น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผอ.โรงงานยาสูบ กล่าวว่า ที่ประชุมสนช. ได้ลงมติ วาระ 3 เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การยาสูบแห่งประเทศไทย พ.ศ....ขณะนี้รอขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย ทำให้โรงงานยาสูบเปลี่ยนสถานะเป็นนิติบุคคล มีชื่อใหม่เรียกอย่างเป็นทางการว่า“การยาสูบแห่งประเทศไทย” ชื่อย่อ “ยสท.”ชื่อภาษาอังกฤษว่า Tobacco Authority of Thailand “TOAT”แต่ยังคงมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง
สำหรับ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เมื่อเปลี่ยนสถานะครั้งนี้ จะเปิดทางให้ดำเนินธุรกิจอื่นได้หลากหลาย เกี่ยวกับยาสูบ และกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การรับจ้างผลิตยาสูบ เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ทำการวิจัย และพัฒนา เพื่อปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานการผลิตยาสูบและใบยาสูบ รวมถึงการศึกษาปลูกพืชชนิดใหม่ คือ กัญชง หรือเฮมพ์ (Hemp)เพื่อนำเส้นใยมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตบุหรี่ เช่น กระดาษห่อมวน และก้นกรองบุหรี่ จากเส้นใยเฮมพ์ และผลพลอยได้สำหรับอุตสาหกรรมอื่น ทั้งในและต่างประเทศ มีความต้องการสูง เช่น ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มวลเบา วัสดุก่อสร้าง ยาและเวชภัณฑ์ที่ทั่วโลกมีความต้องการมากขึ้น
** บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่มวน
นายจอห์น นิวตัน ผอ.ด้านการพัฒนาสุขภาพ ของ Public Health England (PHE)กล่าวว่า จากการศึกษาและผลการวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า จัดทำโดยสาธารณสุขอังกฤษ ระบุ เมื่อต้นปี 60 อัตราผู้เลิกบุหรี่สำเร็จของคนอังกฤษสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะการเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า นอกจากนี้ หลักฐานทั้งหมดที่มีไม่สนับสนุนความกังวลที่ว่า บุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นประตูไปสู่การสูบบุหรี่มวนในเยาวชน ซึ่งรายงานนี้เป็นฉบับที่ 4 ของสำนักงานฯ ที่ศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และได้ขยายขอบเขตการศึกษาให้ครอบคลุมถึง ผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน ผลการศึกษาครั้งนี้ ช่วยสนับสนุนข้อสรุปเดิมของเรา ที่ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป 95% และลดความเสี่ยงต่อการได้รับควันบุหรี่มือสอง ของคนรอบข้าง ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ จึงควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับศักยภาพของบุหรี่ไฟฟ้า และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเพื่อช่วยให้การเลิกบุหรี่มวนมีอัตราความสำเร็จมากขึ้น
ด้านนายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่าย ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า"ลาขาดควันยาสูบ" และเฟซบุ๊กเพจ"บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร"ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านี้เอ็นจีโอต่อต้านบุหรี่ของไทย เคยออกมาตั้งข้อสังเกตว่ารายงานของ PHE ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งทาง PHEได้เคยส่งอีเมล มาชี้แจงถึงข้อสรุปในการศึกษาฉบับก่อนๆ แล้ว รายงานฉบับนี้ PHE ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ได้จริง และยังแนะนำว่าควรเพิ่มการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ เนื่องจากมีหลักฐานชี้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเพิ่มจำนวนผู้เลิกบุหรี่ในอังกฤษได้กว่า 1 หมื่นคน
ทั้งนี้เครือข่ายฯ เห็นว่า แนวทางนี้น่าจะช่วยลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยให้เข้าใกล้เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเอาไว้ได้ ซึ่งภาครัฐน่าจะลองพิจารณาควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เหมาะสม จะได้เป็นประโยชน์กับผู้สูบบุหรี่ ในขณะเดียวกันก็ป้องกันผู้ไม่สูบบุหรี่และเยาวชนได้
สำหรับ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เมื่อเปลี่ยนสถานะครั้งนี้ จะเปิดทางให้ดำเนินธุรกิจอื่นได้หลากหลาย เกี่ยวกับยาสูบ และกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การรับจ้างผลิตยาสูบ เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้ทำการวิจัย และพัฒนา เพื่อปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานการผลิตยาสูบและใบยาสูบ รวมถึงการศึกษาปลูกพืชชนิดใหม่ คือ กัญชง หรือเฮมพ์ (Hemp)เพื่อนำเส้นใยมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตบุหรี่ เช่น กระดาษห่อมวน และก้นกรองบุหรี่ จากเส้นใยเฮมพ์ และผลพลอยได้สำหรับอุตสาหกรรมอื่น ทั้งในและต่างประเทศ มีความต้องการสูง เช่น ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มวลเบา วัสดุก่อสร้าง ยาและเวชภัณฑ์ที่ทั่วโลกมีความต้องการมากขึ้น
** บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่มวน
นายจอห์น นิวตัน ผอ.ด้านการพัฒนาสุขภาพ ของ Public Health England (PHE)กล่าวว่า จากการศึกษาและผลการวิจัย ที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า จัดทำโดยสาธารณสุขอังกฤษ ระบุ เมื่อต้นปี 60 อัตราผู้เลิกบุหรี่สำเร็จของคนอังกฤษสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะการเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า นอกจากนี้ หลักฐานทั้งหมดที่มีไม่สนับสนุนความกังวลที่ว่า บุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นประตูไปสู่การสูบบุหรี่มวนในเยาวชน ซึ่งรายงานนี้เป็นฉบับที่ 4 ของสำนักงานฯ ที่ศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และได้ขยายขอบเขตการศึกษาให้ครอบคลุมถึง ผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน ผลการศึกษาครั้งนี้ ช่วยสนับสนุนข้อสรุปเดิมของเรา ที่ระบุว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไป 95% และลดความเสี่ยงต่อการได้รับควันบุหรี่มือสอง ของคนรอบข้าง ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ จึงควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับศักยภาพของบุหรี่ไฟฟ้า และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเพื่อช่วยให้การเลิกบุหรี่มวนมีอัตราความสำเร็จมากขึ้น
ด้านนายมาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่าย ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า"ลาขาดควันยาสูบ" และเฟซบุ๊กเพจ"บุหรี่ไฟฟ้าคืออะไร"ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านี้เอ็นจีโอต่อต้านบุหรี่ของไทย เคยออกมาตั้งข้อสังเกตว่ารายงานของ PHE ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งทาง PHEได้เคยส่งอีเมล มาชี้แจงถึงข้อสรุปในการศึกษาฉบับก่อนๆ แล้ว รายงานฉบับนี้ PHE ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า บุหรี่ไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ได้จริง และยังแนะนำว่าควรเพิ่มการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ เนื่องจากมีหลักฐานชี้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยเพิ่มจำนวนผู้เลิกบุหรี่ในอังกฤษได้กว่า 1 หมื่นคน
ทั้งนี้เครือข่ายฯ เห็นว่า แนวทางนี้น่าจะช่วยลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศไทยให้เข้าใกล้เป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเอาไว้ได้ ซึ่งภาครัฐน่าจะลองพิจารณาควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เหมาะสม จะได้เป็นประโยชน์กับผู้สูบบุหรี่ ในขณะเดียวกันก็ป้องกันผู้ไม่สูบบุหรี่และเยาวชนได้