่ จ.พังงา รองรับได้ประมาณ 10 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะเสนอบอร์ด ทอท.ใน1-2 เดือนนี้ เพื่อขอลงทุนประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นจะต้องขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วย
สนามบินเชียงใหม่ รับได้ 8 ล้านคนต่อปี แต่มีผู้โดยสารถึง 10 ล้านคนแล้ว เกิดความแออัด คาดปี 68 จะเพิ่มเป็น 18 ล้านคนต่อปี และปี 74 จะเพิ่มเป็น 20 ล้านคนต่อปี ปัญหาของเชียงใหม่คือ พื้นที่โดยรอบสนามบิน ซึ่งจะมีการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 นอกตัวเมือง คาดลงทุนประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะรองรับได้ 10 ล้านคนต่อปี โดยแยกผู้โดยสารภายในประเทศมาใช้สนามบินแห่งใหม่นี้ ส่วนสนามบินเชียงใหม่เดิม จะรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ซึ่งจะเสนอบอร์ดทอท. ขออนุมัติใน 1-2 เดือนนี้ เช่นกัน
**ทอท.จ่อรวบบริหาร15 สนามบินภูมิภาค
นายนิตินัย กล่าวถึง การบริหารสนามบินภูมิภาค ของกรมท่าอากาศยานว่า รองนายกฯได้มอบหมายให้ ทอท.และทย. หารือร่วมกัน ซึ่งได้รับนโยบายเพิ่มเติมในการพิจารณาสนามบินหัวหิน หรือ ชุมพร เพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเมืองรอง และไทยแลนด์ริเวียร่า ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนด้านการบินได้ โดยจะนำแผนการบริหาร 15 สนามบินของทย. เดิม มาปรับร่วมกับนโยบายดังกล่าว ซึ่งมีหลายโมเดลในการรับบริหาร เช่น ให้ ทย.โอนสนามบินให้กรมธนารักษ์ และ ทอท.เช่าต่อจากธนารักษ์อีกที ระยะเวลา 30 ปี เป็นต้น ซึ่งเป็นโมเดลเดิมของ 6 สนามบนที่ทอท. บริหารอยู่
อย่างไรก็ตาม ในแง่การลงทุนพัฒนาสนามบินต่างๆ ประเมินว่าจะไม่กระทบต่อฐานะการเงินของทอท.มากนัก โดยในปีนี้ ทอท. มีแผนเบิกจ่ายงบลงทุน 1.1 หมื่นล้านบาท จากการก่อสร้างสุวรรณภูมิ เฟส 2 และ พัฒนาสนามบินภูเก็ต ขณะที่รายได้ปี 61 มีแนวโน้มที่จะเกินเป้าหมาย เนื่องจากการเติบโตของเที่ยวบิน และผู้โดยสารมากกว่าประมาณการณ์ หลังจากปลดธงแดง และหมดปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยไตรมาส 1 /61 (ต.ค.-ธ.ค.60) ผู้โดยสารโตที่ 14.4% ส่วนไตรมาส2 /61 ประเมินว่าจะโตไม่ต่ำกว่า 10%