xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติชี้ความเสี่ยงสูง-สั่งแบนคริปโตเคอเรนซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน 360 - แบงก์ชาติออกหนังสือเวียนห้ามสถาบันการเงิน ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซีทุกด้าน ทั้งการแลกเปลี่ยน-การใช้บัตรเครดิต รวมถึงการสนับสนุนธุรกรรมทุกประเภท เหตุผันผวนและเสี่ยงสูง รวมถึงอาจนำไปสู่ของทางการฟอกเงิน ด้าน TDAX กระดานซื้อขายยันไม่ได้รับผลกระทบ พร้อมคาดการณ์สินเชื่อระบบธนาคารพาณิย์ปี 61 ขยายตัว 6-8% จากปีก่อนนี้ 4.4%

วานนี้ (12 ก.พ.) นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกหนังสือเวียนไปยังสถาบันการเงินทุกแห่ง เรื่อง ขอความร่วมมือสถาบันการเงินไม่ให้ทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) เนื่องจากปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับการทำธุรกรรมทางการเงินและพัฒนารูปแบบการให้บริการทางการเงินในลักษณะต่างๆ รวมถึงการกำเนิดคริปโตเคอเรนซี เช่น Bitcoin หรือ Ether โดยคริปโตเคอเรนซีบางประเภทไม่สามารถระบุผู้ออกได้อย่างชัดเจน ไม่มีสินทรัพย์ค้ำประกันตามมูลค่าหรือไม่มีสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งผู้ที่ต้องการทำธุรกรรมดังกล่าวสามารถทำรายการซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้

ประกอบกับ ที่ผ่านมาราคาของคริปโตเคอเรนซีมีความผันผวนสูง ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการเก็งกำไร ผู้ทำธุรกรรมจึงมีความเสี่ยงจากการขาดทุนสูง รวมทั้งไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในระยะเวลาอันรวดเร็วได้

"ในไทยคริปโตเคอเรนซี ยังไม่สามารถใช้ชำหนี้ตามกฎหมายได้ และยังไม่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานใด ผู้ทำธุรกรรมอาจไม่ได้รับความคุ้มครองในกรณีถูกหลอกลวง หรือเกิดปัญหาในการทำธุรกรรม รวมทั้งอาจเป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมายได้ เช่น การฟอกเงิน หรือการสนับสนุนการก่อการร้ายได้"

ดังนั้น ธปท. จึงขอความร่วมมือสถาบันการเงินทุกแห่ง ไม่ให้ทำธุรกรรมหรือมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี ทั้งการเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายในคริปโตเคอเรนซีเพื่อผลประโยชน์ของสถาบันการเงินเองหรือผลประโยชน์ของลูกค้า การให้บริการรับแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีผ่านช่องทางให้บริการของสถาบันการเงิน การสร้างแพลตฟอร์ม (platform) เพื่อเป็นสื่อกลางให้ลูกค้าเข้าไปทำธุรกรรมเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีระหว่างกัน การให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตในการซื้อคริปโตเคอเรนซี รวมถึงการสนับสนุนหรือให้คำปรึกษากับลูกค้าเกี่ยวกับการลงทุนหรือการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี

นอกจากนี้ สถาบันการเงินทุกแห่งต้องเพิ่มความระมัดระวังการให้บริการด้านเงินฝากและด้านสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชี หรือการใช้บัญชีที่อาจนำไปสู่การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี โดยขอให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติในเรื่องการรู้จักตัวตนของลูกค้า (Know Your Customer : KYC) และดำเนินการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (Customer Due Diligence : CDD) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้การทำธุรกรรมดังกล่าวถูกใช้เป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย

นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ TDAX กระดานซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ และที่ปรึกษา JFin Coin กล่าวว่า การออกหนังสือเวียนของธปท.น่าจะเป็นการปรามให้ระมัดระวัง ยังไม่ได้ถึงขั้นเป็นคำสั่งหรือกฎห้าม ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้กระทบกับการซื้อขายในกระดานของ TDAX ผู้ซื้อยังสามารถโอนเงินมาเพื่อซื้อขายกันได้ตามปกติ และคงต้องรอกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่ออกมาชัดเจนอีกครั้งจึงจะประเมินผลกระทบในวงกว้างได้ รวมถึงการลงทะเบียนเพื่อจองซื้อ JFin Coin ของบริษัท เจ เวนเจอร์สก็ยังคงดำเนินการได้อยู่เช่นกัน โดยสิ่งที่ตนคิดว่าต้องมีความระมัดระวังมากขึ้นก็น่าจะเรื่องของการยืนยันตัวตน (KYC)ที่จะต้องตรวจสอบส่วนต่างๆอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีของการฟอกเงิน หรือการนำไปเกี่ยวข้องกับเรื่องผิดกฎหมายมากกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น