xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กตู่เดินหน้าไทยนิยมอ้อนคนนครปฐมอย่าลืมฉัน"จันทร์โอชา"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360 "บิ๊กตู่"คิกออฟ "ไทยนิยม ยั่งยืน" จ.นครปฐม บอกประชาชนใจเย็นๆ เรื่องเลือกตั้ง และอย่าเอาราคาพืชเกษตรไปโยงการเมือง อ้อนไม่ได้มาให้รัก หรือหวังผลการเมือง เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งให้เลือกรัฐบาลของปวงชน ไม่ใช่รัฐบาลของคนใดคนหนึ่ง ก่อนอ้อนทิ้งท้าย อย่าลืมคนตระกูลจันทร์โอชา

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (21 ก.พ.) ที่ศูนย์การเรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.แหลมบัว) หมู่ที่ 8 ต.แหลมบัว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางลงพื้นที่ ทำกิจกรรมโครงการไทยนิยมยั่งยืน เป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ เมื่อนายกฯเดินทางไป ได้มีอาสาสมัครหมู่บ้าน (อส.) คนหนึ่งได้นำพระสมเด็จวัดระฆัง มามอบให้เป็นที่ระลึก ขณะที่นายกฯได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ขอให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อถึงเวลา และที่มาวันนี้ ก็มารับฟังปัญหาเพื่อจะนำไปแก้ไขให้ ขอเพียงว่าต้องช่วยกันทำ วันนี้รัฐบาลกำลังสู้กับความยากจน และสิ่งไม่ดี ดังนั้นเมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ขอให้เลือกให้ดี

"วันนี้เห็นแววตาทุกคน สิ่งที่ทุกคนมารักผม มันกดดันผม ไม่ใช่หวังผลการเมืองว่าดีใจ มีคนมารับ ปรบไม้ปรบมือ แต่สะท้อนให้เห็นว่า เรายังต้องการความหวังในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน จากวันนี้เป็นต้นไป คณะทำงานไทยนิยม ยั่งยืน จะลงพื้นที่ทุกหมู่บ้าน 7 พันกว่าชุด เพื่อสอบถามความต้องการและแก้ปัญหาประชาชนให้ตรงจุด ฉะนั้นเรื่องการเลือกตั้ง เดี๋ยวก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ตามขั้นตอน สิ่งสำคัญวันนี้ จะได้รัฐบาลที่เป็นของปวงชนชาวไทย ถ้าเลือกรัฐบาลที่เป็นของใครของมัน จะเป็นปัญหาแบบเดิม ก็ตีกันอีก ต้องเลือกรัฐบาลที่ดูแลคนทั้งประเทศ ส.ส.ส่งความต้องการขึ้นไป รัฐบาลก็ดูว่าตรงไหนควรจะทำ ไม่ใช่หว่านไปเรื่อย แล้วเมื่อไรจะพอ ซึ่งวันนี้ก็ยังเข้มแข็งไม่พอ แสดงว่าต้องบริหารใหม่ ใจเย็นๆได้ไหม" นายกฯ กล่าว

นายกฯกล่าวอีกว่า วันนี้พืชการเกษตร เป็นพืชการเมืองทั้งหมด รัฐบาลจะต้องแก้ไขตรงนี้ ไม่อยากให้นำเรื่องการเกษตรมาเกี่ยวข้องกับการเมือง และอยากให้ทุกคนสนใจเรื่องข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง อย่าสนใจแค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น อยากรู้ว่าใครเป็นเจ้าของหวย 30 ล้าน

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับชาวบ้านว่า "สัญญาได้หรือไม่ว่า จากนี้จะช่วยกัน ถ้าสัญญาก็ขอให้ยกมือขึ้น" โดยประชาชนได้ยกมือขึ้นพร้อมกัน ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะกล่าวตอบว่า "ไอเลิฟยู"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกร จ.นครปฐม ที่มาให้การต้อนรับ ส่วนใหญ่ร้องขอให้นายกฯ ช่วยเรื่องของราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ ทั้งราคาข้าว กข.43 มะพร้าวน้ำหอมสามพราน ผักปลอดสารพิษ ปลาสวยงาม กุ้งอินเดีย โดยในส่วนของมะพร้าวสามพราน ที่ปลูกกันรวมกว่า 400 ไร่ นายกฯ แนะนำว่า ต้องไปดูว่าจะเอามะพร้าวน้ำหอมไปทำอะไรได้อีก ไม่อย่างนั้นก็ต้องเอาไปทำอย่างอื่น ตื่นเช้ามาเอาน้ำมะพร้าวน้ำหอมล้างหน้า ทั้งนี้ทันทีที่นายกฯพูดจบ ทำเอาเกษตรกรหัวเราะ และนายกฯได้กล่าวว่า " มีประโยชน์นะ น้ำมะพร้าวน้ำหอม ดีกว่ากินเกลือแร่ขวดด้วย โฆษณาให้แล้ว ช่วยกินเยอะๆ แต่อย่าขายแพงมากนะ เดี๋ยวให้กระทรวงพาณิชย์ รับเรื่องไป ให้คำนึงถึงความต้องการตลาด เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน เมื่อดีค่อยขยาย ราคาจะได้ไม่ตก แต่เมื่อขยายไปแล้ว ทุกคนเฮมาปลูกมะพร้าว ราคาก็ตก ไม่มีอะไรดีขึ้น จึงต้องมีหลักคิดใหม่"

จากนั้นนายกฯ ได้เดินชมศูนย์การเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตสินค้าเกษตร ที่ประสบความสำเร็จจากการน้อมนำแนวพระราชดำริ ศาสตร์พระราชา เพื่อลดต้นทุนการผลิต ระหว่างนั้น มีชายวัยกลางคน ได้ตะโกนเชียร์ให้นายกฯ อยู่ต่ออีก 20 ปี โดยนายกฯได้กล่าวทันทีว่า เอาไว้เชียร์เป็นการส่วนตัว เดี๋ยวคนด่าอีก จากนั้นนายกฯได้ไปทำการโยนต้นกล้าข้าวนาโยน เป็นที่ระลึกในการตรวจเยี่ยม ปรากฏว่า ช่วงหนึ่ง นายกฎษฎา บุญราช รมว.เกษตรฯ ได้ทดลองโยนกล้าข้าว แต่เนื่องจากโยนไม่เป็น และลมพัดแรง ทำให้กล้าข้าวปลิวกลับมาหล่นใส่นายกฯ และตัวเอง ทำให้สร้างรอยยิ้ม จากคนที่เห็นเหตุการณ์

จากนั้นนายกฯ ได้ปลูกต้นจัน ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดนครปฐม พร้อมกล่าวว่า ถ้าเห็นต้นจันนี้ ก็ขอให้คิดถึงตนด้วย และถ้านึกถึงนายกฯ ก็ขอให้นึกต้นจันต้นนี้ เพราะตรงกับนามสกุลจันทร์โอชา พอดี

ต่อมา นายกฯและคณะ ได้เดินทางไปที่ บ้านศาลาดิน ต.มหาสวัสดิ์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เยี่ยมชมแปลงนาบัวลุงแจ่ม สวัสดิ์โต ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทาน และเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปที่ดินในประเทศไทย ซึ่งนายกฯ ได้ลงเรือพร้อมพายเรือด้วยตัวเอง โดยกล่าวว่า ไม่ต้องมีใครมาพายให้ พายเองได้ เพราะบ้านติดคลอง เคยพายเรือมาก่อน ขณะเดียวกันได้ให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สอบถามเรียนรู้วิธีการปลูกบัว เพื่อนำไปปลูกที่ทำเนียบรัฐบาล และปลูกอย่างไร ไม่ให้ปลากินบัวหมด

จากนั้นนายกฯได้ไปพบปะกับประชาชน ที่เวทีประชาคม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน ระดับตำบล พร้อมกล่าวกับชาวบ้านว่า สิ่งที่รัฐบาลนำมาแนะนำ มีทั้งการเกษตรการท่องเที่ยว เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ โดยประชาชนต้องรวมกลุ่มกัน เพื่อให้รัฐบาลสนับสนุน ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้ทุกคนทิ้งการเกษตร แต่ทำอย่างไรที่จะให้อยู่ได้ ซึ่งต้องปรับรูปแบบการเกษตรใหม่ทั้งหมด พร้อมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์ อย่าทำแบบเดิม เราต้องหันกลับมาดูเพื่อนบ้านด้วย และภาคเอกชนก็ต้องมาช่วยกันในเรื่องของการตลาดพร้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้

สำหรับโครงการไทยนิยมยั่งยืน หมายถึง คนไทยนิยมการสร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ ซึ่งโครงการไทยนิยมนี้ จะไม่ยอมให้เกิดการทุจริต ทุกบาททุกสตางค์ จะต้องไม่รั่วไหล หากพบมีการทุจริต ขอให้แจ้งมา จะดำเนินการให้ และ ขออย่าให้ใครมาบิดเบือน ว่าจะทำอะไรให้อีก อย่าให้เขามาบิดเบือนว่า จะให้ราคาข้าวเท่านั้น เท่านี้ เพราะจะยิ่งจะทำให้ราคาข้าวตกกว่าเดิม

"ส่วนเรื่องของประชาธิปไตยไทย จะต้องเป็นประชาธิปไตยที่ยั่งยืนเป็นสากล ถึงเวลาเลือกตั้ง ก็ต้องไป ถ้าบอกไม่ไปเลือกตั้งดีกว่า อันนี้เสร็จเลย ต้องเลือกให้ดี ต้องรู้เรื่องประชาธิปไตยเป็นอย่างไร ประชาธิปไตยไม่ใช่การมาเดินประท้วง ดังเช่นที่กลุ่ม We Walkทำนั้น ไม่เกิดประโยชน์ ควรหันหน้าหารัฐบาล มาให้ข้อมูลจะดีกว่า" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงบ่าย นายกฯพร้อมคณะ เดินทางไปที่สหกรณ์โคนมกำแพงแสน จำกัด อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อเป็นประธานสังขีพยานในโอกาสผวจ.นครปฐม มอบโรงเรือนถอดประกอบได้ เครื่องจักรกลการเกษตร (รถไถ) และเครื่องสีข้าว ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร โฮกาสนี้ นายกฯได้พูดกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มาต้อนรับ ว่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นกลไกสำคัญในการเป็นประชาธิปไตยทั้งนั้น เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญ ให้ถูก เข้าใจสิ่งที่ตนพูดหรือเปล่า อย่าให้ต้องพูดมากกว่านี้เลย อย่าให้เป็นแบบเดิม มันเสียเวลา และอย่าไปฟัง เพราะบางคนพูดที่ชอบพูดอะไรเลอะเทอะ

"ไม่ว่าประเทศจะขัดแย้ง หรือมีการเมืองอย่างไร จะเป็นประธิปไตยอย่างไร ก็ขอให้คิดถึงลูกหลานที่รออนาคตอยู่ ถ้าวันนี้คนยังตีกัน แล้วลูกหลานจะอยู่อย่างไร อย่ามาว่าผมว่า มาถูกวิธีหรือไม่ เพราะมันคนละเรื่อง ถ้าไม่มีเหตุการณ์ ผมก็มาไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนการเลือกตั้ง ก็ไปว่ากันมา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราจะตีกันอีกไม่ได้แล้ว เพราะลูกหลานจะอยู่ไม่ได้ ท้องถิ่นจะต้องพัฒนาตัวเอง ตนไม่ได้ต้องการจะรังแกใครทั้งสิ้น เพียงแต่ทุกอย่างต้องเดินหน้า ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องแก้ไข ถ้าทำดีมันก็จบแค่นั้นเอง ขอให้เชื่อมั่น จากนั้น นายกฯได้กล่าวลาว่า “บ๊ายบาย ไอเลิฟยู”พร้อมกับชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ ผมรักคุณ


กำลังโหลดความคิดเห็น