เราได้รับรู้รับสภาพของการอยู่ร่วมกับรัฐบาลคุณท่านมานานเกือบ 4 ปีแล้ว ใครได้ประโยชน์มากน้อยขึ้นอยู่กับสภาวะและสังคมสิ่งแวดล้อม หน้าที่การงาน สำหรับกระพ้ม มาถึงจุดนี้แล้วอยากขอเรียนให้ทราบว่าเราควรเลิกหวังในรัฐบาลนี้ได้แล้ว
และควรมองข้ามผ่านคณะผู้บริหารบ้านเมืองชุดนี้ได้แล้ว! ส่วนจะมีทางเลือกอื่นใดหรือไม่ รัฐบาลนี้จะไปเมื่อไหร่ หมอดูก็ทายไม่ได้ บอกได้แต่เพียงว่าแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อบ้านเมืองมีปัญหาเคราะห์ร้ายคับขัน จะมีเหตุต้องเปลี่ยนแปลงเสมอ
เราเคยนึกว่ารัฐบาลเหลี่ยมร้ายกุมอำนาจคับประเทศ มีเครือข่ายมวลชนหนุนหนาแน่นด้วยโดนมอมเมาด้วยฤทธิ์ประชานิยมถมไม่เต็ม ก็ยังอยู่ได้ไม่นาน เพราะพลังประชาชนเป็นตัวกำหนด เมื่อเห็นว่าอำนาจชั่วร้ายจะกินบ้านเมืองจนล่มสลาย
เช่นเดียวกับรัฐบาลนอมินีของเหลี่ยมร้าย สมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ สุดฉาวก็อยู่ได้ไม่นาน ส่วนรัฐบาลค่ายสะตอมาคั่นกลาง ถูกขบวนการเสื้อแดงและเครือข่ายเหลี่ยมถล่มจนเละเช่นกัน บ้านเมืองเสียความน่าเชื่อถือ ระบบนิติรัฐเกือบไม่เหลือ
มาถึงคณะแห่งความหวังเข้ามาโดยการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ผู้นำเสียงดังกระหึ่ม สร้างความน่าเชื่อถือศรัทธาช่วงแรก ด้วยเพลง “เราจะทำตามสัญญา...” ทำเอาชาวบ้องตื้นเป็นปลื้ม แต่ชุมชนคนตาสว่างไว้ใจคนยาก เห็นความผิดปกติ
ฟังเพลงนานกว่าค่อนปี ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันด้านการปฏิรูปโครงสร้างประเทศ งานจัดระเบียบสังคมนั่นนี่โน่นเป็นเพียงไฟไหม้ฟาง ผักชีโรยหน้า การยึดพื้นที่คืนจากผู้บุกรุกทำฮึกเหิมช่วงแรก จากนั้นก็แผ่ว เมื่อเผชิญอิทธิพลของจริง
ความไม่เอาจริง เหยาะแหยะ เน้นเสียงดังสร้างภาพว่าเป็นนักปกครองบุรุษเหล็ก กลายเป็นเพียงเปลือก ลูกน้องโดนถล่มกลางเมืองละลายเป็นกองร้อยยังไม่ได้รับการชำระสะสางด้วยความยุติธรรม ขบวนการเผาเมืองยังคงอยู่ดีกินดีมีสุขสบาย
อะไรที่ชาวบ้านหวัง ไม่เกิดขึ้น คำอ้าง “ศาสตร์พระราชา เศรษฐกิจพอเพียง เกษตรอินทรีย์” กลายเป็นคำพูดเพ้อเจ้อ ลมๆ แล้งๆ ขณะที่ชาวบ้านต้องเสี่ยงกับสารพิษเคมีเกษตรสารพัดเพราะอำนาจนายทุนครอบงำผู้กุมอำนาจรัฐจนเดี้ยงสนิท
ขณะที่ใช้ลีลาวาทกรรม เล่นลิ้นตีกินไปเรื่อยๆ ชาวบ้านก็ได้แต่ฟังเพลงใหม่ เพราะ “ทำตามสัญญาไม่ได้แล้ว” พร้อมกับได้เห็นลวดลายการเล่นเกมซ่นกลเพื่อยื้อการเลือกตั้งจากเดิมปี 2559 จน 2560 และบัดนี้ยังไม่มีวี่แววจะเป็นจริงตามคำอ้าง
โรดแมปเป็นเพียงการพูดแหม็บๆ แหกตาคนบ้องตื้น ขณะที่พยายามวาดฝันโครงการขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านไม่ต้องการ มาสร้างหนี้สินให้แผ่นดิน ทุ่มเงินตำน้ำพริกละลายแม่น้ำด้วยโครงการประชารัฐ ไทยนิยมถมไม่เต็ม ส่งเสียงเจื้อยแจ้วตีกินตลอด
พูดไปก็เท่านั้น ถ้าจะประเมิน ชาวบ้านคนรู้ทันเชื่อแล้วว่าคณะนี้ขาดความจริงใจทำงานเพื่อบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนส่วนใหญ่ ไม่วางรากฐานเพื่อความมั่นคง มุ่งแต่โครงการเพื่อกลุ่มทุนใหญ่ ขณะที่การโกงกินยังชุกเหมือนเดิม
นี่เป็นความพิลึกกึกกือ นักการเมืองไม่ได้บริหารบ้านเมือง แต่การโกงกินคำโตยังไม่ลดละ มีเสียงซุบซิบดังๆ ด้วยซ้ำว่าการทุจริตโกงกินคำโตไม่ต่างจากนักการเมือง ใครเป็นตัวโกง? ข้าราชการ พ่อค้าแค่นั้นหรือ เมื่อมีอำนาจพิเศษกดหัวคนทั่วแผ่นดิน
ด้วยโครงการต่างๆ คุณท่านผู้นำเดินสายหาเสียงไปหลายจังหวัด พบปะปิดห้องคุยกับพวกเจ้าพ่อมาเฟียนักซื้อเสียงเลือกตั้งนายทุนมีอิทธิพลท้องถิ่นและระดับชาติหวังผูกไมตรีจะได้อยู่ต่อเป็นนายกฯ คนนอก แทนที่จะเลือกเป็นรัฐบุรุษ
พูดคำใหญ่คำโต ตวาด ตะคอก ชี้หน้าสื่อ คนทั่วแผ่นดินยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ย หรือทหารเกณฑ์ แต่มาสยบซูฮกนักการเมืองสีเทา มีประวัติโกงกินคำโต ที่ถูกรัฐประหาร เพียงเพื่อจะได้เป็นฐานเสียงหนุนให้อยู่ต่อ ปากก็บอกไม่สืบทอดอำนาจ
รูปแบบพฤติกรรมฟ้องให้เห็นชัดอย่างนี้ ชาวบ้านตาสว่างทั้งแผ่นดินแล้ว!
เรื่องราวฉาวโฉ่ต่างๆ ของคนใกล้ชิดแวดล้อม ไม่แสดงมาดเป็นผู้นำเด็ดขาด ดันมีวจีเจื้อยแจ้วเฉไฉไขสือ เปิดเผยให้เห็นธาตุแท้ว่าชาวบ้านคงหวังอะไรไม่ได้แน่
ดังนั้น คณะนี้จึงไม่ใช่ “Effective Government” หรือรัฐบาลที่ใช้ได้ ชาวบ้านหลังพึ่งได้ จะอยู่หรือจะไปเมื่อไหร่ ก็ไม่ควรใส่ใจ เพราะอยู่ต่อไปก็เหมือนไม้ตายซาก ไร้ความน่าเชื่อถือ เป็นรัฐบาล “เป็ดง่อย” ขาดฉันทานุมัติ ความชอบธรรม เสียแล้ว!
อยู่ไปแต่ละวันด้วยวาทกรรมเพื่อตีกิน ชาวบ้านสิ้นศรัทธา โครงการไทยนิยมถมไม่เต็มเป็นการใช้จ่ายเงินแบบอีลุ่ยฉุยแฉก เสริมแนวคิดประชาธิปไตยไทยนิยม ทั้งๆ ที่ตัวเองพร่ำอธิบายอย่างไร ชาวบ้านก็ไม่เข้าใจ เพราะคิดเอง เออเอง เชื่อเอง
วิกฤตศรัทธา ถูกตอกย้ำด้วยคำพูดเสียงแผ่วเบา “ใช้กองหนุนเกือบหมดแล้ว” นั่นก็นานหลายสัปดาห์ ป่านนี้คงไม่เหลือ หลังจากเรื่องนาฬิกา ลีลาวาทกรรม “เรื่องส่วนตัว” ไม่ใช่งบรัฐบาล ทั้งๆ ที่กระทรวงและรัฐบาลไม่ใช่หน่วยงานส่วนตัวของใคร
เมื่อเขาไม่แคร์ ไม่ใส่ใจชาวบ้าน ก็ไม่จำเป็นที่คนทั่วไปยอมโง่เป็นกองหนุนให้ เพราะไม่มีสัญญาณใดเลยที่คณะนี้จะปรับปรุงตัวเอง แนวคิด ทัศนคติ ทำงานเพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน หายใจเข้าออกมีแต่เรื่องจะยื้อการเลือกตั้งจนคนประท้วง
จากประชารัฐสู่ประชาธิปไตยไทยนิยม และความดีไทยนิยม ก็เป็นเพียงลีลาวาทะโอ่อ่า ไร้เนื้อหาสาระ ยิ่งไม่มีประชาชนเป็นฐานจึงเป็นขาลง ขาลอยสู่ขาออก
เลิกหวังอะไรได้แล้ว มองข้ามรัฐบาลนี้ไปเถอะ คงทนได้อีกไม่นาน เลือกตั้งก็ยังไม่มี ถ้าเมืองไทยยังโชคดีคงมีรัฐบาลคั่นกลาง วางพื้นฐานให้มั่นคงก่อนเลือกตั้ง!