xs
xsm
sm
md
lg

ความแตกแยกในสังคมไทย สองขั้วความคิดที่ยังพอมีจุดร่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ

ผมได้ยินจนชินแล้วแหละครับว่า คนฝั่งต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งนิยามว่า คนเสื้อเหลือง นั้น มักมองเห็นว่าระบอบทักษิณเป็นความชั่วร้ายที่เกาะกินสังคมไทยและแสวงหาประโยชน์จากการใช้อำนาจ ถ้าปล่อยให้ระบอบทักษิณคงอยู่ต่อไปประเทศจะได้รับความเสียหาย

ส่วน คนฝ่ายสนับสนุนระบอบทักษิณ ซึ่งเรียกกันว่า คนเสื้อแดง นั้น เขาเชื่อกันว่าระบอบทักษิณนำมาสู่ความกินดีอยู่ดีของประชาชน เป็นการนำประชาชนออกจากอำนาจเก่าหรือที่เรียกว่า อำมาตยาธิปไตย ที่มองประชาชนเป็นเพียงผู้ใต้ปกครองกดขี่ข่มเหง และเชื่อว่าที่ทักษิณถูกโค่นล้มต่อต้านเพราะอำนาจเก่ากลัวว่าจะสูญเสียอำนาจ

คนเสื้อเหลืองกล่าวหาว่า คนเสื้อแดงทำสิ่งที่ชั่วร้ายแบบนี้ได้อย่างไร คนเสื้อแดงก็กล่าวหาว่าคนเสื้อเหลืองสนับสนุนสิ่งชั่วร้ายแบบนี้ได้อย่างไร เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างมีชุดความเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามทำนั้นผิด

ในฐานะที่ผมร่วมสู้ขับไล่ระบอบทักษิณกับคนเสื้อเหลืองจนมีคดีติดตัว บอกได้เลยว่า ผมไม่ได้สู้เพื่อให้อำนาจเก่าได้ประโยชน์ แต่ผมมองว่าสิ่งที่ทักษิณทำนั้นเป็นอันตรายต่อชาติบ้านเมือง เป็น “เผด็จการเสียงข้างมาก” หรือที่บางคนนิยามศัพท์ว่า “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์จากการเลือกตั้ง”

แต่ถ้าถามว่า การออกมาต่อสู้กับระบอบทักษิณนั้นทำให้อำนาจเก่าที่ไม่ยอมให้สังคมเปลี่ยนแปลงนั้นได้ประโยชน์หรือไม่ ผมคิดว่าอาจจะได้หรือน้อยมาก เพราะสังคมไทยไม่สามารถกลับไปสู่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ได้อีกแล้ว ชนชั้นนำเก่าแม้จะมีบทบาทครอบงำการเมืองไทยอยู่ก็จริง แต่น้อยมากแล้ว นักการเมืองส่วนใหญ่เป็นชนชั้นชาวบ้าน เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ทั้งสิ้น แทบจะไม่มีตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่มีบทบาทสำคัญอีกเลย นับตั้งแต่สิ้นพี่น้องตระกูลปราโมชและพวกราชครู

ส่วนแกนนำฝ่ายเสื้อแดงก็ปลุกปั่นว่า คนเสื้อเหลืองเป็นพวกต่อต้านระบอบประชาธิปไตย เป็นอภิสิทธิชนในสังคมปกป้องผลประโยชน์ของอำนาจเก่า แต่คนชั้นล่างนั้นถูกเอารัดเอาเปรียบในกระบวนการยุติธรรม ขาดการเข้าถึงสวัสดิการสังคมและขาดคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่มีความเท่าเทียมกันในสังคม การออกมาต่อสู้เพื่อระบอบทักษิณนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง เพราะระบอบทักษิณให้ชีวิตที่ดีกับคนยากคนจน

มองอย่างเข้าใจคนเสื้อแดงที่ส่วนใหญ่เป็นคนยากจนและขาดโอกาสในสังคม เมื่อมีคนอ้างว่าจะนำพาเพื่อต่อสู้กับความยากจน ต่อสู้กับชนชั้นนำพวกอำมาตย์ที่คนชั้นล่างมีความเชื่ออยู่แล้วว่า เป็นอภิสิทธิ์ชน และเขาเห็นว่า เมื่อทักษิณเป็นรัฐบาลนั้นทักษิณเอาเงินมาให้พวกเขาจริง ทำให้เขาเข้าสู่ระบบสาธารณสุขได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกหลานบางคนได้เรียนต่อในต่างประเทศ มีเงินเข้าสู่หมู่บ้านโดยบริหารกันเองง่ายขึ้นไม่ต้องผ่านระบอบราชการที่พวกเขามองเป็นเจ้าขุนมูลนาย การออกมาต่อสู้จึงเป็นการต่อสู้เพื่อสิทธิของตัวเองและคนที่ให้โอกาสพวกเขาไปพร้อมกัน

ถามว่าชนชั้นล่างไม่รู้มองไม่เห็นหรือว่าระบอบทักษิณฉ้อฉลทุจริตคอร์รัปชั่น คิดว่าเขาน่าจะรู้ ด้านหนึ่งเขาคงเห็นว่า ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็มีการทุจริตไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าระบอบทักษิณนั้นแม้ทุจริตแต่ถูกแบ่งปันลงมาถึงมือประชาชนชั้นล่างด้วย เลยมีคำพูดว่า ทุจริตไม่เป็นไรถ้าชาวบ้านได้ประโยชน์ด้วย

แต่ถ้าจะพูดว่า ความยากจน ความน้อยเนื้อต่ำใจในความไม่เท่าเทียมกันในสังคมทำให้กลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายสนับสนุนระบอบทักษิณหรือไม่ก็พูดได้เต็มปากว่าใช่ แกนนำเสื้อแดงจึงหยิบเอาจุดนี้มาปลุกระดมมวลชนให้เข้าร่วมกับทักษิณ ที่มีความจริงที่ซ่อนอยู่คือ เพื่อรักษาอำนาจของทักษิณเอาไว้

ผมไม่ปฏิเสธนะครับว่า หลังจากผ่านเวลามาเป็นศตวรรษของการต่อสู้แตกแยกทางการเมืองแล้ว คนเสื้อแดงจำนวนมากที่ถูกปลุกจิตสำนึกให้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมเสมอภาคอย่างบริสุทธิ์ใจหลายคนเพื่อหวังปกป้องอำนาจของทักษิณในตอนแรกอาจจะมองข้ามระบอบทักษิณและตัวทักษิณ ในขณะที่แกนนำเสื้อแดงบางคนซึ่งปลุกปั่นชาวบ้านให้ออกมาต่อสู้นั้น ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของเขาเป็นคนร่ำรวยในสังคมไปแล้ว

แต่ถ้าพูดกันตามความเป็นจริงสังคมไทยไม่เคยปิดกั้นทางชนชั้น และเปิดโอกาสให้ทุกคนเติบโตขึ้นมาในสังคมเท่าเทียมกัน ลูกชาวบ้านจำนวนมากขึ้นมารับราชการในตำแหน่งใหญ่ ลูกชาวบ้านขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพียงแต่โอกาสเท่านั้นที่อาจไม่เท่าเทียมกัน แต่มันเปิดกว้างมาตลอดในยุคหลังไม่ใช่เพราะดีขึ้นตอนที่ทักษิณเข้ามาเปลี่ยนแปลง ถ้าบ้านเมืองไม่มีการคอร์รัปชั่นชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนก็จะดีขึ้น

ระบอบทักษิณมาจากระบอบประชาธิปไตยแน่ถ้าพิจารณาแค่ว่า ทักษิณมาจากการเลือกตั้ง แต่คนที่เขาต่อต้านทักษิณนั้นเขาไม่ได้ต่อต้านที่ทักษิณชนะการเลือกตั้งแต่เขาต่อต้านการใช้อำนาจของทักษิณต่างหาก ดังนั้นการต่อต้านทักษิณไม่ใช่ต่อต้านประชาธิปไตย การขับไล่ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ใช่เพราะยิ่งลักษณ์ชนะเลือกตั้งแล้วไม่ยอมรับผล แต่ต่อต้านที่ยิ่งลักษณ์ใช้อำนาจและเสียงข้างมากโดยมิชอบ(การขัดขวางการเลือกตั้งของกปปส.เพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อนนั้นเป็นอีกบริบทหนึ่ง)

จริงๆ แล้วชนชั้นนำเก่าอำมาตยาธิปไตยก็ไม่ได้มีบทบาทในการเมืองไทยมานานแล้ว การเมืองไทยตั้งแต่ยุคหลัง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์เป็นต้นมาเป็นยุคของกลุ่มทุนท้องถิ่น กลุ่มทุนระดับชาติ และชนชั้นกลางเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ของสังคม แน่นอนในระดับชาวบ้านนั้นเลือกคนเข้ามาเป็นนักการเมืองตามเครือข่ายอุปถัมภ์และในกรุงเทพฯนั้นจะเลือกอีกแบบคือพลิกผันไปตามสถานการณ์ บางครั้งเลือกประชากรไทยแบบยกพรรค บางครั้งเลือกพลังธรรม บางครั้งเลือกประชาธิปัตย์ รวมถึงเลือกพรรคของทักษิณ ยากที่จะมีพรรคไหนผูกขาดได้

แต่ก็ยอมรับว่า ชนชั้นกลางส่วนใหญ่ในเมืองนั้นมีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าพรรคอื่น

อย่างไรก็ตามวาทกรรมทางชนชั้นของแกนนำเสื้อแดงและฝ่ายสนับสนุนทักษิณก็สามารถปลุกกระแสการตื่นตัวทางการเมืองของคนชั้นล่างในสังคมขึ้นมาในระยะ10ปีมานี้ จนกระทั่งเรียนรู้สิทธิของตัวเองในระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น กลายเป็นตัวแปรสำคัญในการเมืองไทยไปแล้ว ตรงนี้น่าเสียดายว่า อำนาจรัฐที่เข้ามาตอนนี้นั้นไม่เคยทำให้ประชาชนเขาเข้าใจเลยว่า ทำไมระบอบทักษิณเป็นอันตรายต่อประเทศและไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง คนส่วนใหญ่จึงยังเชื่อว่าทักษิณถูกกลั่นแกล้งอยู่นั่นเอง

ขณะเดียวกันในหมู่คนเสื้อแดงก็มีการเคลื่อนไหวคู่ขนานโดยอาศัยมวลชนกลุ่มเดียวกัน เพื่อต่อต้านระบอบกษัตริย์และก่อตั้งระบอบสาธารณรัฐอยู่ด้วย จึงมีคนกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวด้วยความรุนแรงและติดอาวุธเข้ามาต่อสู้ จนกระทั่งใช้อาวุธสงครามทำร้ายฝ่ายที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกับตัวเอง พวกนิยมอุดมการณ์นี้มีทั้งในพรรคและนำในแกนนำการเคลื่อนไหวมวลชน จนไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ไม่ใช่เนื้อเดียวกัน แต่มีการแบ่งหน้าที่กันทำ แม้จะมีคำกล่าวว่า คนเสื้อแดงทั้งหมดไม่ใช่คนล้มเจ้า แต่พวกล้มเจ้าทั้งหมดเป็นคนเสื้อแดง

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า หากคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งต่อสู้เพื่อเป้าหมายสิทธิเสรีภาพความเท่าเทียมและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยไม่มีเรื่องเปลี่ยนระบอบเข้ามาเกี่ยวข้อง กับคนเสื้อเหลืองที่ต่อสู้เพื่อให้มีการใช้อำนาจอย่างเป็นธรรมนักการเมืองไม่เข้ามาแสวงหาประโยชน์จากอำนาจและรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์คนทั้งสองสีเสื้อสามารถร่วมอุดมการณ์กันได้ และจะนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมที่ดีงามได้เลย

ขณะเดียวกันคนเสื้อเหลืองเองแม้โดยเจตนาแล้วก็ไม่ได้มีใครต้องการเผด็จการเข้ามาปกครองแทนระบอบประชาธิปไตยซึ่งให้สิทธิเสรีภาพต่อประชาชน แต่เห็นว่าเป็นเพียงหนทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองชั่วคราวเมื่อเดินมาถึงทางตัน แม้จะมีคนไม่น้อยเหมือนกันที่ฝักใฝ่เผด็จการและมีความเชื่อว่า อำนาจมาจากไหนไม่สำคัญของให้ปกครองบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อยก็พอ โดยคนกลุ่มนี้นั้นชอบยกแบบอย่างผู้นำประเทศจีนมาเป็นข้อสนับสนุน

แต่ถ้าไปถามคนจีนเขาต้องการสิทธิเสรีภาพมากกว่านี้ไหมเขาก็คงต้องการ เช่นเดียวกับคนไทยที่มีความคิดไม่สนว่าผู้นำจะมาจากเผด็จการหรือไม่ในประเทศ ถ้าวันไหนที่ตัวเองรู้สึกว่าไม่มีเสรีภาพนั่นแหละจึงจะรู้สึกตัวว่า แท้จริงแล้วมนุษย์นั้นต้องการอิสระที่จะมีความคิดที่สามารถแสดงออกได้ มีเสรีภาพที่จะเลือกสิ่งที่ดีกว่า และสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้ถ้าไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน

พูดกันตามความเป็นจริงวันนี้สถานการณ์สีเสื้อทางการเมืองคลี่คลายลงเยอะแล้ว ไม่ใช่เพราะรัฐบาลทหารควบคุมไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมืองที่ทำให้เกิดความแตกแยก ด้านหนึ่งเพราะรัฐบาลทหารทำให้เห็นว่า ไม่ว่ามาจากไหนก็แสวงหาผลประโยชน์ไม่แพ้กัน การคอร์รัปชั่นไม่ได้ลดน้อยลงเลย คนที่เคยต่อต้านระบอบทักษิณแท้จริงแล้วเขาไม่ได้เกลียดการเลือกตั้งเขาเพียงแต่ต่อต้านรัฐบาลที่ฉ้อฉล คนเสื้อแดงส่วนใหญ่แท้จริงแล้วเขาไม่ได้สู้เพื่อทักษิณ แต่เขาออกมาสู้เพื่อสิทธิของตัวเอง

อาจมีอยู่บ้างที่ลิ่วล้อของทักษิณที่กินเงินเดือนเครือข่ายของทักษิณ ยังคงพยายามปลูกฝังนิยายน้ำเน่าเรื่องไพร่กับอำมาตย์และหลอกว่าพวกเสื้อเหลืองเป็นพวกสนับสนุนเผด็จการ พยายามปลูกฝังวาทกรรมแห่งความเกลียดชังให้เกิดขึ้นกับคนที่จุดยืนทางการเมืองไม่เหมือนกันตัวเองตลอดเวลา รวมถึงฝ่ายตรงข้ามทักษิณบางคนยังปลูกฝังว่ามวลชนเสื้อแดงเป็นพวกโง่คิดไม่เป็นเห็นแก่เงินจากทักษิณในเชิงหมิ่นแคลน แต่ประชาชนสองฝั่งที่เรียนรู้การเมืองมาช่วงสิบปีมานี้น่าแยกแยะผิดถูกได้ด้วยตัวเองมากกว่าการชี้นำ

ถ้าเราเห็นการสำรวจของโพลต่างๆในยุคหลังในหลายโพลล้วนแล้วแต่มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ประชาชนไม่ต้องการให้รัฐบาลทหารสืบทอดอำนาจ ไม่ว่าจะเคยมีประสบการณ์จากรัฐบาลนักการเมืองแบบไหนก็ตาม เพราะหลายคนคงคิดได้ว่าการปล่อยให้เผด็จการฝังรากลึกในสังคมนั้นมันมีผลเสียมากกว่านั่นเอง

หากพิจารณาอย่างแท้จริงไม่ว่ามวลชนฝั่งไหนก็ล้วนแล้วแต่มีความปรารถนาดีและต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุขและมั่นคงทั้งสิ้น จุดยืนทางการเมืองไม่ใช่สิ่งที่ผิด ถ้าแยกแยะเรื่องประโยชน์ได้ประชาชนสองฝั่งก็มาบรรจบเป็นเนื้อเดียวกันได้

 ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan




กำลังโหลดความคิดเห็น