xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤตประเทศ-เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"โสภณ องค์การณ์"

ปัญหาหลักของประเทศนี้ ที่ฝังรากลงลึกกลายเป็นวิกฤตเรื้อรัง ถึงขั้นนำพารัฐไทยอยู่ในภาวะไร้ระเบียบ เกือบเป็นรัฐล้มเหลวในระดับหนึ่งนั้น ไม่ได้มีความยุ่งยากซับซ้อนต้องตั้งคณะทำงานศึกษาวิจัยให้มากเรื่องเปลืองเบี้ยประชุมแต่อย่างใด ชาวบ้านทั่วไปก็รู้ดี

นั่นคือเจ้าหน้าที่ของรัฐส่วนหนึ่ง มีในทุกระดับ มีอำนาจหน้าที่กำหนดชัดเจนตามบทบัญญัติของกฎหมาย ไม่ปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมายตามตำแหน่ง ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย นอกจากไม่ทำงานแล้ว ยังมุ่งเน้นแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว ด้วยการทุจริต

บ้านเมืองถึงได้มีปัญหาทุกวันนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่รักษากฎหมาย ทำตามหน้าที่ แล้วแผ่นดินดันมีเคราะห์กรรมซ้ำเติม ได้คณะผู้บริหารประเทศเฮงซวย เอาแต่โกง รักษาผลประโยชน์ของเครือข่าย เพื่อนพ้องน้องพี่ ไม่รู้สำนึก หน้าด้าน ยิ่งเป็นสภาวะแสนสาหัส

การบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน อุทยาน ที่สาธารณะ เป็นล้านๆ ไร่ ภูเขาหัวโล้นในหลายจังหวัดภาคเหนือ แหล่งรีสอร์ททั่วประเทศ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ทำหน้าที่รักษากฎหมาย บางพวกใช้อิทธิพลครอบครองเอง ช่วยเหลือเพื่อนพ้องน้องพี่ กฎหมายสิ้นสภาพบังคับ

ไปทวงคืนพื้นที่โดยใช้กฎหมาย ก็ถูกผู้ครอบครองโดยผิดกฎหมายใช้วิธีการทางกฎหมายและทนายความต่อสู้แบบยืดเยื้อ วิ่งเต้นวงในวงนอก แม้จะมีคำพิพากษาให้เป็นฝ่ายแพ้คดี ก็ยังไม่ยอมถอนออกนอกพื้นที่นั้นไปอย่างง่ายๆ เมื่อคนไม่เกรงกลัวกฎหมาย

คนในแผ่นดินนี้กลัวคนมีเงิน ไม่กลัวกฎหมาย ทำให้คนมีเงินอยู่เหนือกฎหมาย อย่างเช่นความกังขาของประชาชนในคดีดังเรื่องนาฬิกา เสี่ยนักล่าเสือดำ ลูกกระทิงแดง เสี่ยบรรยิน หรือคดีอื่นๆ ที่เจ้าหน้าที่ “จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย” สุดท้ายก็เหลว

ไม่ต้องพูดถึงกรณี 2 อดีตนายกรัฐมนตรีหนีคุก หนีหมายจับ เร่ร่อนอยู่ต่างประเทศเย้ยกฎหมายรัฐไทย ฝ่ายที่เกี่ยวข้องปัดสวะให้พ้นตัว โยนกลองกันไปมา ที่น่าสมเพชสุดๆ คือรัฐบาลที่หัวหน้ากุมอำนาจคับแผ่นดินทำอะไรไม่ได้ อ้างนั่นนี่โน่น ชาวบ้านรู้สึกทุเรศ

อ้างธรรมาภิบาล กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย พ่นลมโม้เอาตัวรอดไปแต่ละวัน!

เรื่องเด็กแว้นยังไม่มีปัญญาจัดการให้เด็ดขาด แถมมีปัญหายาเสพติดระบาด เจ้าหน้าที่จับได้จำนวนมากทุกวัน ชาวบ้านคิดว่าผู้ผลิตยาบ้าฉลาดกว่ารัฐบาลไทย ผลิตยาบ้าราคาถูกๆ เม็ดไม่กี่บาทมาขายให้รัฐบาลไทย จ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่คนจับกุม

กรณีป้าทุบรถกระบะที่จอดขวางหน้าบ้านวันก่อนนั่นแหละ สะท้อนให้เห็นความไม่เอาไหนของเจ้าหน้าที่ซึ่งควรรับผิดชอบรักษากฎหมายอย่างจริงจัง นอกจากไม่ทำหน้าที่ยังมีลีลาถูกมองว่าเข้าข้างเจ้าของตลาด จนผู้ว่าฯ กทม. ชี้ว่ามี 3 ตลาดเถื่อนที่นั่น

เป็นไปได้อย่างไร ที่มีตลาดเถื่อน 3 แห่งในบริเวณนั้น ซึ่งมีตลาดอยู่ 7 แห่ง และตลาดที่เหลือยังมีสถานภาพไม่ชัดเจน ขายอะไรได้ ขายอะไรไม่ได้ หัวหน้าเขตประเวศ ซึ่งนั่งหน้าจ๋อยหมดมาดผู้มีอำนาจ ได้รับคำสั่งจากผู้ว่าอัศวินให้แยกแยะให้ชัดเจนในเร็ววัน

มีความพิสดารประกอบเรื่อง ในยุคต้นก่อนที่ตลาดจะเฟื่องฟู เจ้าหน้าที่ กทม. นั่นแหละมาแบ่งพื้นที่เป็นแปลงย่อยให้ผู้ค้าเช่า ทั้งๆ ที่ต้นตระกูลโคตรเหง้าเหล่ากอของเจ้าหน้าที่พวกนั้นไม่ได้เป็นเจ้าของถนน หรือมีเอกสิทธิ์ กรรมสิทธิ์ในพื้นที่บริเวณนั้น

นอกจากไม่รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด รักษากฎเกณฑ์ จัดระเบียบให้ประชาชนคนเสียภาษีอยู่อย่างเป็นสุขภายไต้กฎหมายเดียวกัน ดันมาแสวงหาผลประโยชน์จากคนมีเงิน เพิกเฉยต่อคำร้องเรียนของชาวบ้าน เจ้าของบ้านทนทุกข์มานานกว่า 10 ปี

คำถามง่ายๆ ให้หัวหน้าเขต และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องต้องตอบคือ “ปล่อยให้ตลาดเถื่อนทำมาหากินในพื้นที่นั้นได้อย่างไร เจ้าของตลาดเถื่อนมีรายได้ แล้วเสียภาษีเงินได้อย่างถูกต้องหรือไม่ เจ้าหน้าที่สรรพากรที่ทำงานในพาราไดซ์ ปาร์ก จะตรวจสอบหรือไม่ ถ้าไม่ตรวจสอบ ทำไมถึงไม่ตรวจสอบว่าเจ้าของตลาดมีรายได้แล้วเสียภาษีหรือไม่”

ผู้ว่าฯ กทม. มีคำสั่งให้ปิดตลาดเถื่อนภายใน 7 วัน เรื่องคงไม่ง่ายปานนั้น พ่อค้า แม่ค้า ไม่ใช่มนุษย์สายพันธุ์ธรรมดา ปัญหาการค้าขายของบนฟุตบาทในหลายพื้นที่ใช้ข้ออ้างคนทำมาหากิน คนยากจน เป็นตัวขับเคลื่อน จะต้องหาทางยื้อยืดนานจนถึงที่สุด

ทำไมเสี่ยชูวิทย์จ้างกลุ่มชายฉกรรจ์ไปรื้อบาร์เบียร์ ร้านค้าในพื้นที่ของตัวเอง ต้องติดคุกเกือบ 2 ปี เพราะเมื่อมีตลาดเถื่อน คนค้าขายในบริเวณนั้นต้องรู้ว่าตัวเองละเมิดกฎหมาย เข้าไปค้าขายในตลาดเถื่อน เมื่อกฎหมายไร้ผล บางกลุ่มจึงใช้วิธีเถื่อนจัดการ

การรื้อขับไล่พ่อค้าในตลาดหลายแห่งเคยเกิดขึ้น เพราะการไม่เคารพกฎหมายโดยทุกฝ่าย ทำให้บ้านเมืองเหมือนไร้ขื่อแป ใครมีอำนาจ เครือข่ายผู้ถือกฎหมายก็ได้เปรียบ

แม้จะมีคำสั่งให้เลิกตลาดเถื่อน รื้อทิ้ง พ่อค้าแม้ค้าซึ่งเคยได้ผลประโยชน์จะต้องมีข้ออ้างเพื่อให้ได้อยู่ต่อ อาจรวมตัวชุมนุมเรียกร้องต่อรอง ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่เด็ดขาด เคยได้รับผลประโยชน์ไม่เปิดเผย จะทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปได้ยาก ผู้อาศัยมีทุกข์ต่อไป

เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่รักษากฎหมาย ก็นำไปสู่การทุจริต คอร์รัปชั่น สังคมไม่เป็นธรรม คนด้อยโอกาส คนยากจน ไม่มีเครือข่าย ถูกกดขี่ข่มเหง นั่นเป็นเหตุในอดีต ในยุคนี้ คนมีเงินอย่างบ้านป้าใกล้ตลาดมีโอกาสแค่ใช้เงินจ้างทนายนำเรื่องสู่ศาล จิตใจสุดบอบช้ำ

ดูสภาพบ้านที่โดนล้อมโดยตลาดและที่จอดรถแล้ว บอกได้แต่ว่า “ใครไม่โดนไม่รู้” ถามคนที่ตกอยู่ในสภาวะเช่นนั้นว่าจะ “หาทางออกอย่างไร” คำตอบคงไม่เหมือนกัน เพราะตลาดไม่ใช่สถานที่น่าอภิรมย์ คุณภาพคนในพื้นที่เช่นนั้นเป็นอย่างไร ไม่ต้องบอก

กรณีนี้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดเถื่อน 3 แห่ง และพวกที่จะต้องสูญเสียผลประโยชน์จากการปิดตลาด รายได้ที่ลดลง ไม่ควรไปโทษเจ้าของบ้าน แต่ควรแช่งชักหักกระดูกคนขับรถกระบะเจ้าปัญหามากกว่า ทั้งๆ ที่ดูแล้วเธอไม่ใช่คนแรกที่ทำอย่างนั้น ในจุดนั้น

ตำรวจมาตั้งโต๊ะล็อกล้อรถยนต์ เก็บเงินจากเจ้าของรถจอดผิดที่เกือบทุกวัน!

เพียงแต่ว่าวันนั้น การจอดรถ ล็อกเกียร์ ทำให้คุณป้าเกิดอารมณ์ระเบิด ต้องคว้าขวาน เสียมทุบรถจนเสียหาย เป็นคดีความฟ้องร้องกันและผิดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเป็นป้า ก็ต้องถือว่าสุดคุ้ม เพราะได้เปิดเรื่องให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ นำไปสู่การปิดตลาด

ดูว่าเรื่องรถกับเรื่องปิดตลาด เรื่องใดจะมีบทสรุปก่อนกัน เรื่องปัญหาตลาดกับชุมชนที่นั่น คงเป็นหนังชีวิตเรื่องยาว บ้านป้าคงไม่มีความสุขมากนัก ได้ศัตรูเพิ่มเยอะ!

ถ้าผู้นำทำเนียบโคมแดงมุ่งแต่โครงการไทยนิยมถมไม่เต็ม เล่นลีลาสารพัด ล่าสุดโชว์ลวดลายพายเรือในอ่างอวดชาวบ้าน การปฏิรูปเจ้าหน้าผู้รักษากฎหมายคงไม่ไปถึงไหน บ้านเมืองยังคงจมปลักอยู่กับปัญหาเดิมๆ จนกว่าจะเกิดกลียุค มิกสัญญีนั่นแหละ!




กำลังโหลดความคิดเห็น