ผู้จัดการรายวัน360-กระทรวงการต่างประเทศประท้วง “รมต.แกมเบีย” ปากเสีย พูดคะนองกล่าวหาไทยสวรรค์เซ็กซ์ทัวร์ "วีระ"ยันมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวไทยเปลี่ยนไปแล้ว เน้นเชิงวัฒนธรรม "ดอน"หยันคำพูดไร้น้ำหนัก ขอจบเรื่องนี้โดยเร็ว ยันไม่ฟ้องร้อง ด้าน "บิ๊กตู่"ยอมรับในสายตาต่างชาติไทยถูกมองเป็นตลาดเซ็กซ์ วอนทุกฝ่ายแก้ปัญหาอาชีพ สร้างรายได้ และใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิด
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยถึงกรณีนายฮามัท บาห์ รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวของแกมเบีย ระบุเตือนนักท่องเที่ยวตะวันตกที่นิยมเดินทางเข้าไปในแกมเบียว่าไม่ใช่จุดหมายปลายทางด้านเซ็กซ์ แต่จุดหมายเป็นประเทศไทย ว่าตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือประท้วงเรื่องดังกล่าวไปแล้ว เพราะผู้นำประเทศไม่ควรจะออกมาพูดในลักษณะนี้ และเรื่องดังกล่าวคงต้องให้กระทรวงการต่างประเทศออกมาชี้แจง
ถามว่าการที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวแกมเบียออกมาพูดเช่นนี้ แสดงว่าเซ็กซ์ทัวร์มีอยู่จริงในประเทศไทยใช่หรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ประเทศไทยได้ปรับเรื่องดังกล่าวไปแล้ว จากการที่กระทรวงวัฒนธรรมทำเรื่องคุณธรรม จริยธรรม คิดว่าทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นมาก เวลามีประเด็นที่ไม่เหมาะสม คนไทยก็ออกมาแสดงความคิดเห็น ภาพแบบนั้นเป็นภาพที่เคยมีอยู่จริง แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวของประเทศไทยเปลี่ยนไปเป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ก็เคยกล่าวหาในทำนองว่าประเทศไทยเป็นดินแดนเซ็กซ์ทัวร์จนถูกบรรดา ส.ส.ฝ่ายค้าน และสื่อมวลชนในประเทศวิจารณ์อย่างหนักมาแล้ว
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไทยได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว โดยยังไม่ทราบว่านายฮามัท มีเจตนาอย่างไร ที่ได้พูดพาดพิงประเทศไทย เราอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ส่วนจะเป็นอย่างที่นายฮามัทพูดหรือไม่ ก็ถือเป็นเรื่องของเรา ก็ต้องว่ากันไป หากไม่จริง ก็เป็นเรื่องดี ถ้าจริงก็อยากให้ลดลงหน่อย ซึ่งหลายประเทศก็มีลักษณะนี้
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ประเทศไทยยังถูกมองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว "เซ็กซ์ทัวร์" ทั้งจากคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และแกมเบีย และมีการตอกย้ำที่ชาวรัสเซียเข้ามาเปิดโรงเรียนสอนการมีเพศสัมพันธ์ ที่พัทยา ว่า ต้องยอมรับว่ามีคำกล่าวเช่นนี้มานาน ต้องยอมรับในความจริงที่ว่ามันยังมีคนที่หากินในอาชีพเหล่านี้อยู่ จึงต้องช่วยกันแก้ปัญหาอาชีพและรายได้ให้กับคนเหล่านี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ได้ การดำเนินการทางกฎหมาย จะทำให้มีผู้เดือดร้อนจำนวนมาก ทั้งผู้ที่เดือดร้อนโดยสุจริตและไม่สุจริต ก็ต้องมาดูว่า ทำอย่างไรจะไม่เกิดผลกระทบในวงกว้างจนมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อภาพรวมอื่นๆ
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยถึงกรณีนายฮามัท บาห์ รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวของแกมเบีย ระบุเตือนนักท่องเที่ยวตะวันตกที่นิยมเดินทางเข้าไปในแกมเบียว่าไม่ใช่จุดหมายปลายทางด้านเซ็กซ์ แต่จุดหมายเป็นประเทศไทย ว่าตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือประท้วงเรื่องดังกล่าวไปแล้ว เพราะผู้นำประเทศไม่ควรจะออกมาพูดในลักษณะนี้ และเรื่องดังกล่าวคงต้องให้กระทรวงการต่างประเทศออกมาชี้แจง
ถามว่าการที่รัฐมนตรีท่องเที่ยวแกมเบียออกมาพูดเช่นนี้ แสดงว่าเซ็กซ์ทัวร์มีอยู่จริงในประเทศไทยใช่หรือไม่ นายวีระกล่าวว่า ประเทศไทยได้ปรับเรื่องดังกล่าวไปแล้ว จากการที่กระทรวงวัฒนธรรมทำเรื่องคุณธรรม จริยธรรม คิดว่าทำให้เรื่องนี้ดีขึ้นมาก เวลามีประเด็นที่ไม่เหมาะสม คนไทยก็ออกมาแสดงความคิดเห็น ภาพแบบนั้นเป็นภาพที่เคยมีอยู่จริง แต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวของประเทศไทยเปลี่ยนไปเป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ก็เคยกล่าวหาในทำนองว่าประเทศไทยเป็นดินแดนเซ็กซ์ทัวร์จนถูกบรรดา ส.ส.ฝ่ายค้าน และสื่อมวลชนในประเทศวิจารณ์อย่างหนักมาแล้ว
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไทยได้ทำหนังสือประท้วงไปแล้ว โดยยังไม่ทราบว่านายฮามัท มีเจตนาอย่างไร ที่ได้พูดพาดพิงประเทศไทย เราอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ส่วนจะเป็นอย่างที่นายฮามัทพูดหรือไม่ ก็ถือเป็นเรื่องของเรา ก็ต้องว่ากันไป หากไม่จริง ก็เป็นเรื่องดี ถ้าจริงก็อยากให้ลดลงหน่อย ซึ่งหลายประเทศก็มีลักษณะนี้
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ประเทศไทยยังถูกมองว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว "เซ็กซ์ทัวร์" ทั้งจากคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และแกมเบีย และมีการตอกย้ำที่ชาวรัสเซียเข้ามาเปิดโรงเรียนสอนการมีเพศสัมพันธ์ ที่พัทยา ว่า ต้องยอมรับว่ามีคำกล่าวเช่นนี้มานาน ต้องยอมรับในความจริงที่ว่ามันยังมีคนที่หากินในอาชีพเหล่านี้อยู่ จึงต้องช่วยกันแก้ปัญหาอาชีพและรายได้ให้กับคนเหล่านี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ได้ การดำเนินการทางกฎหมาย จะทำให้มีผู้เดือดร้อนจำนวนมาก ทั้งผู้ที่เดือดร้อนโดยสุจริตและไม่สุจริต ก็ต้องมาดูว่า ทำอย่างไรจะไม่เกิดผลกระทบในวงกว้างจนมากเกินไป จนส่งผลกระทบต่อภาพรวมอื่นๆ