คดีสองคุณป้าทุบรถสาวที่จอดขวางหน้าบ้าน ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า หน้าสวนหลวง ร. 9 ด้านถนนศรีนครินทร์ นำไปสู่ทัศนะและมุมมองต่อเหตุการณ์ที่หลากหลาย เห็นด้วยกับสองคุณป้าก็ไม่น้อย เห็นใจเจ้าของรถที่จอดปิดทางเข้าออกบ้านคนอื่นก็มี
คดีทุบรถจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเจ้าของรถตระหนักในสิทธิของบุคคลอื่น ไม่คิดง่ายๆ ไม่คิดเข้าข้างตัวเอง จอดรถแป๊บเดียวคงไม่เป็นไร โดยมองข้ามความเดือดร้อนของคนอื่น
สองคุณป้า แม้ว่าจะทำเกินกว่าเหตุ แต่ถ้าย้อนดูเรื่องราวลงลึกในรายละเอียด สังคมส่วนใหญ่ยืนอยู่ฝ่ายคุณป้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ เพราะถูกละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมายาวนาน
หมู่บ้านที่เคยสงบสุข ถูกแปรสภาพให้เป็นชุมชนที่สับสนวุ่นวายกลายเป็นตลาด มีการตั้งร้านค้ากีดขวางเส้นทางสัญจร จอดรถปิดทางเข้าออก จนผู้อยู่อาศัยในหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อน และแม้จะร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาแก้ไข แต่ไม่มีหน่วยงานใดแก้ปัญหาได้
แม้พึ่งกระบวนการยุติธรรม ฟ้องศาลเพื่อปกป้องสิทธิของตัวเองจนชนะ แต่ไม่มีหน่วยงานใดมาบังคับใช้กฎหมาย ทำให้คุณป้าต้องแบกรับแรงกดดันจากสังคมที่มักง่าย ไม่เคารพกฎหมาย ไม่คำนึงถึงสิทธิของบุคคลอื่น
หมู่บ้านเสรีวิลล่า เดิมเป็นที่ดินจัดสรรสำหรับผู้มีฐานะ ตั้งอยู่หลังห้างพาราไดซ์ หรือเสรีเซ็นเตอร์เดิม ถนนศรีนครินทร์ ขึ้นอยู่กับเขตประเวศ ท้องที่ สน.ประเวศ
บ้านที่สองคุณป้าปลูกสร้างอยู่ เคยเป็นหมู่บ้านที่สงบ เปลี่ยวด้วยซ้ำ
แต่หลังจากเปิดสวนหลวง ร. 9 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2530 บริเวณหมู่บ้านเริ่มจอแจ เพราะมีทั้งประชาชนที่มาเที่ยวสวนหลวง ร. 9 มีทั้งประชาชนที่มาออกกำลังกาย และตามด้วยร้านค้า
จากจำนวนไม่กี่ร้านค้าแผงลอยที่ตั้งบนทางเท้า กลายเป็นร้านค้านับสิบรายที่ตั้งเรียงรายสองฝั่งซอย พื้นที่ว่างเปล่าถูกพัฒนาขึ้นเป็นตลาดนัดขนาดย่อม จากเพิงเล็กๆ เริ่มก่อสร้างเป็นแผงลอยถาวร รถจอดระเกะระกะ ทั้งรถพ่อค้า แม่ค้า รถคนที่จอดซื้อของ ส่งผลให้จราจรมีปัญหา
หมู่บ้านเสรีวิลล่าที่เคยสงบ เจอผลกระทบเต็มเป้า ทั้งการจราจร ทั้งความอึกทึกครึกโครม ทั้งการถูกละเมิดสิทธิ การตั้งร้านค้า จอดรถกีดขวางเส้นทางสัญจร กระทั่งการละเมิดสิทธิโดยจอดรถขวางทางเข้าออกบ้าน
การจอดรถมักง่าย จอดรถในที่ห้ามจอด จอดรถขวางทางเข้าออก จอดรถข้างถนนเพื่อซื้อของในร้านสะดวกซื้อจนการจราจรติดขัด จอดรถขวางรถคันอื่นโดยไม่ปลดเกียร์ว่างหรือใส่เบรกมือไว้ จอดรถหน้าบ้านคนอื่น เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกหัวระแหง
การจอดรถที่เห็นแก่ตัว ละเมิดสิทธิคนอื่น นำไปสู่คดีทะเลาะการวิวาท หรือฆ่ากันตายนับไม่ถ้วน
ทั้งที่ไม่ควรมีใครต้องตายหรือติดคุกเพราะการจอดรถมักง่าย
ถ้ามีการรณรงค์ให้เคารพสิทธิของคนอื่น มีการอบรมให้ตระหนักถึงการเคารพกฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐใส่ใจในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด จัดระเบียบการจราจรอย่างจริงจัง ปัญหาการจอดรถจะไม่ลุกลามบานปลาย
ชาวบ้านไม่ต้องเกิดบาดหมางทะเลาะกันเอง เพราะเมื่อทุกคนเคารพกฎหมาย สังคมจะกลับสู่ความสงบสุข
แต่ไม่มีหน่วยงานใดกวดขันปัญหาจราจร ปัญหาการจอดรถผิดกฎหมายถูกปล่อยปละละเลย จนคนติดนิสัยมักง่าย ไร้วินัย ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนหรือละเมิดสิทธิคนอื่น
สองคุณป้า เป็นเพียงเหยื่อของสังคมที่ไร้กฎระเบียบ ต้องตกเป็นคู่กรณีของคนไม่เคารพกฎหมาย
ถ้าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง รักษากฎหมายอย่างเข้มข้น สองคุณป้า คงไม่ต้องเปิดปฏิบัติการลุยแหลกคนที่จอดรถมักง่ายขวางหน้าบ้าน
แม้จะเป็นปฏิบัติการที่ห้าวไปนิด เกินกว่าเหตุไปหน่อย แต่กลับมีกองเชียร์เต็มบ้านเต็มเมือง เพราะเข้าใจในแรงกดดัน และเคยมีประสบการณ์ในฐานะหัวอกเดียวกันกับคุณป้า
คุณป้าทุบรถ เป็นเพียงเหยื่อรายหนึ่งที่ต้องแบกรับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่รัฐที่เพิกเฉยละเลยการปฏิบัติงานเท่านั้น
คดีพิพาทการจอดรถมักง่าย สองคุณป้าไม่น่าตกเป็นจำเลยของสังคม เพราะคนที่ควรถูกรุมประณาม คือข้าราชการที่ไม่มีสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้สิทธิของคุณป้าถูกรุกรานมานับสิบปี
งานนี้ เขตประเวศรับคำประณามไปเต็มๆ