ผู้จัดการรายวัน360- "วัชระ"จี้ นายกฯสอบ"สมยศ"ผิดจริยธรรมข้าราชการ ที่บอกว่างานตำรวจเป็นไซด์ไลน์ และยืมเงิน"เสี่ยกำพล"ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ 300 ล้าน ด้าน"เรืองไกร" ยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน มีรายการเงินกู้ 300 ล้านหรือไม่ และหากกู้เงินแต่ไม่เสียดอกเบี้ย เข้าข่ายรับผลประโยชน์จากผู้อื่น ผิดกฎหมายป.ป.ช. ขณะที่"สมยศ" ประสาน ดีเอสไอ ขอปมเงินกู้ 300 ล้าน ช่วงบ่าย 15 ก.พ.นี้
วานนี้ (14ก.พ.) ที่ศูนย์บริการประชาชน บริเวณสำนักงานก.พ. นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ขอให้ตรวจสอบกรณี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ระบุว่า อาชีพตำรวจ คืองานไซด์ไลน์ รวมถึงกรณียืมเงินจากนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์
นายวัชระ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้แต่งตั้งพล.ต.อ.สมยศ ให้เป็นผบ.ตร. เป็นสมาชิกคสช. และสมาชิกสนช. แต่การกระทำของพล.ต.อ.สมยศ ถือว่าผิดจริยธรรมของข้าราชการ รวมทั้งกฎหมายป้องกันกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินอย่างชัดเจน จึงขอให้นายกฯ ตรวจสอบ เพราะขณะนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยังทำหน้าที่สนช.อยู่
ทั้งนี้ นายวัชระ ได้แสดงป้าย วัน เวลา ที่พล.อ.สมยศ ได้รับตำแหน่งสมาชิกคสช. สมาชิกสนช. และ ผบ.ตร.ในยุคที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้ารัฐบาล พร้อมกับมอบดอกกุหลาบสีแดงผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชนให้นายกฯ เนื่องในวันวาเลนไทน์ ด้วย
ในวันเดียวกันนี้ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึง ประธาน ป.ป.ช. ผ่านนายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ รักษาราชการแทน ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานป.ป.ช. เพื่อให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในฐานะสมาชิกสนช. ว่ามีการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. จากเงินกู้ยืม 300 ล้านบาท ถูกต้องครบถ้วยตามกฎหมายป.ป.ช.หรือไม่ และมีการรับประโยชน์อื่นใด อันฝ่าฝืนกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 103 ด้วยหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวว่า ในเรื่องที่ไม่พบเงินที่กู้ยืม 300 ล้านบาท ในบัญชีทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สมยศ นั้นตนไม่ติดใจ เพราะจากการชี้แจงว่าเป็นการกู้ยืมในช่วงปี 58 ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน เมื่อครั้งเข้าดำรงตำแหน่งสนช. แล้ว และอาจจะมีการยื่นในส่วนของตำแหน่งอื่น ที่ไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะได้ ตนจึงไม่ได้ยื่นให้ตรวจสอบในฐานปกปิดทรัพย์สิน แต่ขอให้ตรวจสอบว่า หนี้เงินกู้ 300 ล้านบาท มีการแจ้งต่อป.ป.ช. อย่างถูกต้องหรือไม่ หนี้เงินกู้ดังกล่าว มีการทำสัญญากู้ยืมเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ มีการรับเงิน และคืนเงินผ่านธุรกรรมทางธนาคารจริงหรือไม่ และการกู้ยืมเงินดังกล่าว พล.ต.อ.สมยศ ได้เสียดอกเบี้ยให้กับ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ซึ่งเป็นผู้ให้ยืมเงินหรือไม่ เพราะหากไม่มีการเสียดอกเบี้ย ก็จะเข้าข่ายได้รับผลประโยชน์อื่นใด ตามมาตรา 103 พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และมีโทษตามมาตรา 122 หรือไม่ ซึ่งมีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น ขอให้ส่งเรื่องให้กรมสรรพากรตรวจสอบในประเด็นภาษีจากเงินกู้ยืมดังกล่าวอีกทางหนึ่งด้วย
***"สมยศ" พบดีเอสไอให้ข้อมูล 15 ก.พ.นี้
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึง กรณีที่พนักงานสอบสวนได้เรียกพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผบ.ตร. มาสอบสวนประเด็นที่ออกมายอมรับมีการกู้ยืมเงินจำนวน 300 ล้านบาท จาก “เสี่ยกำพล” ว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้ประสานกับ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษว่าจะเดินทางมาให้ข้อมูลในประเด็นการกู้ยืมเงิน 300 ล้านบาทจาก นายกำพล ในช่วงเวลาบ่ายของวันที่ 15 ก.พ.นี้ ส่วนจะมีการนัดหมายเข้าพบกับเจ้าหน้าที่อย่างไรหรือสถานที่ใดนั้นไม่ทราบรายละเอียด เพราะขณะนี้ตนติดภารกิจอยู่ที่ต่างจังหวัด
ด้าน พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ ดีเอสไอ เผยว่า พล.ต อ.สมยศ ได้ประสานมาจะขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนตามที่ได้เชิญมาให้ข้อมูล จากเวลา 09.00 น. เป็นเวลา 13.00 น. แต่พนักงานสอบสวนจะเตรียมพร้อมตั้งแต่เช้า ไม่ว่ามาตอนไหนพร้อมสอบได้ทันที