xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"หัวร้อน"ปู-แม้ว"โผล่เย้ย…"ป้อม"ปูดเผ่นจากจีนไปญี่ปุ่นแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360- "บิ๊กตู่" อารมณ์เสีย หลัง"ปู-แม้ว" โผล่เย้ยกลางกรุงปักกิ่ง กร้าวยกศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ขอแต่ละประเทศเคารพ กม.ไทยด้วย อย่าปล่อยให้คนทำผิด ไปเคลื่อนไหว ก่อนกระแทกส้นเท้า หนีสื่อรุมถาม "บิ๊กป้อม" เกาะติดทั้งสองเผ่นออกจากจีนไปญี่ปุ่นแล้ว "ดอน" บอกไม่รู้"ปู"ถือพาสปอร์ตประเทศไหน ชี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เป็นหน้าที่ของ ตร.ในการล่าตัว "มาร์ค" เชื่อเป็นการตั้งใจปล่อยภาพออกมา พร้อมย้อนถาม มีเงิน-อำนาจ ทำอะไรก็ได้ "ภูมิธรรม"ปัดแกนนำพรรคเพื่อไทยบินพบ"แม้ว" หารือเรื่องหัวหน้าพรรคคนใหม่

เมื่อเวลา 09.15 น. วานนี้ (12 ก.พ.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เป็นประธาน เปิดงาน วันสิทธิมนุษยชนสากล และกล่าวปาฐกถาพิเศษเพื่อประกาศ "วาระแห่งชาติ : สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อน ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" ที่มีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ เข้าร่วม

ก่อนการประชุม นายกฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการ ที่ห้องโถงตึกสันติไมตรี และได้กล่าวต่อหนึ่งว่า ขณะนี้คนยังขาดความเข้าใจในเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งความจริงแล้วสิทธิมนุษยชน ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย และต้องเป็นไปตามรธน. เพื่อนำไปสู่สังคมที่ปรองดอง แต่ขณะนี้ประเทศไทยมี 2 คน ขยับอยู่ต่างประเทศ แต่กลับทำให้คนในประเทศ ป่วนไปหมด ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

นอกจากนี้ นายกฯยังได้เยี่ยมชม เกมส์ SIM Democracy ซึ่งเป็นเกมส์เมืองประชาธิปไตย ให้ผู้เล่นทอยลูกเต๋า เปิดการ์ด แล้วให้แก้ปัญหาในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอให้มีการตั้งกติกาที่จะต้องลดความขัดแย้ง และมีธรรมาภิบาลในสังคม และกล่าวว่า หากใครทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายกฯได้กล่าวย้ำอีกครั้งว่า ขยับทีเป็นข่าวไปหมด เดือดร้อนคนทั้งประเทศ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ มีสีหน้าดุดัน ขณะที่กล่าวถึงเรื่องนี้

จากนั้น นายกฯได้ขึ้นกล่าวบนเวที และยังวนมาพูดถึงเรื่องเดิมว่า การจะทำอะไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงหลักฐาน ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม

"บางคนกระบวนการครบแล้ว ลงโทษไปแล้ว ยังเคลื่อนไหวอยู่ต่างประเทศ จะทำอย่างไร ซึ่งหลายประเทศเขามองในเรื่องของเศรษฐกิจแต่เพียงอย่างเดียว มองอื่นๆ เป็นเรื่องภายในของแต่ละประเทศ แต่ผมคิดว่าประเทศไทยก็มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เหมือนกัน ฉะนั้น ใครก็ตามที่ละเมิดกฎหมายของแต่ละประเทศ มาทำผิดในประเทศไทย ผมก็ดำเนินคดี จับกุมอยู่จำนวนมากพอสมควร แล้วส่งตัวตามกฎหมายกลับไปลงโทษที่ประเทศต้นทาง เพราะฉะนั้น ทุกประเทศต้องเคารพในสิ่งเหล่านี้ด้วย อย่าให้มีการเคลื่อนไหวของคนที่ทำผิดกฎหมายของแต่ละประเทศ ทีเราเคารพกฎหมายคนอื่น ดังนั้นคนอื่นต้องเคารพกฎหมายเราด้วยเช่นกัน นั้นคือความเป็นศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ ของประเทศไทย" นายกฯ กล่าว

ทั้งนี้หลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว กรณีความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวเพียงว่า "ผมไม่มีความเห็น ก็เป็นเรื่องของต่างประเทศเขา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาก็ทำกันอยู่แล้วในเรื่องของการติดตามตัว ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เข้าทำทุกครั้ง และกับทุกคน ได้กลับมาบ้าง ไม่ได้กลับมาบ้าง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ดูเหมือนความเคลื่อนไหวของ 2 อดีตนายกฯ มีความสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวในประเทศไทย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ผมไม่สนใจ พวกคุณไปสนใจเขาทำไมล่ะ คุณสนใจคนทำผิดกฎหมายทำไม เรื่องนี้ผมไม่มองอะไรทั้งสิ้น อยู่ที่พวกสื่อจะไปให้ความสำคัญแค่ไหน พวกคุณไปให้ความสำคัญกับไอ้กระพี้ ก็ตามใจคุณ ผมไม่สนใจหรอก"

เมื่อถามว่า แต่วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ไปปรากฏตัวที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตัดบทด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ว่า "ไม่รู้ ไม่มีความคิดเห็นนะครับ ขอบคุณครับ"

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการสั่งการ และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบ แต่เดินกระแทกส้นเท้า เสียงดัง ขึ้นบันไดตึกไทยคู่ฟ้าไป

**"บิ๊กป้อม"เผย"ปู-แม้ว"ออกจากจีนไป ญี่ปุ่น

พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าว นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อไปยังเกาะฮ่องกง ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ระหว่างวันที่ 13-17 ก.พ.นี้ ซึ่งบรรดา ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย กำลังจะได้เดินทางไปพบ ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ว่า ได้รับรายงานแล้วว่า ทั้งสอง เดินทางออกจากจีน และยังได้รับรายงานว่า จะเดินทางต่อไปยังประเทศญี่ปุ่น ส่วนการติดตามตัวมาดำเนินคดี ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่

**สั่งเช็กภาพถ่าย "ปู-แม้ว"ตัดต่อหรือไม่

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นครั้งแรก ที่ประเทศจีนนับตั้งแต่หลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษาคดีปล่อยปละละเลยให้มีทุจริตจำนำข้าวว่า ได้สั่งให้กองการต่างประเทศ ทำหนังสือถึงตำรวจสากล และ กระทรวงการต่างประเทศของไทย ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องข้อมูลการเดินทาง สายการบิน ต้นทาง และปลายทาง รวมทั้งให้ตรวจสอบว่า ใช้หนังสือเดินทางของประเทศใด และได้ให้กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจสอบภาพถ่ายดังกล่าว ว่าเป็นภาพตัดต่อ หรือไม่

"การติดตามตัว อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังคงเดินหน้าทำต่อโดยเฉพาะการประสานไปยังประเทศปลายทาง ที่ปรากฏภาพ ส่วนจะได้ข้อมูลมากน้อยเพียงใดนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ และที่ผ่านมาก็ได้มีการตรวจสอบพบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ และสหรัฐอาหรับอิมิเรส์ ส่วนการขอลี้ภัย ผมยังไม่มีข้อมูล ต้องถามกองการต่างประเทศ" รอง ผบ.ตร.ระบุ

**"แม้ว-ปู"ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เบื้องต้นมีรายงานอย่างไม่เป็นทางการแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ปรากฏตัว ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนที่กระทรวงการต่างประเทศ จะดำเนินการใดๆ เพราะตอนนี้เป็นหน้าที่ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และไม่ทราบว่าตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือหนังสือเดินทางของประเทศใด เพียงทราบจากข่าวว่า ได้หนังสือเดินทางจากประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งวิธีการขอหนังสือเดินทางก็มีหลายรูปแบบ เช่น ไปทำการค้าการลงทุนกับประเทศนั้นๆ จนได้รับหนังสือรับรอง

อย่างไรก็ตาม เราได้แจ้งทุกประเทศให้รับทราบถึงกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว จากนี้คงต้องเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ ที่จะดำเนินการ

เมื่อถามว่ากระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานหรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พำนักอยู่ที่ประเทศใด เป็นหลัก นายดอน กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน โดยกระทรวงการต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งมีกระแสออกมา มากมาย

นายดอน กล่าวว่า หลังจากปรากฏภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายทักษิณ ที่กรุงปักกิ่งแล้ว นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สั่งการใดๆ เป็นพิเศษ เพราะเราไม่ถือว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย นอกจากนี้การพบกับ รมว.ต่างประเทศ ของอังกฤษ ที่เดินทางมาเยือนไทย ก็ไม่ได้มีการพูดคุยถึงกรณีดังกล่าว แต่ได้หารือถึงความสนใจของทั้งสองฝ่าย เช่น การเมืองทั่วๆไป , ความสนใจของอังกฤษ ในโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) นอกจากนี้ยังได้พูดคุยถึงการเลือกตั้งในประเทศไทย โดยเรายืนยันว่า เป็นไปตามขั้นตอน อย่างที่ได้รับทราบว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.61 แต่ปรากฏว่า เมื่อ สนช. แก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ การเลือกตั้งจึงต้องเลื่อนออกไป โดยอังกฤษ ก็ได้รับทราบ เช่นเดียวกับ รมว.ต่างประเทศอิตาลี ที่เดินทางเยือนไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่างก็ได้รับทราบโดยไม่มีข้อคิดเห็นใดๆ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องภายในของประเทศไทย

** ชี้เป็นหน้าที่ ตร.-ดีเอสไอ ล่าตัว

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึง การประสานติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าในส่วนของกระทรวงยุติธรรม จะเกี่ยวข้องกับกรมบังคับคดี ที่รับผิดชอบเรื่องการยึด อายัดทรัพย์ ส่วนการติดตามตัว เป็นเรื่องของตำรวจ กับ ดีเอสไอ ที่จะแบ่งความรับผิดชอบกัน

ส่วนที่ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครอง มีคำสั่งให้กรมบังคับคดี งดหรือชะลอการขายทอดตลาดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น ในแง่ของการยึดทรัพย์ เราก็กำลังดำเนินการอยู่ แต่เนื่องจากแบ่งหน้าที่ในการติดตาม ตนขอไปติดตามก่อน และจะแจ้งให้ทราบ ซึ่งขณะนี้ตนไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ และก็ได้รับเรื่องจากทนาย ที่เป็นตัวแทนแล้ว ซึ่งเราได้ชี้แจงไปว่า กรมบังคับคดี ดำเนินการตามกฎหมาย และมาตราที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ได้หมายความว่า เราจะตอบรับ หรือปฏิเสธ เพราะมีกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ว่าต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งเราจะทำไปตามขั้นตอน และคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้มีการรายงานเข้ามายัง ดีเอสไอ

**ถ้ามีเงิน มีอำนาจ ทำอะไรก็ได้ใช่ไหม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปรากฏตัวที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า เราต้องกลับมาดูประเด็นจัดการปัญหากับผู้ที่หลบหนีคดี ซึ่งสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล เรื่องนี้ยุ่งมาก เพราะนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ สมัยนั้นเอาจริง โดยพยายามสกัดกั้น และประสานงานยังประเทศต่างๆ ไม่ใช่ปล่อยให้ไปปรากฏตัว แล้วค่อยติดตาม ดังนั้น ปฏิกิริยาสังคมในตอนนั้นจึงแรง

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เคยคิดหรือไม่ว่า ทำไมเหตุการณ์ชุมนุมปี 53 ถึงชุมนุมใหญ่ ทั้งที่ตนเป็นรัฐบาล ตั้งแต่ปี 51 เพราะในปีนั้น มีการยึดทรัพย์ นายทักษิณ 4 หมื่นกว่าล้านบาท จึงมีปฏิกิริยา ทั้งนี้การปรากฏตัวของทั้งสองคน ที่ประเทศจีน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันมีจังหวะในการปล่อยภาพ

"ไม่เข้าใจจริงๆว่า ทำไมถึงเพิกถอนหนังสือเดินทางไม่ได้ เพราะระเบียบชัด ในเมื่อไม่มาปรากฏตัวต่อศาล รัฐก็ไม่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เดินทางไปไหนอยู่แล้ว แต่กลับบอกไม่ได้ ต้องรอให้มีคำพิพากษาศาลก่อน แล้วจึงเพิกถอนได้ จนกระทั่งมีภาพไปปรากฏ ถึงมาบอกว่าจะเพิกถอนหนังสือเดินทาง มันจึงทำให้เกิดความรู้สึกว่า ถ้ามีเงิน มีอำนาจ ทำอะไรก็ได้ใช่ไหม"

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงการเคลื่อนไหว ของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ในนามคนอยากเลือกตั้ง ว่า คนกลุ่มนี้ มีคดีที่ค้างอยู่ แต่ได้แสดงออกว่าไม่กลัว อีกทั้งการชุมนุมในครั้งนี้ เป็นการชุมนุมอย่างสงบ เมื่อถูกจับกุม เขาคิดว่าจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดแนวร่วม ซึ่งจะทำให้ คสช. ตกอยู่ในสถานะลำบาก ถ้าไม่จับ ก็ไม่ได้ แต่ถ้าทำแบบเคร่งครัด เท่ากับเป็นการเติมฟืนเข้าเตาไฟ นอกจากนี้เหตุผลที่ทำให้กล้าชุมนุมมากขึ้น เพราะเขารู้ว่า สังคมกำลังไม่พอใจ คสช. ทั้งเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ การปฏิรูปที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความไม่แน่นอน และความน่าเชื่อถือ

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า มีแกนนำพรรคหลายคน เดินทางไปกรุงปักกิ่ง เพื่อหารือกับนายทักษิณ เกี่ยวกับเรื่องหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ก่อนลงสู้ศึกเลือกตั้ง โดยอ้างว่าขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่ คสช. ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น