ผู้จัดการรายวัน 360 -"ณฐาภพ" ผอ.หื่น เข้ารับทราบข้อหาอนาจารเด็ก นร.ม.2 ตำรวจค้านประกันตัว ก่อนศาลไฟเขียวให้ปล่อยตัวด้วยวงเงินประกัน 2 แสนบาท ด้านศึกษาธิการจังหวัด เผยให้เวลาคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแค่ 60 วัน ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการส่งเจ้าหน้าที่ลงหาข้อมูลเตรียมถอดใบประกอบวิชาชีพฯ
วานนี้ (7 ก.พ.) นายณฐาภพ บุญทองโท ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี พร้อมด้วยทนายความ ได้เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ ตามที่แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 วัย 14 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดี โดยนายณฐาภพได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา และขอไปให้การในชั้นศาล
หลังจากสอบปากคำเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายณฐาภพ ไปขออำนาจฝากขังต่อศาลจังหวัดบัวใหญ่ เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง ต่อมาทนายความของนายณฐาภพ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาท ประกันตัวในชั้นศาล ก่อนศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวเรียบร้อยแล้ว
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ศึกษาธิการจังหวัดฯ ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยแรงร้ายและสั่งพักราชการ นายณฐาภพ ซึ่งได้กำชับให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนระยะเวลาสอบสวนวินัยร้ายแรงตามกฎหมาย 120 วัน แต่ทางคณะกรรมการที่แต่งตั้งไปจะเร่งรัดดำเนินการเร็วขึ้นโดยให้ความกระจ่างชัดภายใน 60 วัน เนื่องจากคณะกรรมการเห็นว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจติดตามมาก
ด้านนายสุวิทย์ ศรีฉาย รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงมีการประชุมเพื่อหาแนวทางการสอบสวนนายณฐาภพ โดยได้ข้อสรุป 2 แนวทางคือ การสรุปข้อกล่าวหาและอธิบายข้อกล่าวหาให้แก่นายณฐาภพ ได้ทราบและลงลายมือชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วในข้อหา มีพฤติกรรมชู้สาวเกี่ยวกับเด็กนักเรียนที่อยู่ในความปกครองของตนเองเป็นการผิดวินัยอย่างร้ายแรง และได้สั่งพักราชการไปตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2561
ส่วนกรณีที่นายณฐาภพ ออกมาปฏิเสธและอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งนั้น ตนไม่ทราบ ขณะนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกำลังหาข้อเท็จจริงอยู่ โดยจะรวบรวมพยานแวดล้อม พยานเอกสารให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด 60 วัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภาพพจน์ที่ทำให้องค์กรครู วิชาชีพครูเสื่อมเสีย เพราะจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นวิชีพชั้นสูง มีใบประกอบวิชาชีพ มีวิทยฐานะด้วย โดยเฉพาะผู้บริหารที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ครูและลูกศิษย์ แก่ประชาชนและสังคม เรื่องนี้สังคมให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งทางกระทรวงศึกษาได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาขอข้อมูลดังกล่าว เพื่อประกอบในการพิจารณาเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพของนายณฐาภพด้วย
วานนี้ (7 ก.พ.) นายณฐาภพ บุญทองโท ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านป่าตองท่าเนินสามัคคี พร้อมด้วยทนายความ ได้เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาพรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กับพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบัวใหญ่ ตามที่แม่ของเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.2 วัย 14 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดี โดยนายณฐาภพได้ให้การปฏิเสธทุกข้อหา และขอไปให้การในชั้นศาล
หลังจากสอบปากคำเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้นำตัวนายณฐาภพ ไปขออำนาจฝากขังต่อศาลจังหวัดบัวใหญ่ เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูง ต่อมาทนายความของนายณฐาภพ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 2 แสนบาท ประกันตัวในชั้นศาล ก่อนศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวเรียบร้อยแล้ว
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ศึกษาธิการจังหวัดฯ ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยแรงร้ายและสั่งพักราชการ นายณฐาภพ ซึ่งได้กำชับให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนระยะเวลาสอบสวนวินัยร้ายแรงตามกฎหมาย 120 วัน แต่ทางคณะกรรมการที่แต่งตั้งไปจะเร่งรัดดำเนินการเร็วขึ้นโดยให้ความกระจ่างชัดภายใน 60 วัน เนื่องจากคณะกรรมการเห็นว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจติดตามมาก
ด้านนายสุวิทย์ ศรีฉาย รักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงมีการประชุมเพื่อหาแนวทางการสอบสวนนายณฐาภพ โดยได้ข้อสรุป 2 แนวทางคือ การสรุปข้อกล่าวหาและอธิบายข้อกล่าวหาให้แก่นายณฐาภพ ได้ทราบและลงลายมือชื่อเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วในข้อหา มีพฤติกรรมชู้สาวเกี่ยวกับเด็กนักเรียนที่อยู่ในความปกครองของตนเองเป็นการผิดวินัยอย่างร้ายแรง และได้สั่งพักราชการไปตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 2561
ส่วนกรณีที่นายณฐาภพ ออกมาปฏิเสธและอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งนั้น ตนไม่ทราบ ขณะนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกำลังหาข้อเท็จจริงอยู่ โดยจะรวบรวมพยานแวดล้อม พยานเอกสารให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด 60 วัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นภาพพจน์ที่ทำให้องค์กรครู วิชาชีพครูเสื่อมเสีย เพราะจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นวิชีพชั้นสูง มีใบประกอบวิชาชีพ มีวิทยฐานะด้วย โดยเฉพาะผู้บริหารที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ครูและลูกศิษย์ แก่ประชาชนและสังคม เรื่องนี้สังคมให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งทางกระทรวงศึกษาได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาขอข้อมูลดังกล่าว เพื่อประกอบในการพิจารณาเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพของนายณฐาภพด้วย